xs
xsm
sm
md
lg

รถส่งข้าวกล่อง “มินิคูเปอร์” ราคา 2 ล้าน บีเอ็มดับบลิวให้ธรรมศาสตร์ยืมใช้ช่วยเหลือประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อ.ปริญญาเผยโฉมรถส่งข้าวกล่อง มินิคูเปอร์ รุ่นคันทรีแมน สีเขียวเซจกรีน ป้ายแดง มูลค่า 2 ล้าน ใช้ส่งอาหารแก่ชุมชนโดยรอบธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตที่ต้องกักตัว ระบุบีเอ็มดับบลิวให้ยืมใช้ภารกิจฉีดวัคซีนมานานหนึ่งเดือนครึ่ง

วันนี้ (23 ก.ค.) เฟซบุ๊ก Prinya Thaewanarumitkul ของ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ภาพรถยนต์มินิคูเปอร์ รุ่นคันทรีแมน สีเขียวเซจกรีน (Sage Green) หรือสีเขียวตุ่น ขนาด 5 ที่นั่ง ป้ายแดง มูลค่า 2 ล้านบาท นำมาใช้ส่งอาหารแก่ชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ระบุว่า

“รถส่งข้าวกล่องราคาสองล้าน

ภารกิจส่งอาหารให้ผู้ป่วยโควิดและผู้กักตัว

“รถสวยจัง อาจารย์เพิ่งซื้อใหม่เหรอครับ” ประชาชนในชุมชนหลายคนทักตอนผมขับรถมินิ Country Man ป้ายแดงเอาข้าวกล่องที่อัดแน่นเต็มรถไปส่งที่ชุมชนต่างๆ รอบธรรมศาสตร์รังสิต

“เปล่าครับ บริษัทเขาให้มายืมใช้ปฏิบัติภารกิจช่วยประชาชนครับ” ผมพูดหัวเราะๆ พลางยกข้าวกล่องมาจากท้ายรถมินิ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มินิเลยเพราะใส่ข้าวกล่อง น้ำดื่ม นมกล่อง ผ้าอ้อม ที่เอาไปมอบให้ชุมชนได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ ผมเคยขนข้าวกล่องไปให้ชุมชนได้มากถึง 500 กล่องมาแล้วครับ

รถมินิคันนี้ บริษัทบีเอ็มดับบลิวมอบมาให้ศูนย์ฉีดวัคซีนธรรมศาสตร์ยืมใช้ปฏิบัติภารกิจเป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง โดยคุณระดมเลิศ (นายระดม​เลิศ อนันตชินะ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด) ผู้บริหารบริษัท Haupcar หรือฮ้อปคาร์ ที่เป็นบริษัทให้เช่ารถแบบคาร์แชริ่งนำมามอบให้ด้วยตัวเอง ข้างรถมีสติกเกอร์ติดว่า Mini Fleet Sevice for Vaccination Support ระบุวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าเอามาสนับสนุนเรื่องการฉีดวัคซีนครับ

ความจริงเขาจะให้ยืมสองคัน คือรถบีเอ็มดับบลิวหรูๆ ที่ผมจำรุ่นไม่ได้แล้ว กับรถมินิคันทรีแมนคันนี้ ผมเห็นจะเป็นภาระ แล้วก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรตั้งสองคัน จึงขอเอามาใช้แค่คันเดียว โดยเลือกรถมินิเพราะกะว่าน่าจะใช้ขนของได้

แต่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาไม่ได้ใช้ขนวัคซีน หรืออะไรที่เกี่ยวกับวัคซีนเลยครับ เพราะโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เขาก็มีรถในการขนวัคซีนและอุปกรณ์ต่างๆ อยู่แล้ว รถมินิคันนี้ก็เลยกลายเป็นรถส่งข้าวกล่องให้ชุมชนไปแทนครับ

จากเดิมใช้ขนแค่วันที่มีข้าวกล่องมาก เพราะขนได้เยอะกว่ารถส่งข้าวกล่องคันเดิมที่ผมใช้ คือ รถ FOMM ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าไซส์เอสที่บริษัทฮ้อปคาร์ให้โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ยืมใช้ ตอนนี้พอมี โครงการกล่องข้าวน้อย TU ค่ะแม่ ข้าวกล่องที่ไปส่งมีมากขึ้น ชุมชนมากขึ้น และไปส่งชุมชนไกลขึ้น ตอนนี้ผมก็เลยใช้รถมินิคันนี้ขนข้าวกล่องทุกวันเลยครับ

การขับรถไปส่งข้าวกล่องของผมทุกวันและวันละหลายรอบ ก็เลยกลายเป็นเรื่องเพลิดเพลิน เพราะรถคันนี้เป็นรถชั้นยอด และขับดีมากๆ และตอนนี้ภารกิจส่งข้าวกล่องก็ยิ่งสำคัญ เพราะตอนนี้ไม่ได้ส่งข้าวกล่องเพียงให้คนตกงาน คนสูงวัยที่ไม่มีใครดูแล และผู้ป่วยติดเตียงเท่านั้น แต่ภารกิจที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ส่งอาหารให้ผู้ป่วยโควิดที่หาเตียงไม่ได้และคนที่ต้องกักตัว ซึ่งการส่งอาหารให้ช่วยได้มากจริงๆ ครับ

ทุกวันเวลาประมาณเที่ยงๆ ถึงบ่ายโมงกว่าๆ ชุมชน 4-5 แห่งรอบๆ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จะรอรถมินิคันนี้ รถที่ไปพร้อมกับอาหาร และข้าวของอื่นที่จำเป็น ที่แปลกคือไม่ยักจะมีใครเรียกรถคันนี้ว่า รถข้าวกล่อง เหมือนกับที่เรียกรถ FOMM ที่ผมเคยใช้ส่งข้าวกล่อง คงเพราะความสวยงามและบุคลิกของรถคันนี้กระมังที่ใครเห็นแล้วก็เรียกว่ารถข้าวกล่องไม่ลง

ผมไม่ทราบว่าทางบริษัทบีเอ็มดับบลิว และบริษัทฮ้อปคาร์เขาจะว่าอะไรไหม ที่ผมเอารถที่เขาตั้งใจเอามาช่วยเรื่องวัคซีน แต่ผมดันเอามาขนข้าวกล่องส่งชุมชนแทนแบบนี้

แต่ผมคิดว่าเขาคงไม่น่าจะว่าอะไร เพราะนี่คือการช่วยคนครับ ยาและอาหารต่างก็เป็นปัจจัย 4 ที่มนุษย์เราขาดไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นนี้ และจากนี้ไปนอกจากส่งอาหารแล้ว ต่อไปก็จะต้องส่งยาให้ผู้ป่วยด้วย เพราะเตียงไม่มีก็ต้องให้เตียงที่บ้านนั่นแหละเป็นเตียงผู้ป่วย แล้วโรงพยาบาลก็ส่งยาให้ตามคอนเซ็ปต์ Home Isolation ครับ

ในนามของผู้จัดการศูนย์ฉีดวัคซีนและโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ผมต้องขอบคุณบริษัทบีเอ็มดับบลิว และฮ้อปคาร์ ที่ให้ความสนับสนุนภารกิจช่วยประชาชนของธรรมศาสตร์ครับ แม้ว่าจะให้ยืมเพียงแค่หนึ่งเดือนครึ่ง แต่รถมินิคันนี้ช่วยได้มากจริงๆ และมันได้กลายเป็นตำนานของบรรรดาผู้คนรอบๆ ธรรมศาสตร์รังสิตที่ได้รับความช่วยเหลือจากรถคันนี้ไปแล้วครับ

ประชาชนไม่ทอดทิ้งกัน เราช่วยเหลือกัน เราจะรอดจากโควิดไปด้วยกันอย่างแน่นอนครับ”











กำลังโหลดความคิดเห็น