พบเพจบรรดาแพทย์แห่วิจารณ์หลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ล้อต 1.5 ล้านโดส สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข หลังสาธารณสุขระบุชัด ให้แค่คนที่ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม และยังไม่ได้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มกระตุ้น
วันนี้ (31 ก.ค.) จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ออกหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ล็อต 1.5 ล้านโดส สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศที่เข้าเกณฑ์ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานแผนกผู้ป่วยโควิด-19 ได้แก่ แผนกผู้ป่วยนอก คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉิน แผนกผู้ป่วยวิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักกัน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในฮอลพิเทล (Hospitel) หรือปฏิบัติงานข้องเกี่ยวกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 มีชื่อปรากฏในฐานข้อมูลระบบกระทรวงสาธารณสุข (MOPH IC) ว่า ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มแล้ว อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ระบุว่า เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และยังไม่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มกระตุ้น
บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ไม่เข้าเกณฑ์รับวัคซีนไฟเซอร์ในล็อตนี้ ได้แก่ 1. ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ครบ 2 เข็ม 2. ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 แล้ว 3. ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 1 เข็ม และ แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม 4. ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค หรือ แอสตร้าเซนเนก้า มาเพียง 1 เข็ม และ 5. ได้รับการฉีดวัคซีนอื่นๆ ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนดังกล่าว
เฟซบุ๊กเพจ 1412 Cardiology ซึ่งเป็นเพจบุคลากรทางการแพทย์ชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า “บุคลากรด่านหน้าที่ฉีดซิโนแวคไปแค่เข็มเดียว คือ บางคนเค้าแพ้ไง คุณหรือเพิ่งบูสแอสตร้าเซนเนก้าเข็มสามมาก็ให้ๆ ไฟเซอร์เค้าไปเถอะ ของบริจาคอ่ะ ไม่ได้หามาเอง ไม่ได้ซื้อเอง จะไปอะไรนักหนา จริงๆ เค้าควรได้ไฟเซอร์สองเข็มตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ไม่ใช่ซิโนแวค ใช่ป่าว ตัองอยู่กับเชื้อสายพันธุ์เดลตาทุกวัน นักรบเดนตายทั้งนั้นแต่ละคน เคยเห็นน้องพยาบาลทำงานใน ICU COVID มั้ยที่เข้าไป suction (ดูด) น้องหมอที่ใส่ท่อคนไข้ไอใส่หน้า โคตรน่าสงสารเลย พวกเค้าเสียสละปกป้องคนในชาติมาตั้งเท่าไหร่แล้ว ให้ๆ ไปเถอะครับขอร้อง”
อ่านโพสต์ คลิกที่นี่
ด้านเฟซบุ๊กเพจ Drama-addict โพสต์ข้อความระบุว่า “จากมิตรสหายแพทย์อายุรกรรมโรคติดเชื้อท่านนึง ซึ่งเป็นด่านหน้ามานานมาก ล่าสุด ติดโควิดและเข้ารับการรักษาตัวอยู่ แนวทางการให้ไฟเซอร์ที่เหมาะสม 1. ให้บุคลากรทุกคนไม่ใช่แค่แพทย์พยาบาล รวมทั้งพนักงานทางด้านสาธารณสุขทุกอย่าง ทั้งที่ดูโควิดและไม่ดูโควิด (กลุ่มไม่ดูโควิดบางทีเสี่ยงกว่าอีก เพราะไม่รู้สถานะคนไข้)
2. ให้เพื่อสร้างภูมิขึ้นใหม่ทดแทนภูมิเดิมที่เสียเปล่าป้องกันเดลตาไม่เพียงพอ เช่น ฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม, ฉีดซิโนแวค 1 เข็ม ไฟเซอร์ 2 เข็ม, ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม ไฟเซอร์ 2 เข็ม
3. ให้เป็นบูสต์ได้ถ้ามีข้อมูลบูสต์ที่เพียงพอ เป็นที่ยอมรับทั่วโลก คือ แอสตร้าเซนเนก้าผสมไฟเซอร์ เช่น แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม ไฟเซอร์ 1 เข็ม, แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ไฟเซอร์ 1 เข็ม, ซิโนแวค 1 เข็ม แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม ไฟเซอร์ 1 เข็ม และ ซิโนแวค 2 เข็ม แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม ไฟเซอร์ 1 เข็ม แล้วดูเงื่อนไขที่ให้มา ตัดทิ้งออกไปเกือบหมด เหลือซิโนแวค 2 เข็ม ไฟเซอร์ แถมอาจจะให้แค่ 1 เข็ม ทั้งๆ ที่ต่อให้ฉีดแบบที่แนะนำ 1.5 ล้านโดสยังไงก็พอ”
ส่วนเฟซบุ๊ก “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” โพสต์ข้อความระบุว่า “ไทม์ไลน์ไฟเซอร์ที่จะบูสต์ให้บุคลากรการแพทย์ ต้นกรกฎาคม “ถ้าเอามาฉีดกลุ่ม 3 แสดงว่า เรายอมรับว่าซิโนแวคไม่มีผลในการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากขึ้น” จากผู้ใหญ่ในที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข ผลในที่ประชุมนั้น (แม้จะยังไม่เป็นมติทางการ) บุคลากรฯ ไม่ได้บูสต์ จนนำมาซึ่งเสียงคอลเอาต์ของประชาชนและบุคลากรการแพทย์
กลางกรกฎาคม ในโรงเรียนแพทย์และหลายๆ โรงพยาบาล มีผู้ใหญ่บอกว่า อาจไม่ได้ไฟเซอร์ หรือถ้าได้อาจมาไม่ถึง ถ้าได้ก็ไม่รู้ได้ฉีดเมื่อไหร่ แล้วถ้ามาก็อาจจะมีแต่หมอที่ได้ไป กึ่งๆ กดดันให้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเลย ไม่มีกระทรวงสาธารณสุขออกมายืนยันว่าได้แน่หรือได้เมื่อไหร่ ปล่อยข่าวลือดังกล่าวเรื่อยไปจนหลายคนทยอยไปบูสต์แอสตร้าเซนเนก้าเพราะกลัวไม่ได้ แถมสถานการณ์ก็วิกฤตขึ้นเรื่อยๆ
ปลายเดือนกรกฎาคม ออก inclusion/exclusion criteria (หลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ล็อต 1.5 ล้านโดส สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข) ตอนแรกบอกเลข 700,000 โดส นี่ดูดีมาก ดูใส่ใจบุคลากร ไม่ว่าจะแม่บ้านในโรงพยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล, ผู้ช่วยห้องฟัน, ห้องเอกซเรย์, ห้องผ่าตัด, เภสัชกร, เจ้าหน้าที่ห้องแล็บ, เวรเปล ฯลฯ น่าจะได้บูสต์ไฟเซอร์ครบ เพราะทุกวิชาชีพในโรงพยาบาลล้วนมีความเสี่ยง มีการหมุนเวียนการทำงานและหมุนเวียนคนไข้ไปแต่ละจุด แต่พอเจอเกณฑ์ดังกล่าวก็เลยชักสงสัย บวกไทม์ไลน์ตลอดเดือนกรกฎาคม ถ้าเกณฑ์แบบนี้ รับรองใช้ไม่ถึง 7 แสน แถมมีบุคลากร จำนวนมากบูสต์แอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว ทั้งจากสาเหตุไม่อยากรอเพราะเสี่ยงสูง กับจากสาเหตุเชื่อผู้ใหญ่แล้วไม่มีใครมาทำให้มั่นใจว่าจะได้
ความยุ่งยากกว่าไฟเซอร์จะปักลงแขนบุคลากรการแพทย์ ชวนให้คิดว่า ตกลงมันคือปัญหาการสื่อสารที่ไม่ชัดมาหลายหน ปัญหาสื่อสารคลุมเครือโดยไม่ตั้งใจ หรือคือเจตนาและความไม่จริงใจกับบุคลากรในสังกัด บุคลากรการแพทย์ที่ตอนเลือกวัคซีนมีตัวเลือกให้แค่ซิโนแวค ที่ยังไม่ตีพิมพ์เฟส 3 ลงวารสารการแพทย์ เป็นรุ่นแรกๆ ที่ฉีดแล้วมีปัญหาคล้ายทางระบบประสาท และองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ยังไม่อนุมัติ กับ ไม่มีอะไรให้ฉีด”