เจ้าคณะแขวงบางระมาด-ฉิมพลี ออกคำสั่งให้เจ้าอาวาสวัดมณฑป ย่านตลิ่งชัน พักจากตำแหน่งหน้าที่ พร้อมแต่งตั้งรักษาการแทน หลังขึ้นป้าย “ไม่รับศพตำรวจ” พบก่อนหน้านี้ให้สัมภาษณ์สนับสนุนยกเลิกมาตรา 112 อ้างปิดหูปิดตาเด็ก พอโฟนอินกลับไม่ทราบ นึกว่า 112 เกี่ยวกับความรุนแรง แถมโกหกกล่าวหา กปปส. เผาสถานที่ราชการ สุดท้ายต้องขอโทษเสียงอ่อย ยอมรับ ไม่ได้ติดตามข่าวสารโดยละเอียด
วันนี้ (14 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า พระครูพิพัฒน์วรคุณ เจ้าอาวาสวัดมะกอก ในฐานะเจ้าคณะแขวงบางระมาด-ฉิมพลี ทำหนังสือที่ จว. 3/2564 ถึง พระสมุห์อนันต์ โชติธัมโม เจ้าอาวาสวัดมณฑป เรื่อง ให้พระสังฆาธิการพักจากตำแหน่งหน้าที่ ระบุว่า ด้วย เจ้าคณะแขวงบางระมาด-ฉิมพลี ได้ทราบการเผยแพร่ข่าวจากสื่อสาธารณะและสื่อออนไลน์ กรณี พระสมุห์อนันต์ โชติธัมโม เจ้าอาวาสวัดมณฑป แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ติดป้ายประกาศของวัด ข้อความว่า “วัดมณฑป ไม่รับศพตำรวจ” และให้สัมภาษณ์สื่อสาธารณะและสื่อออนไลน์ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างกว้างขวาง อาจเข้าข่ายละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างสอบสวน จะเป็นการเสียหายแก่คณะสงฆ์
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 วรรค 1 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 จึงให้พระสมุห์อนันต์ โชติธัมโม เจ้าอาวาสวัดมณฑป แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร พักจากตำแหน่งหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ พระครูพิพัฒน์วรคุณ ได้ออกคำสั่งที่ 4/2564 แต่งตั้งให้ พระครูกาญจนกิจจารักษ์ (บัณฑิต) ฉายา ปภสฺสโร อายุ 49 พรรษา 25 วิทยฐานะ น.ธ.เอก,ป.ธ.3 ป.ปส., ศษ.บ. ร.บ. สังกัด วัดกาญจนสิงหาสน์ วรวิหาร แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกาญจนสิงหาสน์ วรวิหาร เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมณฑป แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้ วัดมณฑป ซึ่งตั้งอยู่ในซอยฉิมพลี 3 ถนนฉิมพลี (หลัง สน.ตลิ่งชัน) ได้ติดป้ายประกาศไว้บริเวณวัดว่า “วัดมณฑป ไม่รับศพตำรวจ” หลังจากมีเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่าราษฎร หรือม็อบสามนิ้ว ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) เมื่อวันที่ 8 ส.ค. กลายเป็นที่วิจารณ์ในโลกโซเชียลฯ จำนวนมาก
