“นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์” แพทย์จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ แนะนำข้อควรปฏิบัติเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด โดยผู้ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านควรใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาระหว่างอยู่ในบ้าน เผื่อเป็นโรคโควิดจะได้ไม่แพร่เชื้อให้คนในบ้านที่ไม่ได้ออกไปไหนเลย และควรล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ก่อนและทันทีที่เข้าบ้าน
วันนี้ (29 ก.ค.) เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ เป็นหัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นว่า ปัจจุบันเชื้อไวรัสโควิด19 สายพันธุ์เดลต้า มีความรุนแรง แพร่เชื้อติดกันได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 1000 เท่า และในประเทศไทยพบว่ามีการระบาดในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น จึงอยากจะแนะนำสำหรับใครที่ออกไปนอกบ้าน เมื่อกลับเข้ามาแล้วควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อลดการแพร่เชื้อภายในครอบครัว ทั้งนี้ “หมอมนูญ” ได้ระบุข้อความว่า
“ในประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนจะรับคนไข้เข้านอนในโรงพยาบาล ทุกคนไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม จะได้รับการตรวจว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ และตรวจซ้ำภายใน 72 ชั่วโมง หลังเข้านอนในโรงพยาบาล เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อในโรงพยาบาล
มีการศึกษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองบอสตัน ระหว่างเดือนกันยายน 2020-เมษายน 2021 โรงพยาบาลนี้มีเตียงทั้งหมด 803 เตียง 28% เป็นห้องคู่ มีคนไข้เข้านอนในห้องคู่ทั้งหมด 11,290 คน คนที่เข้านอนในห้องคู่ต้องไม่มีอาการของโรคโควิด ในจำนวนนี้ 25 คนตรวจวันแรกให้ผลลบ ตรวจซ้ำใน 3 วัน ให้ผลบวก หมายความว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนอกโรงพยาบาล
มีคนไข้ที่นอนในห้องคู่กับผู้ติดเชื้อ ทั้งหมด 31 คน อายุเฉลี่ย 64 ปี ปรากฏว่า 12 จาก 31 คนติดเชื้อจากคนไข้ที่นอนในห้องเดียวกัน คิดเป็น 39 % ส่วนใหญ่ติดเชื้อภายใน 5 วัน
ความเสี่ยงในการติดเชื้อสัมพันธ์กับปริมาณเชื้อไวรัสโควิด-19 (cycle threshold value < 21) ของคนแพร่เชื้อ เชื้อยิ่งมาก โอกาสแพร่เชื้อยิ่งมาก เวลานอนในห้องเดียวกันทั้งคนแพร่เชื้อและคนรับเชื้อไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย เตียงห่างกันประมาณ 2 เมตร มีผ้าม่านกั้นระหว่างเตียงตลอดเวลา คนที่รับเชื้อไม่ได้สัมผัสตัว ไม่ได้พูดคุย หรือใกล้ชิดกับคนที่แพร่เชื้อ แต่ใช้ห้องน้ำเดียวกัน มีการทำความสะอาดพื้นผิวพื้นที่ในห้องผู้ป่วยทุกวัน การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า เชื้อโควิดแพร่กระจายทางอากาศ โดยเชื้อโรคออกมากับลมหายใจของคนแพร่เชื้อ แล้วคนรับเชื้อ หายใจเชื้อที่ลอยอยู่ในอากาศ ไม่ได้เกิดจากหายใจหยดละอองขนาดใหญ่จากการอยู่ใกล้ชิดในระยะ 1-2 เมตร หรือติดทางการสัมผัสกับคนที่แพร่เชื้อ
ช่วงที่ทำการศึกษายังไม่มีการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ถ้าเป็นสายพันธุ์เดลตา เปอร์เซ็นต์ของคนติดเชื้อคงมากกว่า 39% แน่นอน เชื้อสายพันธุ์เดลตาติดต่อกันได้ง่ายมาก เนื่องจากปริมาณเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในทางเดินหายใจมากกว่าสายพันธุ์เดิม 1,000 เท่า การป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิดทำได้ยาก ขนาดโรงพยาบาลนี้ มีการคัดกรองก่อนจะอนุญาตให้เข้านอนในห้องคู่ วันแรกต้องไม่มีอาการ และตรวจแยงจมูกโควิดต้องมีผลลบ ยังพบว่าหลังจากนั้น 3 วัน ตรวจโควิดซ้ำเปลี่ยนเป็นบวก ทำให้คนที่นอนห้องเดียวกันร้อยละ 39 ติดเชื้อแม้จะเว้นระยะห่าง ไม่กินอาหารร่วมกัน ไม่อยู่ใกล้ชิดกัน เพียงแต่นอนในห้องเดียวกัน หายใจอากาศในห้องเดียวกัน โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัย
การระบาดในประเทศไทยรอบนี้ติดกันในบ้านครัวเรือนเดียวกันมากที่สุด ทำให้การล็อกดาวน์ได้ผลน้อย การป้องกันการติดเชื้อในบ้านเดียวกันเป็นเรื่องยากมากๆ สมาชิกในบ้านสามารถติดเชื้อนอกบ้านและนำเชื้อเข้าบ้านถึงแมัไม่มีอาการ ยิ่งเป็นเชื้อสายพันธุ์เดลต้าติดเกือบยกครัวเรือน ถึงเวลาแล้วที่คนในบ้านคงต้องใส่หน้ากากอนามัยเหมือนเวลาออกนอกบ้าน เริ่มจากคนที่ออกนอกบ้านทุกวัน เช่นคนที่ต้องออกไปทำงานข้างนอก คนที่ไปจับจ่ายซื้อของ ซื้ออาหาร ไปทำธุระธนาคาร ไปรษณีย์ ควรล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ก่อนและทันทีที่เข้าบ้าน ควรใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาระหว่างอยู่ในบ้าน เผื่อเป็นโรคโควิดจะได้ไม่แพร่เชื้อให้คนในบ้านที่ไม่ได้ออกไปไหนเลย”