ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสทิงพระแจงกรณีแบ่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 ขวดฉีด 13 โดส ทำให้หลายคนหวั่นไม่ได้ประสิทธิภาพ ล่าสุดเผยว่าแค่ทดลองกับน้ำเปล่า และนำเสนอผู้บริหารจังหวัดแล้ว แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบ
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. เพจ "หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor" ได้เผยภาพจากไลน์กลุ่มของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา ซึ่งมีข้อความระบุว่า "ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ ดูดวัคซีนโควิดแอสตร้าเซนเนก้าโดยใช้เข็มอินซูลิน (Syringe insulin) แท้ดูด และขอให้ดูดแบ่งวัคซีน 13 โดสเท่านั้น โดยได้ปรึกษากับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแล้วอนุญาตให้ทำได้ ซึ่งเตรียมจะเสนอเทคนิคนี้ไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วยนั้น"
ล่าสุดเพจ "สาธารณสุข จังหวัดสงขลา" ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงจาก นพ.นครินทร์ ฉินตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสทิงพระ และรักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงหนคร ระบุว่า "การดูดวัคซีนจากขวดวัคซีน AstraZeneca เกิดจากการทดลองของกระผมเอง โดยเห็นว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่พยาบาลที่ทำการดูดวัคซีนโดยใช้เข็มฉีดยาขนาด 1 cc แบบถอดปลายเข็มได้เบอร์ 25 ทำให้สามารถดูดวัคซีนออกมาได้ทั้งหมด 11 Dose ถ้าเราทดลองโดยใช้เข็มฉีดยาอินซูลินแบบ ถอดปลายเข็มไม่ได้เบอร์ 27 โดยการทดลองใช้น้ำเติมเข้าไปในขวดวัคซีนเดิมที่ใช้หมดแล้วทั้งขวด
โดยผมให้เจ้าหน้าที่ทดลองเติมน้ำเข้าไป 6.5 cc และใช้เข็มฉีดยาอินซูลินแบบถอดปลายเข็มไม่ได้เบอร์ 27 ปรากฏว่าสามารถแบ่งน้ำในขวดได้ทั้งหมด 13 Dose จึงคิดว่าอยากจะให้เจ้าหน้าที่ใช้เข็มอินซูลินแบบนี้ดูดแบ่งวัคซีน AstraZeneca เพื่อจะได้จำนวน Dose วัคซีนสูงสุด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้รับวัคซีนมากขึ้น มีเจ้าหน้าที่บางท่านไม่เห็นด้วย เพราะเข็มฉีดยาอินซูลินชนิดนี้มีปลายเข็มยาวแค่ครึ่งนิ้ว เวลาฉีดจะทำให้ไม่ถึงบริเวณชั้นกล้ามเนื้อของต้นแขน แต่กระผมคิดว่าทำได้ ตอนจะฉีดยาโดยเข็มอินซูลินชนิดนี้ก็ขอให้กดปลายเข็มลงไปในชั้นกล้ามเนื้ออีกประมาณครึ่งนิ้ว ก็ทำให้ถึงชั้นกล้ามเนื้อได้
จากเหตุการณ์ที่สามารถแบ่งวัคซีนได้ 13 Dose นี้กระผมเองคิดว่า จึงได้นำเสนอความคิดนี้ต่อผู้บริหารระดับจังหวัด แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารระดับจังหวัดสงขลา จึงไม่ได้ดำเนินการ ต้องขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด"