“ดร.รักไทย” แจงหลังทัวร์ลงโจมตีดีลทิพย์ ยันเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการประสานงานสหรัฐฯบริจาคไฟเซอร์ให้ไทย ไม่ใช่เป็นคนดีล เพราะต้องทำรัฐต่อรัฐอยู่แล้ว ลั่นขอโทษหากข้ามหน้าข้ามตาหน่วยงานไหนไป ไม่ได้มีเจตนาหักหน้าใคร
วันที่ 8 ก.ค. 2564 จากกรณีเฟชบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok เผยแพร่คลิปวิดีโอ นายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ชี้แจงเกี่ยวกับการบริจาควัคซีนไฟเซอร์ของสหรัฐอเมริกาให้ไทย โดยมีใจความสำคัญว่าระบุว่าเป็นข้อตกลงแบบรัฐต่อรัฐ ไม่มีคนกลางในการเจรจา (อ่านข่าวประกอบ : สถานทูตสหรัฐฯ ยืนยันไม่มีตัวกลางเจรจา ในการบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ให้ไทย)
โดยก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า ดร.รักไทย บูรพ์ภาค อนุกรรมาธิการประจำคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพลังงาน วุฒิสภา และอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ มหาวิทยาศรีนครินทรวิโรฒ อดีตนักศึกษา MIT เป็นผู้ที่มีส่วนในการเจรจากับสหรัฐอเมริกา ทำให้ไทยรับบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส แต่คนจำนวนหนึ่งไม่เชื่อว่าเป็นผลงานของ ดร.รักไทย จริง แต่แอบอ้างเพื่อหวังให้คนโจมตีรัฐบาล
ล่าสุด ดร.รักไทย โพสต์ชี้แจงทางเฟซบุ๊ก ว่า ...
ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับตัวเองเลยครับผม ทัวร์ลงผมเรียบร้อยแล้ว ขออนุญาตชี้แจงตรงนี้นะครับผม อย่างแรกเลยนะครับ ตัดเรื่องการเมืองออกไปก่อนนะครับ ผมไม่ได้อยู่ฝั่งไหนทั้งนั้น และขออย่าผลักให้ผมไปอยู่ฝั่งไหนเลยนะครับผม ขอให้เปิดใจรับฟังกันก่อนนะครับ
1. ถ้าติดตามดูก็จะทราบว่าผมก็ดำเนินการในส่วนของผม จริงๆ ถ้าพูดถึงสถานการณ์ Covid-19 เนี่ย มันไม่ได้เพิ่งมีมานะครับ มีมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว โครงการแรกที่ผมช่วยทำคือจัดหาหน้ากากผ้าราคาถูกในขณะที่ท้องตลาดราคาแพงส่งให้โรงพยาบาลที่มีความต้องการต่างๆ ขายในราคาถูกบางส่วนและบริจาคไปด้วย และส่งไปช่วยคนไทยในต่างประเทศ ก็ทำไปนะครับ ช่วยได้มากบ้างน้อยบ้างก็ช่วยกันไปนะครับผม
2. ปูพรมมาแล้วผมขอกลับมาเรื่องช่วยประสานวัคซีน Pfizer lot บริจาคนี้นะครับ ถ้าสังเกตุผมจะบอกเสมอว่าผมเป็นแค่ส่วนนึงในการประสานงานเท่านั้น และมีคนไทยในต่างประเทศช่วยประสานให้ผมอีกหลายท่านด้วย ซึ่งจากที่ทางท่านอุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้แจ้งว่าเป็นการเจรจาระหว่างรัฐต่อรัฐและประสานตรงกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขโดยตรงนั้นรวมถึงไม่มีคนกลางนั้น ถูกต้องเลยนะครับผม การเจรจาวัคซีนจะเป็นการเจรจารัฐต่อรัฐเท่านั้น
