“โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” ม้ามืดคว้าลิขสิทธิ์บอลยูโร ตระกูล “แซ่จึง” กุมบังเหียนการเมืองไทย

ขุดลึกตระกูล “แซ่จึง” ในวันที่ “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” เจ้าของรองเท้าแอโร่ซอฟต์ ม้ามืดคว้าลิขสิทธิ์บอลยูโร 2020 คืนความสุขให้คนไทย กับวันที่ประเทศไทยมีนามสกุล “จึงรุ่งเรืองกิจ” แทบจะทุกขั้วการเมือง

รายงาน

ทำเอาเซอร์ไพร์สไปทั้งวงการลูกหนังไทย เมื่อจู่ๆ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าวการถ่ายทอดสดฟุตบอล “ยูโร 2020” (EURO 2020) “คืนความสุขให้คนไทยดู​ยูโร”ที่สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท จ.ปทุมธานี

ปรากฏชื่อ “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ”ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิท ฟุตแวร์ จำกัด เป็นผู้ควักกระเป๋าสตางค์จ่ายค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอล ราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 310 ล้านบาท ซึ่งปิดดีลนี้ได้ภายใน 48 ชั่วโมงเท่านั้น

แถมมอบให้สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่ถ่ายทอดสดหลัก ชนิดที่เรียกว่าทุกกล่อง ทุกเสา ทุกจาน ทุกสี ดูได้แบบไม่มีกั๊ก ไม่ต้องกลัวจอดำอีกต่อไป แค่ระวังไม่ให้สัญญาณหลุดไปยังต่างประเทศเท่านั้น

ยืนยัน การซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ ไม่ได้ใช้เงินภาษีประชาชน หรืองบประมาณแผ่นดินอย่างแน่นอน

ว่ากันว่า หนึ่งในเบื้องหลังมาจากลูกชายอย่าง “โฟม พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ”ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และคณะกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร เป็นคนขอร้องคุณพ่อด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นคอบอลที่ดูฟุตบอลมาตลอด

สำหรับชื่อของ “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ”ถ้าไม่ใช่คอการเมืองหรือข่าวธุรกิจอาจจะไม่คุ้น เมื่อเทียบกับพี่ชายอย่าง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรมว.อุตสาหกรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร หรือจะเป็นนักการเมืองขั้วตรงข้าม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เป็นหลานกัน

หากนับสาแหรกตระกูลแซ่จึง พบว่า บิดาอย่าง โหลยช้วง แซ่จึงกับมารดา บ่วยเชียง แซ่โป่ว โล้สำเภามาจากเมืองจีน พร้อมด้วยลูกชายคนโตอย่าง ฮั่นตง แซ่จึง พึ่งพระบรมโพธิสมภารที่ประเทศไทย มีลูกอีก 4 คน และทำมาหากินจนได้ดิบได้ดี

เมื่อรัฐบาลไทยเปิดให้ตั้งนามสกุลได้ คนไทยเชื้อสายจีนแห่เปลี่ยนนามสกุล โหลยช้วงกับบ่วยเชียง จึงเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่จึง”เป็น “จึงรุ่งเรืองกิจ”ยกเว้นพี่ชายคนโตอย่าง “ฮั่นตง”ขอเปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่เป็น “สรรเสริญ จุฬางกูร”ก่อน

พี่น้องตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ทั้ง 5 คน ประกอบด้วย

1. นายสรรเสริญ จุฬางกูรสมรสกับ นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร มีบุตรชายทั้งหมด 6 คน คือ นายอภิชาติ จุฬางกูร, นายทวีฉัตร จุฬางกูร, นายณัฐพล จุฬางกูร (ไฮโซนัท), นายกรกฤช จุฬางกูร (สามีของ บี มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์), นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร และนายอัครพงศ์ จุฬางกูร ปัจจุบันสรรเสริญเป็นเจ้าของ “ซัมมิท คอร์ปอเรชั่น” ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และตัวถังรถยนต์

2. นายพัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ (ฮั้งฮ้อ แซ่จึง)สมรสกับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มีบุตรด้วยกัน 5 คน คือ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่รับบทบาททางธุรกิจต่อจากพัฒนาและสมพร, นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, น.ส.รุจิรพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพัฒนา ถึงแก่กรรมไปแล้ว ส่วนนางสมพรรับบทบาทประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองเครือมติชน (MATI) เจ้าของหนังสือพิมพ์มติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ

3. นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจสมรสกับ นางยาใจ จึงรุ่งเรืองกิจ มีบุตรชาย 2 คน คือ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ หรือ โฟม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายสุเรศพล จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าของบริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ ผู้ผลิตส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูป และบุตรสาวอีก 1 คน ปัจจุบันโกมลเป็นประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตรองเท้าแอโรซอฟต์ เป็นจ้าของสนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท ย่านรังสิต-คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งใช้เป็นสถานที่นัดพบทางการเมืองมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่นายสุริยะ เป็นรัฐมนตรี

4. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจสมรสกับ นางสุริสา จึงรุ่งเรืองกิจ มีบุตรชาย 1 คน คือ นายศาตนันท์ จึงรุ่งเรืองกิจ หรือ แบงค์ หนึ่ง ในเจ้าภาพใหญ่บริจาคสร้างอาคาร 100 ปีคุณยายอาจารย์ฯ วัดพระธรรมกาย นายสุริยะ เป็นนักการเมืองมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร แต่ภายหลังถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ในคดียุบพรรคไทยรักไทย ต่อมาเป็นหัวหน้ากลุ่มสามมิตร เข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

5. น.ส.อิสริยา จึงรุ่งเรืองกิจ(ชื่อเดิม อริสดา) ตามรายงานข่าวระบุว่า เป็นเจ้าของโรงแรมเมเปิล บางนา แต่จากการสืบค้นพบว่า กรรมการบริษัท โรงแรมเมเปิล จำกัด คือ นายทวีพงศ์ กมลวัฒนาวิทย์ กับ น.ส.ฐาภรพัชร์ จึงรุ่งเรืองกิจ

ที่น่าสนใจก็คือ ครั้งหนึ่ง นายสุริยะ กล่าวถึง นายธนาธร ในรายการเจาะลึกทั่วไทย เมื่อปี 2561 ระบุว่า นายธนาธร หลานชายเกิดมาตอนพ่อแม่และครอบครัวสบายแล้ว ช่วงที่เป็นนักศึกษา จึงมีความเป็นประชาธิปไตยเต็มที่ ครั้งหนึ่งนายธนาธรขึ้นเวทีวิจารณ์นายทักษิณ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายทักษิณ ถามนายสุริยะ ว่า “ทำไมคุณคุมหลานไม่ได้” นายสุริยะ ก็ตอบว่า “คุณแม่เขายังคุมไม่ได้เลยครับ” และยังกล่าวอีกว่า ตอนที่ไปเยี่ยมนายพัฒนาที่ไปรักษาตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สมัยที่เป็น รมว.อุตสาหกรรม ในรัฐบาลทักษิณ นายธนาธร ยังต่อว่าไปทำโครงการวางท่อก๊าซที่จะนะ ทำลายสิ่งแวดล้อม

นายสุริยะ ผู้เป็นอา ระบุว่า “เขาอยากเห็นโลกที่สมบูรณ์แบบ ขอสรุปว่า คุณธนาธร เป็นคนดี เป็นคนแบบนี้ของเขามาตั้งแต่เรียน” แต่นายสุริยะมองว่า พรรคพลังประชารัฐควรเลือกที่จะออกจากบ้านเมืองสองขั้ว และพยายามหาทางออกประเทศ


ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. นายโกมล พร้อมลูกชาย คือ นายพงศ์กวิน บริจาคเงินจำนวน 100 ล้านบาท พร้อมด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ประกอบด้วย อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและตา (Face Shield) จำนวน 3,000 ชิ้น และเครื่องช่วยหายใจไฮโฟลว์ (Airvo 2) จำนวน 10 ชิ้น ให้แก่มูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช เพื่อสนับสนุนการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้ในการรักษา

นายโกมล กล่าวว่า ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้คนไทยทุกคนต้องมีความร่วมมือกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤตให้ประเทศไทยกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ขอเชิญชวนผู้ที่พอมีกำลังมาร่วมบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือเงินทุนสนับสนุนโรงพยาบาล เพื่อช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานของหมอและพยาบาล และทำให้ประเทศของเราปราศจากโควิด-19 โดยเร็ว พร้อมย้ำว่าขอให้คนไทยการ์ดอย่าตกและร่วมมือกันป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนด

ถือเป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจใจบุญ กับตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่กุมบังเหียนการเมืองไทยกันแทบจะทุกขั้ว ทุกฝ่ายในเวลานี้ แม้ต่อให้ทัศนคติทางการเมืองจะพบว่า “อาไปทาง หลานไปทาง” ก็ตาม