นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง “วีระ ธีรภัทร” แนะประชาชนอยู่ตามยถากรรม หลังโควิด-19 ระบาดเป็นวงกว้าง ไม่ฟังรัฐบาลอะไรแล้ว ยังไม่ต้องสงสารใคร เอาตัวเราพอ เห็นใจได้ มีเมตตาได้ แต่ปัญหาของเขา เขาต้องแก้ ปัญหาเรา เราต้องแก้
วันนี้ (28 มิ.ย.) เฟซบุ๊ก “FM 96.5” ของสถานีวิทยุคลื่นความคิด เอฟ.เอ็ม.96.5 เมกะเฮิรตซ์ ได้หยิบยกคำพูดของ นายวีระ ธีรภัทรานนท์ นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ระบุในรายการ “คุยได้คุยดี” ว่า “ตอนนี้ พูดแบบชาวบ้าน คือ อยู่ตามยถากรรมแล้ว ผมเนี่ยไม่ฟังรัฐบาลอะไรแล้ว ยังปรึกษาทีมงานเลยว่า จะเลิกทำรายการดีกว่า อยู่บ้านแล้ว เพราะการป้องกันตัวเองดีที่สุด คือ อยู่บ้าน Home Isolation อย่าเพิ่งไปสงสารใคร เอาตัวเองก่อน ปัญหาเขาก็ให้เขาแก้ ปัญหาเราเราก็ต้องแก้เอง เห็นใจ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ได้ มันเลยเวลาแก้ไปหมดแล้ว ซึ่งมีวิธีคิด 2 วิธีคือ หนึ่ง คัดกรอง ตรวจแยก สอง ฉีดวัคซีน ตอนนี้ เราทำไม่ได้ทั้งสองวิธี จึงต้องเผชิญชะตากรรมอย่างยถากรรม ไม่มีตัวช่วยอะไรแล้ว มีแต่ข่วยเหลือตัวเอง”
เมื่อตรวจสอบรายการคุยได้คุยดี ประจำวันที่ 28 มิ.ย. พบว่ามีสายของนายวรวุฒิ โทร.เข้ามา ในตอนหนึ่งกล่าวดังนี้
วรวุฒิ : อาจารย์ คุยโควิดหน่อย ที่รัฐบาลประกาศมาเนี่ย มันก็ต้องมีรอบ 5 รอบ 6 รอบ 7
วีระ : พูดถึงอะไรครับ?
วรวุฒิ : ไม่จบ ที่ว่าประกาศหลัง 3 ทุ่มประกาศล็อกแคมป์อะไรอย่างนี้ ผมว่ามันไม่ได้อ่ะ
วีระ : ได้ ทำไมจะไม่ได้ ประกาศได้ ประกาศไปแล้วนี่ เพียงแต่ว่าประกาศตอนดึกหน่อยเท่านั้นเอง ประกาศได้
วรวุฒิ : ไม่ เข้าใจๆ แต่ว่ามันต้องการให้เต็มร้อย อยากให้มันเต็มร้อยจริงๆ คุณไปเคาะประตูบ้านเลย แล้วคุณขอตรวจกันเลย แล้วก็เตียงมันไม่พอใช่ไหม คุณก็แนะนำเลยว่าคุณอยู่กับบ้านนะ แต่ว่ามันมีปัญหา ครอบครัวหนึ่ง บางที่เนี่ยเขาอยู่ห้อง พ่อแม่ลูก 3-4 คน เกิดถ้ามันติดเนี่ย
วีระ : เอ้า ต้องติดหมด เป็นเพื่อนกัน
วรวุฒิ : ไม่ แต่ผมว่าถ้าจะเอาให้ขาดอย่างเนี้ย คุณเดินเคาะประตูบ้านเลย
วีระ : ไม่ได้ มั่วอย่างนั้นไม่ได้
วรวุฒิ : ไม่ มันต้องได้อ่ะอาจารย์
วีระ : ไม่ได้ มั่วอย่างนั้นไม่ได้ เขาต้องมีหลักวิชาว่าจะทำตรงไหนยังไง ไม่ใช่ต้องเดินไปทุกบ้าน เดินไปทุกบ้านทำไม่ได้
