คณะทำงานแก้ปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผย กระทรวงการคลังออกระเบียบใหม่ ใครทำผิดกฎจราจร ถ้าจับกุมผ่านกล้อง ไม่ได้รับเงินรางวัลแล้ว ให้หัก 95% ไว้ใช้จ่ายงานด้านการจราจรเท่านั้น หากมีเงินเหลือให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ไม่สามารถเบิกเงินรางวัลได้ เว้นแต่กระทำผิดซึ่งหน้า ยังได้เงินรางวัลเหมือนเดิม
วันนี้ (29 พ.ค.) พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก ในฐานะคณะทำงานแก้ปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “คุยเรื่องจราจรกับเอกรักษ์” ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2564 เป็นต้นไป การจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ด้วยกล้องตรวจจับหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะไม่สามารถเบิกเงินรางวัลได้แล้ว เนื่องจากมีข้อบังคับและระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการหักเงินค่าปรับกรณีจับกุมผู้กระทำความผิดด้วยเครื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 27 พ.ค. 2564 มีผลตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2564 เป็นต้นไป ให้นำเงินดังกล่าวมาใช้ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับงานจราจรในภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เฉกเช่นเงินงบประมาณแผ่นดินเท่านั้น จึงไม่สามารถใช้เป็นเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมได้ ส่วนการจับกุมในความผิดซึ่งหน้ายังคงมีการเบิกจ่ายเงินรางวัลเช่นเดิม เพราะฉะนั้น ความผิดขับรถเร็ว ฝ่าไฟแดง แซงเส้นทึบ ฯลฯ ที่เป็นใบสั่งทางไปรษณีย์จากกล้องตรวจจับ ตำรวจจราจรไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ได้รับเงินรางวัลแล้ว
พร้อมกันนี้ ได้โพสต์หนังสือของ นายจำเริญ โพธิยอด รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการแห่งชาติ เรื่อง ขออนุมัติหักเงินค่าปรับไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจราจร ระบุว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงแจ้งว่า สํานักงานตํารวจแห่งชาติได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์และกลไกในการออกใบสั่งสําหรับผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งยังเพิ่มอํานาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานจราจรเกี่ยวกับการใช้อํานาจเพื่อควบคุมดูแล และบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 และคําสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2560 แต่เนื่องจากงบประมาณที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติได้รับจัดสรรในแต่ละปีไม่เพียงพอสําหรับดําเนินการตามแนวทางการพัฒนาระบบและหลักเกณฑ์ ตามกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น เพื่อให้มีเงินค่าใช้จ่ายในการดําเนินการตามมาตรการต่างๆ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตลอดจนเพื่อความพร้อมของสํานักงานตํารวจแห่งชาติในการดําเนินการบังคับใช้กฎหมายหรือการแก้ไขสถานการณ์ เพื่ออ่านวยความสะดวกหรือความปลอดภัยด้านการจราจร จึงขออนุญาตหักเงินค่าปรับตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกที่ได้รับจากการจับกุมผู้กระทําความผิดด้วยเครื่องอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์สําหรับตรวจจับผู้กระทําผิด ไว้ใช้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานจราจรในอัตราร้อยละ 95 ตามร่างข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วย การหักเงินค่าปรับตามกฎหมายจราจรทางบก ก่อนนําส่งคลัง พ.ศ. .... และร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานจราจร พ.ศ. .... ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บ ค่าปรับจากผู้กระทําผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเป็นการเสริมงบประมาณของสํานักงานตํารวจแห่งชาติให้มีเพียงพอต่อการปฏิบัติภารกิจด้านการจราจร ให้สําเร็จลุล่วง ได้ในระยะเวลาที่ไม่ได้รับจัดสรรเงินงบประมาณ หรือได้รับจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ จึงอนุญาตให้สํานักงานตํารวจแห่งชาติหักเงินค่าปรับที่ได้รับจากการกระทําผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สําหรับกรณีการจับกุมผู้กระทําผิดด้วยเครื่องอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้แบ่งให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น ตามมาตรา 146 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และได้นําส่งเข้ากองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญาตามมาตรา 113 แห่งพระราชบัญญัติตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว เพื่อไว้ใช้จ่ายในการดําเนินงานด้านการจราจร ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ในอัตราร้อยละ 95 ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยถือปฏิบัติตามข้อบังคับกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการหักเงินค่าปรับ กรณีจับกุมผู้กระทําผิดด้วยเครื่องอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2564 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินค่าปรับ กรณีจับกุมผู้กระทําผิดด้วยเครื่องอุปกรณ์ ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2564 รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติต่อไป
สำหรับสาระสำคัญของข้อบังคับกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการหักเงินค่าปรับ กรณีจับกุมผู้กระทำผิดด้วยอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2564 พบว่า ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้มีอำนาจหักเงินค่าปรับในอัตราร้อยละ 95 ไว้ใช้จ่ายในการดำเนินงานจราจรตามระยะเวลาที่กระทรสงการคลังกำหนด โดยให้หักจากเงินค่าปรับที่ได้แบ่งให้แก่ราชการส่วนท้องถิ่น และได้นำส่งเข้ากองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา นำฝากกระทรวงการคลังหรือสำนักงานคลังจังหวัด แล้วแต่กรณี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจราจร โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด เมื่อสิ้นปีงบประมาณ หากมีเงินในบัญชีเหลือจ่ายหรือเหลือจากการก่อหนี้ผูกพันเท่าใด ให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินภายใน 3 เดือนแรกของปีงบประมาณถัดไป และกรณีมีเงินเหลือเกินความจำเป็น กระทรวงการคลังจะกำหนดให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามจำนวนที่เห็นสมควรได้ เป็นต้น