อดีตพระพุทธะอิสระชี้กรณีสองพระไลฟ์สดส่อถึงตัวตนของผู้กระทำ โนสนโนแคร์เพราะมวลชนเป็นแสน ไยต้องสนใจพระธรรมวินัย ชี้ผู้ที่จะประกาศธรรมต้องมีคุณสมบัติ 5 ประการ
วันนี้ (7 ก.ย.) นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย โพสต์ข้อความกรณีที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระประจำวัดสร้อยทอง กรุงเทพมหานคร ได้ไลฟ์สนทนาธรรมกับ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดัง โดยมีผู้ชมพร้อมกันกว่า 2 แสนคน ระบุว่า
“ถามมา ตอบไป
7 กันยายน 2564
ถาม ท่านรู้สึกอย่างไรกับเฟซบุ๊กไลฟ์ของมหาสองรูปที่แสดงธรรม ออกมาเล่นตลกให้คนดู?
ตอบ พฤติกรรมส่อถึงตัวตนของผู้กระทำ ผู้มีปัญญา มองแล้ว เห็นแล้ว รู้แล้ว ก็พอเข้าใจได้ว่า พระธรรมวินัยนี้คงจะไปหวังอะไรกับคนเก๊ยาก
ถาม ดรามาที่เกิดขึ้นในกรณีเฟซบุ๊กไลฟ์ของมหาทั้งสองนี้ท่านมองอย่างไร?
ตอบ ก็มหาออกมาพูดเองไม่ใช่หรือว่า เขาโนสน โนแคร์ เพราะเขามีมวลชนสนับสนุนเขาเป็นแสน ทำให้เขามีตัวตนดังที่เห็น
เมื่อเขาเห็นจำนวนมวลชนยังสนับสนุนเขาจำนวนมากเสียขนาดนี้ ไยเขาต้องมาสนใจพระธรรมวินัย จารีตประเพณี และกฎเถรสมาคมอีกเล่า นั่นก็คงเป็นเพราะเขายึดจำนวนมวลชนเป็นหลักนั่นเอง
ถาม แล้วพระธรรมวินัยว่าอย่างไร กับการแสดงธรรม?
ตอบ พระธรรมวินัยบอกไว้ชัดว่า ผู้ที่จะประกาศธรรม เผยแผ่ธรรม จักต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ 5 ประการ
1. แสดงธรรมไปโดยลำดับ
2. อธิบายชี้แจงให้เข้าใจตามหลักเหตุและผล
3. แสดงธรรมด้วยความเมตตา
4. แสดงธรรมโดยมิได้มุ่งหวังอามิส
5. แสดงธรรมโดยไม่กระทบผู้อื่น
และยังต้องมีจุดมุ่งหมายในการแสดงธรรมเพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเบื่อหน่าย ให้ผู้ฟังคลายความกำหนัด ความทะยานอยาก เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ผู้ฟัง เพื่อความดับภพ ชาติ
บวชเรียนมาจนได้ปริญญา เรียนได้ถึงมหาเปรียญ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ยังไม่รู้ ไม่รู้ก็ต้องบอกว่า โนคอมเมนต์แล้วล่ะ
พุทธะอิสระ