วรวุฒิ : เอาแค่นี้ อาจารย์ ที่ผมคุยให้อาจารย์ฟังครั้งที่แล้ว ที่ว่ามีรถตรวจโควิดที่ตลาดใช่ไหม ถ้าคนไม่เดินไปตลาด คนไม่ไปตลาด คนไม่ไปข้องแวะแบบนั้น ก็จะไม่รู้เลยว่ามีรถมาตรวจ
วีระ : เอ้า ก็ไม่เป็นไร ไม่ อย่างนี้ วรวุฒิ ทำอย่างที่คุณพูดเนี่ยทำไม่ได้ ผมเนี่ยรู้ข้อมูลว่าทำไม่ได้ TTI แบบนั้นทำไม่ได้
วรวุฒิ : บุคลากรทางการแพทย์เราไม่พร้อม
วีระ : ทั้งอุปกรณ์ ทั้งเครื่องมือ ทั้งราคาด้วย และที่สำคัญก็คือว่า เราจะใช้แบบนั้นก็เพื่อจะคัดแยกคนติดเชื้อ กับคนไม่ติดเชื้อ ออกจากกัน คือ T ก็คือไปเทสต์ เทสต์แล้วก็ตาม แล้วก็ตรวจสอบ แล้วถ้ามันติด แยกออกมา คราวนี้ ตอนนี้มันทำไม่ได้แล้ว มันระบาดเป็นวงกว้างหมดแล้ว ทำไม่ได้แล้ว เลยเวลาไปแล้ว ไม่ ตอนนี้นะ พูดแบบชาวบ้าน คือยถากรรมแล้ว
วรวุฒิ : คือตามยถากรรม
วีระ : ตอนนี้ยถากรรมแล้ว ผมเนี่ยไม่ฟังรัฐบาลอะไรแล้ว เมื่อเช้านั่งปรึกษากับทีมงานว่า เฮ้ย เลิกทำรายการดีกว่า อยู่บ้านแล้ว
วรวุฒิ : เราเลิกฟังมาตั้งนานแล้ว ผมว่าไม่เคยฟัง ป้องกันตัวเองเฉยๆ
วีระ : ป้องกันก็ป้องกัน แต่ป้องกันดีที่สุดอยู่บ้าน คือ Home Isolation เท่านั้นเอง อย่างอื่นไม่มีเลยตอนนี้
วรวุฒิ : ผมก็สงสารคนขายของ
วีระ : ยังไม่ต้องสงสารใคร เอาตัวเราพอ ไม่ต้องสงสาร ปัญหาเขาให้เขาแก้ ปัญหาของเขาเขาต้องแก้ ปัญหาเราเราต้องแก้ เห็นใจได้ มีเมตตาได้ อะไรได้ กรุณาได้ มุทิตาได้ อุเบกขาได้
วรวุฒิ : มันมีวิธีแก้แต่ดันทำไม่ได้
วีระ : ทำไม่ได้ ตอนนี้เลยเวลาไปหมดแล้ว
วรวุฒิ : แต่ก่อนทำได้แล้วเป็นกันแบบนี้
วีระ : เลยเวลาไปหมดแล้ว เพราะว่าวิธีคิด มันมีวิธีคิด 2 วิธี เดี๋ยวอธิบายให้ฟัง วิธีคิดที่หนึ่งก็คือ ทำแบบว่าคัดกรอง ตรวจ แยก วิธีที่สองคือฉีดวัคซีน เราทำไม่ได้ทั้งสองอย่างตอนนี้ เพราะฉะนั้นมันจะต้องไปเผชิญชะตากรรมแบบยถากรรม
วรวุฒิ : มีอะไรพอช่วยได้
วีระ : ไม่มีตัวช่วยอะไรทั้งนั้นแล้วครับตอนนี้ มีแต่ช่วยตัวเอง โอเคไหม นี่ยังไม่ได้ว่ารัฐบาลแม้แต่คำเดียวนะ ยังไม่อยากว่านะ
วรวุฒิ : แล้วอาจารย์เคยว่า ตอนนี้แกหูชา แกไม่รู้เรื่องแล้ว
วีระ : ไม่รู้อ่ะ ยังไม่ได้ว่าใคร พูดหลักคิดหลักการเฉยๆ นะ อย่าให้ว่านะ รายการไม่ต้องทำเลย (หัวเราะ)