3. ในส่วนของผม ผมไปทำอะไร!? อย่างที่แจ้งครับตัวผมเองเริ่มตั้งแต่ติดต่อมลรัฐนิวยอร์กเพื่อไปฉีดวัคซีนให้ตัวเองตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม และเมื่อได้รับการฉีดแล้ว เห็นว่า มีวัคซีนเหลือเจตนาคืออยากนำกลับมาฉีดให้พี่น้องชาวไทยให้มากที่สุด แต่จากการติดต่อ แต่ละมลรัฐจึงทราบว่าต้องติดต่อผ่านหน่วยงานกลางซึ่งก็คือ FEMA (Federal Emergency Management Agency) แต่ ณ เวลานั้นสหรัฐอเมริกายังไม่มีนโยบายช่วยเหลือส่งวัคซีนออกต่างประเทศ จนกระทั่งประมาณต้นเดือนมิถุนายน President Joe Biden มีนโยบายประกาศช่วยเหลือ 80 ล้านโดส และ Lot แรก 25 ล้านโดส ซึ่งก็จะเป็น Lot ที่บริจาคนี้นะครับ ในส่วนของผมก็ได้ประสานติดต่อทุก Connection ที่มี ไม่ว่าจะในฐานะคนอเมริกา หรือ ในตำแหน่ง “อนุกรรมาธิการ วุฒิสภา” เอง เพื่อให้เราได้ Vaccine lot โดสบริจาคนี้ แน่นอนครับการดีลต้องทำไปเรื่อยๆติดต่อไปเรื่อยๆทุกวัน ได้คุยกับผู้บริหาร อดีตผู้บริหารของประเทศสหรัฐอเมริกา แจ้งว่าอยากนำมาให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน และรวมถึงเด็กอายุ 12-18 ปี และพิจารณากลุ่มอื่น
4. คราวนี้เมื่อมีประเด็นดรามาที่เอกสารหลุดแล้วจะผิดวัตถุประสงค์จากที่ผมได้ประสานไว้ จึงรีบแจ้งเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อให้วัคซีนนี้ได้ให้กลุ่มการแพทย์ก่อน ซึ่งได้โทรไปกำชับกับทางที่อเมริกาให้แจ้งเจตนาของผู้ให้บริจาคด้วย แต่แน่นอนครับวัคซีนที่ได้มาใน lot 80 ล้านโดส ประเทศสหรัฐอเมริกาเค้าไม่มายุ่งกิจการภายในประเทศหรอกครับผม แต่ผมก็ยังยืนยันตรงนี้และได้ย้ำทุกการติดต่อของผมทุกครั้งว่าขอให้แพทย์หน้าด่านก่อน แล้วเหลือค่อยให้กลุ่มเด็ก 12-18 ปีนะครับผม เอาละครับมาถึงตรงนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นแล้ว หน้าที่ผมก็คงหมดแล้วนะครับผม
5. ประเด็นสุดท้ายของการดีล แน่นอนครับในทางราชการก็ต้องเป็นรัฐต่อรัฐอยู่แล้ว ผมเป็นแค่คนประสานให้ได้มานะครับ ในเมื่อกระทรวงการต่างประเทศเป็นกระทรวงหลักบอกว่าเป็นคนดีล ซึ่งก็ยินดีด้วยครับ ให้ถือว่าเป็นผลงานของท่านและขอให้ท่านดำเนินการให้มาส่งโดยเร็วด้วยนะครับผม ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยบอกวันที่ที่จะมาถึงและจำนวนที่แน่นอนด้วยนะครับ และขอให้ฉีดบุคคลากรทางการแพทย์ก่อนตามที่ท่านได้แจ้งไว้นะครับผม หลังจากนี้ ผมคงจะไม่ได้เข้าไปยุ่งกับ Pfizer lot ที่จะบริจาคนี้แล้ว (ซึ่งก็คงเป็นตามความคิดของท่านที่ผมไม่ได้ช่วยอะไรแต่แรกอยู่แล้ว) ซึ่งดีลก็เป็นเรื่องนึงและการมาถึงก็อีกเรื่องนึงนะครับ ผมเองก็ขอให้มาถึงโดยเร็วด้วยนะครับผม ขอย้ำว่าวัคซีน lot บริจาคของ Pfizer ผมคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกต่อไปแล้ว
6. ตอนนี้ผมมีโจทย์ที่ต้องนำวัคซีน Johnson and Johnson lot แรกมาให้พี่น้อง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็วนะครับผม ในเมื่อ Pfizer lot บริจาคมีหน่วยงานทำอยู่แล้ว ผมก็คงขอมา Focus ตรงนี้แทนนะครับผม
7. ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ถ้าทำอะไรแล้วข้ามหน้าข้ามตาหน่วยงานไหนไปบ้าง ผมต้องขอโทษ ณ ที่นี้ด้วยนะครับผม แต่ไม่ได้มีเจตนาจะแย่งผลงานใครหรือหักหน้าใครเลยนะครับ ผมแค่เป็นคนหนึ่งที่อยากให้พี่ๆน้องๆชาวไทยได้ผ่านเหตุการณ์นี้ได้โดยเร็วนะครับผม
ถ้าท่านจะชอบหรือไม่ชอบผมอย่างไร ขอช่วยแชร์ให้ผมด้วยนะครับผม ขอขอบคุณครับ