หลังธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศ แอปฯ โรบินฮู้ด ส่งฟรีทุกออเดอร์ช่วงล็อกดาวน์เพื่อช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็ก พบลูกค้าโรบินฮู้ดบางคนสั่งอาหารไปส่งด้วยระยะทางข้ามจังหวัดแบบไม่สมเหตุสมผล บางคนนึกสนุกในภาวะวิกฤต สั่งไข่ดาว 5 บาทจากปทุมธานีไปส่งสมุทรปราการ ล่าสุดปรับระบบให้คิวกับร้านเล็กใกล้บ้านในรัศมี 10 กิโลเมตร ผู้พัฒนาระบบวอนขอความเห็นใจ ร้านเล็กเดือดร้อนเยอะมากแล้ว
วันนี้ (12 ก.ค.) จากกรณีที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับแอปพลิเคชันโรบินฮู้ด (Robinhood) แพลตฟอร์มบริการส่งอาหารสัญชาติไทย ที่มีจุดเด่นคือไม่เก็บค่า GP (Gross Profit) แก่ร้านอาหารเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มเจ้าอื่น ออกมาตรการพิเศษ “ส่งฟรีทุกออเดอร์ช่วงล็อกดาวน์” เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการออกค่าส่งอาหารให้ฟรีทุกออเดอร์ และหวังว่าผู้สั่งอาหารจะช่วยสั่งจากร้านเล็กที่เดือดร้อนเพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนร้านเล็กให้รอดไปด้วยกัน ตั้งแต่วันที่ 11-25 ก.ค. 2564 รวม 15 วัน
ปรากฏว่าเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น นอกจากแอปพลิเคชันจะช้าจนใช้งานไม่ได้เป็นระยะ และไม่มีไรเดอร์รับงานแล้ว ยังพบว่ามีลูกค้าบางคนสั่งอาหารด้วยเมนูและราคาเมื่อเทียบกับระยะทางจัดส่งแบบไม่สมเหตุสมผล เช่น ลูกค้ารายหนึ่งสั่งไข่ดาวราคา 5 บาท จากร้านอาหารในจังหวัดปทุมธานี ให้ไปส่งที่จังหวัดสมุทรปราการ, ลูกค้ารายหนึ่งสั่งอาหารจากร้านเบอร์เกอร์คิง สาขาศูนย์การค้าเดอะไบร์ท พระราม 2 ให้ไปส่งที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี, ลูกค้ารายหนึ่งสั่งอาหารจากร้านกูโรตีชาชัก สาขามหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 เขตประเวศ กรุงเทพฯ ให้ไปส่งที่ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
ลูกค้ารายหนึ่งสั่งอาหารจากร้านอาฟเตอร์ยำ บาย ตามสั่งน้องออม ย่านลุมพินี กรุงเทพฯ ให้ไปส่งที่บ้านในอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม รวมทั้งยังมีกรณีที่ลูกค้าสั่งปลาแซลมอนซาชิมิจากร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ให้ไปส่งที่บ้านระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร ปรากฏว่าปลาคายน้ำออกมา ทางร้านจึงจ้างแกร็บไปกลับเพื่อส่งอาหารให้ลูกค้าเอง ปรากฏว่าพอขับรถไปได้ครึ่งทางลูกค้าบอกว่าไม่รับ ขอเงินคืน นอกจากจะต้องโอนเงินคืนให้ลูกค้าแล้ว ยังต้องรับภาระค่าเดินทางกว่า 900 บาท
ล่าสุด วันนี้แอปพลิเคชัน Robinhood ได้ส่งข้อความไปหาลูกค้า ระบุว่า “โรบินฮู้ดใคร่ขออภัยในความไม่สะดวก จากความสนใจที่ล้นหลามจากมาตรการ “เราช่วยคุณ คุณช่วยร้าน” และกำลังเร่งรับไรเดอร์เพิ่มเพื่อให้ทันต่อความต้องการ ในช่วงที่มีความต้องการสูงเกินจำนวนไรเดอร์ ทางระบบอาจจะใช้งานไม่ได้ชั่วคราว โดยทางโรบินฮู้ดจะขอให้คิวแก่ร้านเล็กใกล้บ้านคุณในรัศมี 10 กิโลเมตรก่อน เพื่อให้ได้ช่วยร้านเล็กตามเจตนารมณ์ของมาตรการ โรบินฮู้ดจะพยายามเร่งเพิ่มจำนวนไรเดอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะให้คุณสามารถช่วยร้านเล็กได้มากขึ้นในสภาวะล็อกดาวน์”
ด้านเฟซบุ๊ก Thana Jo Thienachariya ของนายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ในเครือ SCB 10X ของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้พัฒนาระบบแอปพลิเคชันโรบินฮู้ด ระบุว่า “ต้องค่อยๆ หาทางแก้ครับ เพราะไม่งั้นถมไรเดอร์ยังไงก็ไม่พอ ร้านก็ไม่ได้อะไรเลย เมื่อวานมีแบบนี้เยอะมาก ขอความเห็นใจนะครับ ร้านเล็กเดือดร้อนเยอะมากแล้ว”
ขณะที่เฟซบุ๊ก “พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์” ของ หนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรไอทีชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า “เรื่องนี้สืบเนื่องจากคำคม “ช่วยคนอย่าเขียม” ความฟีลกู้ดเมื่อวานนี้…
ตื่นเช้ามา…ขุ่นเลย!
เห็นรายงานการ “สั่งเล่นๆ” ของคนจำนวนไม่น้อยบนแอปฯ Robinhood ที่ประกาศ “ส่งฟรี” 15 วัน เพื่อ “ช่วยเศรษฐกิจ” ช่วยร้านเล็กๆ ให้รอดได้
หลากหลายเคสถูก Cap ขึ้นรายงานบนโซเชียล
เช่น “สั่งไข่ดาว 5 บาท” แล้วให้มาส่ง 10 กม.
หรือ “สั่งข้ามเมือง 40 กม. บ้านอยู่พระราม 3 สั่งจากปทุมธานี” เหนือสุดขอบเขตบริการ ไปส่งใต้สุดขอบ … นี่ลืมไปแล้วใช่ไหมว่าไรเดอร์คือมอเตอร์ไซค์ ??? (ไรเดอร์ได้ค่าจ้างส่งจาก SCB ที่ Absorb ดูแลค่าใช้จ่ายแทนลูกค้า ก็เพลิดเพลินแหละครับ)
แต่ที่เลวสุดคือ สั่งปลาแซลมอนซาชิมิข้ามเมืองเหมือนเคสนั้น แต่ดันไม่พอใจสินค้า เนื่องจากใช้เวลาส่งนาน 2 ชั่วโมง (แอปฯ แจ้งแล้ว) แต่พอมาถึงก็แจ้งเคลมเงินคืน อ้างว่าไม่สด …อันนี้เจ้าของร้านต้องคืนเงินตัวเอง จะเรียก Grab ไปเปลี่ยนสินค้าก็ 900.- สุดท้ายก็ต้องให้สินค้าแก่ลูกค้ารายนั้นไปพร้อมคืนเงินให้ด้วย เพราะคำคำเดียวเลยคือ “ลูกค้าไม่พอใจ”
… จะตักตวงอะไร เอาแต่พอดีนะครับ ถ้าสติรู้สึกผิดชอบไม่มี กฎเกณฑ์ต่างๆ ก็จะผุดขึ้นมาให้ยากขึ้นเพื่อป้องกันคนฉกฉวยประโยชน์จากความใจดี … ก็เหมือนกฎหมายแหละ บางประเทศไม่ต้องมีกฎหมายบางตัวก็เพราะประชากรเขาไม่ทำกันอยู่แล้ว
ผมเคยชวนเพื่อนๆ บนเฟซบุ๊กคุยเรื่องประเด็น “ขยะที่เกิดจากการสั่งของอีคอมเมิร์ซ” ผมคิดว่ามัน Wrap ห่อหุ้มมามากไป
แต่หัวอกพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่สะท้อนกลับมาคือ “การห่อหุ้มไปให้น้อย (ทั้งๆ ที่มันไม่แตกแน่ๆ ) ก็ = การถูกหักดาว” จากทัศนะคนจำนวนไม่น้อยที่อยากเห็นการห่อหนาๆ แม้สินค้าชิ้นเล็กจิ๋ว เบาโหวง หรือแม้กระทั่ง “ฟองน้ำ” ที่ต้องการการห่อ!! … (ตลกร้ายมากนะอันนี้)
เมื่อคืนทีม SCB ผู้พัฒนาแอปฯ Robinhood เขาระดมความคิดกันถึงตี 2 เพื่อปรับแอปฯ ป้องกันคนแกล้งสั่งทั้งหลายแล้ว
จะโทษแอปฯ ก็ได้ว่า “ทำไมไม่ป้องกันไว้แต่แรกล่ะ ?” … แต่สำหรับผม ผมยึดถือสาระที่ว่า “ถ้าประเทศไหนไม่มีคนทำผิดเรื่องใด ก็ไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายห้ามในเรื่องนั้น”
จิตสำนึกสาธารณะจำเป็นมาก หากเราอยากเป็นประเทศที่เจริญแล้ว”