ต่อมาวันที่ 11 ส.ค. พระสมุห์อนันต์ โชติธัมโม เจ้าอาวาสวัดมณฑป ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ระบุว่า ป้ายดังกล่าวเอาออกจากวัดหมดแล้วเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เหลือเพียงแค่เสาของศาลาวัด ใจจริงไม่เกลียดตำรวจ แต่สะท้อนให้เห็นว่าเป็นตำรวจทำแบบนั้นไม่ได้ เริ่มต่อต้านแล้ว การฆ่าตำรวจนิดเดียว พวกเราพร้อมใจกันต่อต้านตำรวจ หันหลังให้ตำรวจ โห่ไล่เข้าไป ทุกบ้านพร้อมใจกันปิดประกาศไม่เอาตำรวจ วัดนี้ไม่ต้องการตำรวจ ไม่ขายของให้ตำรวจ ไม่ตัดผมให้ตำรวจ ทั้งองค์กรก็อยู่ไม่ได้ อาตมาเห็นแล้วทนไม่ได้ ถึงขนาดนี้แล้วเหรอ ทำไมไม่มาทบทวนบทบาท ทั้งที่กินเงินเดือนจากภาษีราษฎรแล้วทำเพื่อเอาใจนายเหรอ ถึงต้องลากเอาปืนมายิงเด็ก ยิงคนแก่อย่างนั้นหรือ
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความผิดตามมาตรา 112 กรณีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ระบุว่า เป็นจุดเดือดที่เด็กๆ เดือดขึ้นมา เหมือนจะปิดปากไม่ให้พูด พูดไปแล้วผิดหมด เห็นต่างใครเห็นต่างกูคือผิดหมด อยากให้ยกเลิกมาตรา 112 อย่าไปปิดเขาเลย กฎหมายข้อนี้ยกเลิกไปซะ ถามว่าคนเราทำไมไม่รับความจริง ที่พูดมามันก็จริงของเด็ก แต่ทำไมเราไม่รับความจริง สำคัญตอนนี้คือผู้ใหญ่ไม่กล้ารับความจริง เมื่อเด็กพูดขึ้นมาไม่ยอมรับฟังกัน ปัญหาก็เลยเกิดขึ้นมาแบบนี้
ปรากฏว่า คืนวันดังกล่าว รายการเล่าข่าวข้น ทางสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (โฟนอิน) พระสมุห์อนันต์ ถามว่าทราบหรือไม่ว่าการชุมนุมที่ผ่านมา ตำรวจถูกกระสุนยิงเข้าไปที่ขา บาดเจ็บเป็นสิบคน พระสมุห์อนันต์ กลับกล่าวว่า “ไม่ทราบ อาตมาดูข่าวแต่ก็ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่โดน” ผู้ดำเนินรายการจึงกล่าวว่า วันที่ 7 ส.ค. ตำรวจถูกกระสุนยิงเข้าที่คอ เป็นตำรวจบ้านนอก วันที่ 10 ส.ค. ตำรวจถูกยิงที่ขา กระสุนจริง และยังมีม็อบไปเผารถตำรวจ เผาป้อมจราจร ทราบหรือไม่ พระสมุห์อนันต์ กลับกล่าวว่า “ตรงนี้ไม่ทราบ เพราะอาตมาไม่ได้ดูข่าวอะไรเลย” เมื่อถามว่า ไปดูข่าวจากไหนมาถึงไม่ทราบข่าวพวกนี้ พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “อาตมาก็ดูในทีวีนั่นแหละ”
ผู้ดำเนินรายการก็กล่าวว่า ตำรวจถูกยิงที่คอ วันที่ 7 ส.ค. ก็ออกข่าวกันทั่ว และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 6 นาย ก็เลยสงสัยว่าหลวงพ่อไปรับข้อมูลจากที่ไหนมา แสดงว่า ไม่ได้ติดตามข่าวโดยละเอียด แล้วก็ไปขึ้นป้ายโดยผิดข้อเท็จจริง ขึ้นป้ายไม่รับเผาศพให้ตำรวจ ทั้งๆ ที่ตำรวจเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างรุนแรงมาตลอด ยอมรับหรือไม่ พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “ใช่ ในส่วนนี้อาตมาก็ขออภัยไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ก็ต้องกราบขออภัยในความผิดพลาดตรงนี้ ป้ายก็เป็นเพียงแค่เป็นการสะท้อน แต่ถ้ามีศพมาจริงๆ อาตมาก็ยินดีต้อนรับ”
เมื่อถามถึงการสนับสนุนให้ยกเลิกมาตรา 112 พูดจริงหรือไม่ พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “พูดจริง แต่มาตรา 112 หมายความว่าอย่างไร อาตมาถ้าผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วย เพราะอาตมาก็ไม่รู้ทางด้านกฎหมาย” ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า รู้ไหมมาตรา 112 บัญญัติไว้อย่างไร หลวงพ่อทราบหรือไม่ พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “ไม่ทราบ อาตมาก็นึกว่ามันเกี่ยวกับความรุนแรงอะไรหรือเปล่า ตรงนี้อาตมาก็ไม่เข้าใจ” ผู้ดำเนินรายการจึงอธิบายว่า มาตรา 112 เป็นมาตราที่ไม่ให้คนไปดูหมิ่น ว่ากล่าวอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “ตรงนี้อาตมาต้องขออภัยอย่างแรงเลย” ผู้ดำเนินรายการถามว่า ถ้าหลวงพ่อทราบอย่างนี้แล้วหลวงพ่อคิดจะสนับสนุนให้ยกเลิกมาตรา 112 อีกหรือไม่ พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “ไม่ๆ อาตมาไม่ยุ่งเลย เพราะอาตมาไม่ทราบ ไม่รู้มาก่อน เรื่องแบบนี้อาตมาไม่ขอยุ่ง”
ผู้ดำเนินรายการถามอีกว่า จริงไหมที่หลวงพ่อให้สัมภาษณ์ว่า เด็กๆ ที่ออกมาชุมนุมไม่ได้เผาบ้านเผาเมือง ถ้าเปรียบเทียบกับการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่มีการยึดและเผาสถานที่ราชการ พูดประโยคนี้จริงหรือไม่ พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “จริง” จึงถามว่า มีข้อมูลที่กลุ่ม กปปส. เผาสถานที่ราชการหรือไม่ พระสมุห์อนันต์ นิ่งและกล่าวว่า “ก็ดูมา” จึงถามว่า หลวงพ่อบอกได้ไหมว่าเมื่อกลุ่ม กปปส. มีการชุมนุมเผาสถานที่ราชการ เผาที่ไหน พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “ยึดสถานที่ราชการ” ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ใช่ และหลวงพ่อบอกว่ามีการเผาสถานที่ราชการ อันนี้หลวงพ่อพูดใช่ไหม พระสมุห์อนันต์ กลับกล่าวว่า “ใช่ อาจจะผิดพลาดไป อาตมาไม่ติดตามข่าว ฟังจากคนโน้นคนนี้มา”
ผู้ดำเนินรายการจึงกล่าวว่า แสดงว่าหลวงพ่อไม่มีข้อมูลกลุ่ม กปปส. ไปเผาสถานที่ราชการถูกไหม หลวงพ่อตกลงมีข้อมูลหรือไม่มีข้อมูล พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “ตรงนี้ที่ไปเผา อาตมาไม่มีข้อมูล” ถามว่า เมื่อไม่มีข้อมูล ไปสัมภาษณ์นักข่าวได้อย่างไร พระสมุห์อนันต์ นิ่งและกล่าวว่า “ตรงนั้นต้องขออภัยด้วย อาตมาอาจจะผิดพลาดไป ต้องขออภัยด้วย” ผู้ดำเนินรายการจึงกล่าวว่า มันไม่ใช่ ที่หลวงพ่อให้สัมภาษณ์ไป ไม่ว่าจะสนับสนุนยกเลิกมาตรา 112 กล่าวหาว่าตำรวจใช้ความรุนแรงกับเด็กๆ กับผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะไปกล่าวหาว่ากลุ่ม กปปส. เผาสถานที่ราชการ หลวงพ่อพูดไปโดยที่ไม่มีข้อมูล และไม่เป็นความจริง ถือว่าหลวงพ่อทำผิดศีลหรือไม่ มุสาหรือไม่ ทำผิดศีลห้าหรือไม่ พระสมุห์อนันต์ นิ่งและกล่าวว่า “อันนี้ก็ยอมรับ”
ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า แล้วหลวงพ่อยังจะเป็นพระไหม ในเมื่อหลวงพ่อทำผิดศีลหลายประโยค หลวงพ่อพูดให้สัมภาษณ์นักข่าวโดยที่ตรงข้ามกับความเป็นจริง หลวงพ่อพูดไม่จริง หลวงพ่อโกหก หลวงพ่อยอมรับว่าหลวงพ่อมุสาใช่ไหม พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “ก็ใช่ ก็ยอมรับ” ถามว่า แล้วหลวงพ่อยังคิดจะเป็นพระต่อไปไหม พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “แล้วแต่จะคิดนะ” ผู้ดำเนินรายการก็ถามว่า ไม่ใช่ ผมถามหลวงพ่อไง พระจะต้องไม่ทำผิดศีลถูกไหม พระมีศีลกี่ข้อที่หลวงพ่อต้องนับถือ พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “227 ข้อ” ถามว่า หลวงพ่อทำผิดศีลห้า ศีลของฆราวาสธรรมดาหลวงพ่อยังทำผิดเลย แม้กระทั่งศีลห้า ศีลของประชาชนธรรมดา หลวงพ่อยังรักษาไว้ไม่ได้ หลวงพ่อยังจะเป็นพระต่อไปไหม พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “ต้องขออภัย อารมณ์ชั่ววูบ”
ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า หลวงพ่อเป็นพระมากี่ปี มาจากไหน เป็นเจ้าอาวาสมากี่ปี พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า บวชเป็นพระมา 30 ปี อยู่กรุงเทพฯ นี่แหละ เป็นเจ้าอาวาสมา 7 ปี ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า การที่หลวงพ่อบวชเป็นพระมา 30 ปี ไม่ได้มีใจเมตตา มีจิตที่ให้ความเป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยเหรอ การที่หลวงพ่อไปขึ้นป้ายแบบนั้น ไม่รับเผาศพตำรวจ มันร้ายแรงมาก ต่อให้ตำรวจใช้ความรุนแรงจริง ถ้าเขาตายไป เราเป็นพระเราก็ต้องให้อภัยถูกไหม แต่นี่ตำรวจไม่ใช้ความรุนแรง แล้วหลวงพ่อไปรับข้อมูลจากไหนก็ไม่ทราบ หลวงพ่อไปคิดว่าตำรวจใช้ความรุนแรง ปิดหูปิดปากม็อบ ถ้าเกิดตายไป มาที่วัด อาตมาจะไม่รับเผา หลวงพ่อคิดแบบนั้น ทั้งๆ ที่บวชเป็นพระมา 30 ปี แสดงว่าจิตใจในการให้ความเป็นธรรมของหลวงพ่อมีปัญหา จากเหตุการณ์นี้หลวงพ่อคิดได้ไหม พระสมุห์อนันต์ กล่าวว่า “ยอมรับผิด ผิดพลาดไปแล้วก็ต้องขออภัย”
เมื่อถามว่า จะขอโทษตำรวจสักหน่อยไหม ตำรวจชั้นผู้น้อยที่ถูกเกณฑ์มาจากต่างจังหวัด มาอยู่ในกรุงเทพฯ แล้วก็มาเป็นเหยื่อให้กลุ่มม็อบใช้ความรุนแรง แอบยิงหนังสติ๊ก แอบยิงกระสุนจริงเข้าใส่ หลวงพ่อพูดกับตำรวจหน่อยสิ พระสมุห์อนันต์ กล่าวด้วยเสียงอ่อยว่า “ขอเจริญพรเจ้าหน้าที่ทุกนาย อาตมาก็ต้องขออภัย ต้องขอโทษตำรวจทุกๆ นาย อาตมาก็ผิดพลาดไปแล้ว ก็ยอมรับตรงนี้ และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ของตัวเอง ขออภัยตรงนี้ด้วย”
ชมคลิป