xs
xsm
sm
md
lg

“หมอธีระวัฒน์” ชี้โควิดคือสงครามวัคซีนมีไม่พอ แนะฉีดวัคซีนเข้าชั้นผิวหนังแทนกล้าม ยันเป็นเทคนิคใช้กันมา 37 ปีแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์ข้อความถึงปัญหาวัคซีนโควิด-19 ขาดแคลนในประเทศไทย โดยแนะให้ฉีดแบบเข้าชั้นผิวหนังใช้วัคซีนน้อยลง 5 ถึง 10 เท่าถึงจะเพียงพอทั้งประเทศ พร้อมเผยเป็นเทคนิคซึ่งใช้กันมา 37 ปีแล้ว

วันนี้ (25 ส.ค.) เฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha” หรือ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์​สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ปัญหาการขาดแคลนวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย โดยแนะให้ฉีดแบบเข้าชั้นผิวหนังถึงจะเพียงพอทั้งประเทศ โดยระบุข้อความว่า “นี่คือสงคราม วัคซีนมีไม่พอ ทำอย่างไรจะฉีดคนไทยได้หมดใน 3 เดือนเพื่อคุมโรคระบาดและไม่ให้การกลายพันธุ์ ฉีดเข้ากล้าม ฉีดง่าย ปักเลยแต่ต้องใช้ปริมาณวัคซีนมาก ฉีดเข้าชั้นผิวหนัง ต้องประดิดประดอยเล็กน้อย แต่ใช้วัคซีนน้อยลง 5 ถึง 10 เท่า

นั่นคือ 1 ล้านโดส จะกลายเป็น 5 หรือ 10 ล้านโดส เป็นเทคนิคใช้กันมา 37 ปีแล้ว วัคซีนหมาบ้า ไข้เหลืองในแอฟริกา ไข้หวัดใหญ่ที่ปัจจุบันใช้กัน ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากันในด้านกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และผลข้างเคียงน้อยกว่า สำหรับกรณีวัคซีนโควิดเข็มหนึ่ง และสองโมเดนามีศึกษาเข้าชั้นผิวหนังแล้ว ได้ผลเท่าฉีดเข้ากล้าม ซิโนแวคเข้ากล้าม 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันขึ้นช้า แต่ตกเร็วจนไม่เหลือ ดังนั้นเมื่อต่อด้วยแอสตร้าฯ เป็นเข็มที่สามเข้าชั้นผิวหนัง พบว่ากระตุ้นภูมิได้สูงมากขึ้นไปอีกจากที่ไม่มีภูมิแล้ว ทั้งยับยั้งสายพันธุ์เดลตาได้ และได้ผลเท่ากับฉีดเข้ากล้าม”



กำลังโหลดความคิดเห็น