สำนักงานประกันสังคม เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยาแล้ววันนี้ ส่วนมาตรา 33 ที่ได้รับสิทธิแต่เงินยังไม่เข้าบัญชี เพราะไม่มีพร้อมเพย์ผูกเลขที่บัตรประชาชน หรือบัญชีธนาคารไม่เคลื่อนไหว ปิดไปแล้ว ให้แก้ไขให้ถูกต้อง แล้วจะทยอยโอนให้ทุกวันศุกร์จนกว่าจะครบจำนวน
วันนี้ (13 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานประกันสังคม เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 เปิดให้ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ใน 9 ประเภทกิจการ ได้แล้ววันนี้ โดยเข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th เลือก “ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาฯ (ผู้ประกันตนมาตรา 39)”, “ตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาฯ (ผู้ประกันตนมาตรา 40)” เลือกตรวจสอบสถานะโครงการเยียวยาผู้ประกันตน จากนั้นกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และรหัสตามรูปที่กำหนด กดค้นหา ระบบจะแสดงผลการค้นหา พร้อมระบุจะอัปเดตข้อมูลล่าสุดตามวันเวลาที่กำหนดอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ย้ำว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบอาชีพอิสระ ตามมาตรา 40 โดยระบุในพื้นที่ 10 จังหวัดสีแดงเข้ม ล็อตแรก (กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม, สมุทรสาคร ,สมุทรปราการ และ 4 จังหวัดภาคใต้) ได้แจ้งประกาศให้มาขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 และจ่ายเงินไปแล้ว เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้าย โดยจะมีการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ในวันที่ 24 ส.ค. 2564
ส่วนผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระและสมัครมาตรา 40 ใน 3 จังหวัด (พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา) และ 16 จังหวัดสีแดงเข้ม ยังสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนและจ่ายเงินสมทบงวดแรก ได้ภายในวันที่ 24 ส.ค. นี้ เนื่องจากขณะนี้มีผู้ประกอบอาชีพอิสระในหลายจังหวัดสมัครและชำระเงินไม่ทัน ซึ่งจะมีการประกาศวันจ่ายเงินเข้าบัญชีอีกครั้ง จึงขอย้ำผู้ที่สมัครให้รีบดำเนินการชำระเงินโดยด่วน หลากหลายช่องทาง เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น โลตัส บิ๊กซี เคาน์เตอร์ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเน้นย้ำฟรีค่าธรรมเนียมทุกช่องทาง ผู้ประกันตนที่จะได้รับเงินเยียวยาในทุกมาตราของสำนักงานประกันสังคม จะต้องผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน เพื่อให้ระบบสามารถโอนเงินได้ตามกำหนด
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า จากการโอนเงินให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ใน 10 จังหวัด เมื่อวันที่ 4-6 ส.ค. ที่ผ่านมา ยังมีผู้ประกันตนอีก 170,613 คน ที่โอนเงินไม่สำเร็จ เพราะยังไม่ได้สมัครบริการพร้อมเพย์ โดยใช้เลขที่บัตรประชาชนผูกกับบัญชีธนาคาร หรือสาเหตุอื่นๆ เช่น บัญชีธนาคารปิด ไม่มีความเคลื่อนไหว หรือสมัครบริการพร้อมเพย์ โดยใช้เบอร์มือถือผูกกับบัญชีธนาคาร โดยในวันนี้สำนักงานประกันสังคมได้โอนเงินให้กับผู้ตกค้างดังกล่าวอีกครั้งแล้ว และจะตรวจสอบสาเหตุกลุ่มผู้ตกหล่น แล้วติดต่อนายจ้างให้แจ้งผู้ประกันตนว่าให้รีบดำเนินการแก้ไขตามสาเหตุต่างๆ ต่อไปจะทยอยโอนให้ทุกวันศุกร์ และโอนไปเรื่อยๆ จนครบจำนวนที่ตกหล่น
ส่วนกลุ่มทบทวนสิทธิใน 9 กิจการในพื้นที่สีแดงเข้ม คือ ผู้ที่ตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยาในเว็บไซต์ประกันสังคม www.sso.go.th/eform_news แล้วปรากกฏว่า ไม่มีสิทธิ อาจด้วยสาเหตุบางประการ เช่น ระบุประเภทสถานประกอบการไม่ถูกต้อง นายจ้างแจ้งชื่อลูกจ้างตกหล่น ชื่อบัตรประชาชนไม่ตรง มีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เป็นต้น ให้กลุ่มทบทวนสิทธิติดต่อสำนักประกันสังคมทางช่องทางต่างๆได้แก่ โทร. 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง, e-service ของประกันสังคม (www.sso.go.th/eservices), ทางระบบข้อความของเพจเฟซบุ๊กสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน www.facebook.com/ssofanpage หรือโทร.ไปที่สำนักงานประกันสังคมในเขตพื้นที่
ที่ผ่านมา ลูกจ้างมาตรา 33 ในกลุ่ม 10 จังหวัด ทำการโอนติดต่อกัน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-6 ส.ค. โอนไปแล้ว 2.4 ล้านคน ลูกจ้างมาตรา 33 ในกลุ่มเพิ่มมา 3 จังหวัด ทำการโอนวันที่ 9 ส.ค. โอนไปแล้ว 1.9 แสนคน ส่วนลูกจ้างมาตรา 33 ในกลุ่มเพิ่มมา 16 จังหวัดจะทำการโอนวันที่ 24 ส.ค. มีลูกจ้างประมาณ 403,000 คน และนายจ้าง 30,000 รายที่มีสิทธิ ขณะที่นายจ้างมาตรา 33 ในกลุ่ม 10 จังหวัด เริ่มทำการโอนวันที่ 10 ส.ค. กลุ่มตกหล่น มาตรา 33 ในกลุ่ม 10 จังหวัด และกลุ่มเพิ่มมา 3 จังหวัด จะโอนให้ทุกวันศุกร์ โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 ส.ค. เป็นต้นไป จนกว่าจะครบ
แรงงานอิสระมาตรา 39 และ 40 ในกลุ่ม 10 จังหวัด และกลุ่มเพิ่มมา 3 จังหวัด จะทำการโอนวันที่ 24 ส.ค. ส่วนแรงงานอิสระมาตรา 40 ในกลุ่มเพิ่มมา 3 จังหวัด และ 16 จังหวัดให้โอกาสสมัครเป็นผู้ประกันตนเพิ่ม และต้องจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 24 ส.ค. กลุ่มทบทวนสิทธิ ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง 9 กิจการ ในพื้นที่สีแดงเข้ม หลังจากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จะนำเข้าระบบประกันสังคม และทยอยโอนเงินให้ทุกวันศุกร์ และกลุ่ม 10 จังหวัด และกลุ่มเพิ่มมา 3 จังหวัด ทุกมาตรา รับเยียวยาเพิ่มอีก 1 เดือน จะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป