โป๊ะแตก! หนุ่มใหญ่กุเรื่อง คนลืมของหากหยิบจะโดนรีดไถ ตร.เตาปูนพบโกหกทั้งเพ ชาวเน็ตแนะจัด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

หนุ่มใหญ่โพสต์ลงเฟซบุ๊กเตือนภัย พบสิ่งของในห้องน้ำห้างดังย่านเตาปูน เอะใจหวั่นเป็นแผนกลุ่มรีดไถ ชาวเน็ตแห่แชร์กว่า 2 หมื่นครั้ง ต่อมา ตร.เตาปูนเข้าตรวจสอบพบเป็นเรื่องหลอกลวง ชาวเน็ตรุมประณาม แนะ จนท.แจ้งข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Uncleout Eatto" โพสต์ภาพกล่องของเล่นเด็กวางอยู่ภายในห้องน้ำของห้างสรรพสินค้าโลตัส เตาปูน พร้อมระบุข้อความประกอบว่า

"เข้าห้องน้ำที่โลตัส เตาปูนเมื่อ 11 โมงกว่าๆ นี้เอง เจอกล่องนี้วางแอบอยู่ข้างๆโถส้วม แว่บแรกดีใจว่าได้ของฟรี แต่มาเอะใจเคยมีคนลงเหตุการณ์แบบนี้แล้ว อย่าหยิบเด็ดขาด เราเลยเอาเท้าเขี่ยออกมาแล้วถ่ายรูปไว้ และไม่หยิบกล่องนั้นเลย พอเปิดประตูเท่านั้นแหละข้างนอกมีชายหนุ่มหัวเกรียน 2-3 คนยืนถือมือถือเตรียมถ่ายรูป เราหัวเราะลั่นเลยแถมตะโกนเสียงดังพอสมควร “สะใจโว้ย ไม่ได้แหลกกูหรอก”

ใครที่เจอแบบนี้ต้องระวังนะครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าหยิบขึ้นมาแล้วถือออกไป อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อก่อนมีข่าวว่ามีคนเจอกล่องลักษณะนี้ พอหยิบจับขึ้นมาลายนิ้วมือเราจะติดอยู่และเมื่อมีคนเห็นก็จะถ่ายรูปเราไว้ (คนถ่ายอาจจะเตรียมไว้แล้ว) และหรืออาจจะมีขบวนการตำรวจนอกเครื่องแบบปลอมเข้ามาจับกุมขอตรวจค้น แล้วเจอสิ่งผิดกฎหมายเช่นยาเสพติดเป็นต้น แล้วต่อไปก็คือจะถูกข่มขู่รีดไถเงิน ประมาณนี้ครับ"

จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก และมีการแชร์ออกสู่โลกโซเชียลแล้วกว่า 2 หมื่นครั้ง ล่าสุดวันนี้ (8 มิ.ย.) เพจ "สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน" ได้รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ดังกล่าว

จากกรณีมีผู้ลงข้อมูลทางสื่อโซเชียลแจ้งเตือนภัยว่า พบกล่องในห้องน้ำโลตัส เตาปูน (สาขาประชาชื่น) แล้วมีคนดักรอถ่ายรูปหน้าห้องน้ำ เพื่อจะข่มขู่ รีดไถนั้นฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกับทางเจ้าหน้าที่ห้างโลตัส สาขาประชาชื่น และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว

ขอเรียนว่า

ไม่พบว่ามีกลุ่มชายหัวเกรียน ลักษณะคล้ายตำรวจ ติดตามผู้โพสต์ข้อมูลแต่อย่างใด และกล่องที่เห็นตามภาพนั้น เป็นกล่องของเล่นไดโนเสาร์ ซึ่งมีผู้เก็บนำไปให้ประชาสัมพันธ์ของห้างโลตัสแล้ว แนะนำว่า หากประชาชนท่านใดพบเหตุการณ์ลักษณะกรณีดังกล่าว หรือเจอสิ่งของหลงลืมในห้องน้ำห้าง ก็สามารถแจ้งทาง รปภ.ของห้าง หรือผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาตำหนิผู้โพสต์ต้นเรื่องเป็นจำนนวนมาก ที่กุเรื่องขึ้นมาหลอกลวง พร้อมแนะเจ้าหน้าที่แจ้งความในข้อหา พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์อีกด้ว