เพจ “Anti-Fake News Center Thailand” ออกมาเตือนชาวเน็ตแชร์ข่าวห้องทดลองเชื้อโรคที่ใหญ่ที่สุดในโลกของกองทัพสหรัฐฯ อยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นข่าวปลอม ด้าน รองโฆษก ตร. เตือนผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอม และผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจัง
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. เพจ “Anti-Fake News Center Thailand” ออกมาโพสต์ข้อความเตือนหลังมีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์เกี่ยวกับกรณี กรุงเทพฯ มีห้องทดลองเชื้อโรคที่ใหญ่ที่สุดในโลกของกองทัพสหรัฐฯ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดโควิดในไทยนั้น ซึ่งทางเพจ “Anti-Fake News” ยืนยันว่า เป็นข่าวปลอม โดยได้ระบุข้อความว่า
“ทางกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง สำหรับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (สวพท.) หรือ AFRIMS เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมแพทย์ทหารบก จากความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมของไทย และกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ในการร่วมวิจัยการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อในประเทศ ตลอดจนยังเป็นหน่วยเครือข่ายความร่วมมือการวิจัยโรคอุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำขององค์การอนามัยโลก (WHO) และได้มีการศึกษาวิจัยโรคเขตร้อน โรคระบาด โรคติดเชื้อ
ปัจจุบัน สวพท. เป็นห้องปฏิบัติการในการตรวจคัดกรอง COVID-19 นอกจากนี้ พ.ท.แบรนดอน แมคคาร์เธอร์ รอง ผอ.สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร ฝ่ายสหรัฐฯ ได้กล่าวคำยืนยันว่า AFRIMS เป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างสหรัฐฯ และไทย มีการวินิจฉัยทางการแพทย์และการรักษาชีวิตของคนทั่วโลก และยังคงภารกิจ อาทิ การสนับสนุนการพัฒนาวัคซีน mRNA ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และช่วยสนับสนุนการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีน COVID-19 ในประเทศ ให้มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย
ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกองทัพบก สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th หรือโทร. 0-2241-0404, facebook : ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก Army PR Center twitter: armypr_news และแอปพลิเคชัน S.M.A.R.T. SOLDIERS
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (สวพท.) หรือ AFRIMS มีพันธกิจในเรื่องการวิเคราะห์ วิจัย ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร และให้บริการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการแก่ทหารและประชาชน”
นอกจากนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจพบข่าวปลอม กรณีเกี่ยวกับประเด็น “ห้องทดลองเชื้อโรคที่ใหญ่ที่สุดในโลกของกองทัพสหรัฐฯ อยู่ที่ กทม.” โดยทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งกองทัพบก กระทรวงกลาโหม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
พร้อมเตือน การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป