xs
xsm
sm
md
lg

นักโบราณคดีชี้ฉากใน MV “ลิซ่า BLACKPINK” น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากซุ้มประตูปราสาทพนมรุ้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักโบราณคดีอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งเผยฉากที่ปรากฏใน MV ลิซ่า BLACKPINK หรือ ลลิษา มโนบาล น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากโบราณสถานส่วนด้านหน้าของปราสาทพนมรุ้ง และนับเป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยที่ค่ายเพลงดังระดับโลกได้หยิบยกเอาโบราณสถานสำคัญเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก

จากกรณี “ปราสาทหินพนมรุ้ง” จ.บุรีรัมย์ แหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมขอมชื่อดังจังหวัดบ้านเกิดของ “ลิซ่า BLACKPINK” หรือ ลลิษา มโนบาล หรือ Lisa Blackpink ซึ่งเป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังเป็นฉากประกอบในเอ็มวีของ ลิซ่า แบล็คพิงค์ ซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวทั้งใกล้ไกลต่างพากันไปเยือนตามรอยเอ็มวีดังกล่าวตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว

วันนี้ (14 ก.ย.) เพจ “อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง บุรีรัมย์ Phanom Rung Historical Park” ได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หลังจากกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลัง ลิซ่า BLACKPINK นักร้องดังสัญชาติไทย ออก MV เปิดตัวเพลงใหม่ ‘LALISA’ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งในเพลงได้สอดแทรกความเป็นไทยผ่านเครื่องแต่งกาย ท่าเต้น รวมถึงฉากปราสาทหินใน MV ที่กำลังเป็นกระแสว่าน่าจะหมายถึงปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ โดยฉากดังกล่าวมีลักษณะเป็นซุ้มประตู มีองค์ประกอบต่างๆ รวมถึงลวดลายประดับที่ประยุกต์ได้งดงามลงตัว

โดยระบุว่า “ฉากที่ปรากฏใน MV น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากโบราณสถานส่วนด้านหน้าของปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างหลัก ได้แก่ “โคปุระ” คือซุ้มประตูทางเข้า ตั้งอยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยห้องยาวๆ เรียกว่า “ระเบียงคต” และด้านหน้ามีเวทีที่ประดับด้วยเศียรและลำตัวนาค เรียกว่า “สะพานนาคราช” นับเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ

โดยจะพาทุกท่านมารู้จักรายละเอียดปลีกย่อยขององค์ประกอบส่วนต่างๆ ว่ามีชื่อเรียกอะไรบ้าง
ในส่วนแรกเรียกว่า “เสาติดกับผนัง หรือ เสาประดับซุ้มประตู” แกะสลักเป็นเสาสี่เหลี่ยมผืนผ้ารองรับเศียรนาคปลายกรอบหน้าบัน บนเสาสลักลายก้านต่อดอก ที่หัวเสามีลายบัวกุมุท (ดอกตูมเล็กๆ) เรียงเป็นแถว และลายดอกซีกดอกซ้อนประดับอย่างงดงาม

ส่วนที่สอง มีลักษณะเป็นแผ่นหินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า วางอยู่เหนือกรอบประตู มีเสาแปดเหลี่ยมสลักลายวงแหวนเป็นชั้นๆ (เสาประดับกรอบประตู) รองรับน้ำหนักอยู่ แผ่นหินดังกล่าวเรียกว่า “ทับหลัง” เป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีทุกยุคสมัย นิยมสลักลวดลายต่างๆ ซึ่งนักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ศิลปะใช้ศึกษาพัฒนาการของปราสาทหินในแต่ละช่วงเวลา และยังสามารถใช้กำหนดอายุโบราณสถานได้อีกด้วย โดยทับหลังด้านทิศตะวันออกของโคปุระนี้สลักเป็นเทพประทับเหนือหน้ากาลที่กำลังจับขาสิงห์คายท่อนพวงมาลัยออกมาทั้งสองข้าง สันนิษฐานว่าเทพดังกล่าวน่าจะหมายถึง พระอินทร์ ผู้รักษาทิศตะวันออก

ส่วนที่สาม เป็นหน้าจั่วทรงสามเหลี่ยม เรียกว่า “หน้าบัน” ประกอบด้วยกรอบหน้าบันคดโค้งประดับลายก้านต่อดอก มีใบระกาเป็นลวดลายพรรณพฤกษา ที่ปลายหน้าบันสลักเป็นนาค 5 เศียรคายพวงอุบะ พื้นที่ภายในหน้าบันสลักภาพ “พระศิวะในปางมหาโยคี หรือ โยคทักษิณามูรติ” อนึ่ง ภาพสลักดังกล่าวยังอาจหมายถึง “นเรนทราทิตย์” แห่งราชวงศ์มหิธรปุระ ผู้สร้างปราสาทพนมรุ้งตามข้อความในจารึกที่พบ ณ ปราสาทแห่งนี้อีกด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของหลังคาซุ้มโคปุระยังประดับด้วย “บราลี” ลักษณะเป็นหินกลึงทำเป็นวงแหวนซ้อนกันเป็นชั้นๆ ส่วนยอดคล้ายดอกบัวตูมปักเรียงเป็นแถวบนสันหลังคา งดงามอย่างยิ่ง

จากรูปแบบศิลปะและลวดลายประดับดังกล่าว ณ ปราสาทพนมรุ้ง กำหนดอายุในช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 หรือเมื่อ 900 ปีมาแล้ว โดยกระแสในปัจจุบันเชื่อว่าซุ้มประตูนี้คือแรงบันดาลใจในฉาก MV เพลง LALISA ของลิซ่า BLACKPINK นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยที่ค่ายเพลงดังระดับโลกได้หยิบยกเอาโบราณสถานสำคัญอย่าง “ปราสาทพนมรุ้ง” สัญลักษณ์ของจังหวัดบุรีรัมย์บ้านเกิดของลิซ่า รวมถึงวัฒนธรรมไทยด้านการแต่งกายไปเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก นับเป็นการต่อยอดทางวัฒนธรรมที่ดีงาม และสร้างปรากฏการณ์ทุบสถิติ MV ศิลปินเดี่ยวที่ผู้เข้าชมกว่า 100 ล้านวิวภายในช่วงเวลาเพียง 2 วัน เรียบเรียงโดย : นายกฤษณพงศ์ พูนสวัสดิ์ นักโบราณคดี อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง”



กำลังโหลดความคิดเห็น