xs
xsm
sm
md
lg

สาวช็อก! เจอผ้าก๊อซหลุดมาจากช่องคลอด ติดมานาน 2 เดือนจนส่งกลิ่นเหม็น ด้าน รพ.ยอมรับการทำงานผิดพลาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ลูกอ่อนโพสต์ พบผ้าก๊อซหลุดมาจากช่องคลอด หลังไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลได้ 2 เดือน คาดว่าหมออาจลืมไว้จนส่งกลิ่นเหม็น ล่าสุดเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลขอโทษพร้อมยอมรับเกิดจากความผิดพลาดในระบบการทำงาน เผยจะได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวอุทาหรณ์ลงในกลุ่ม "แจ้งข่าวคูเมือง" ซึ่งเป็นภาพผ้าก๊อซซับเลือดขนาดใหญ่ที่ผู้โพสต์เผยว่าทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ลืมนำออกมาหลังตนคลอดลูกตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 โดยผู้โพสต์เล่าว่า "ขออนุญาต​แอดมินนะคะ ฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์​นะคะ ปล.ผิดกฎลบได้นะคะ

เมื่อวันที่​ 17​ มีนาคม​ 2564 แม่ได้คลอดน้องออกมา​ที่โรงพยาบาลคูเมือง คลอดธรรมชาติ วันที่คลอดน้องแม่มีเลือดไหลไม่หยุดหมอเลยยัดก้อนสำลีหรือผ้าก๊อซเพื่อหยุดเลือดแต่หมอเอาออกแล้ว​ แม่ไม่คิดว่าหมอจะเอาออกไม่หมด หลังออกจากโรงพยาบาล​ได้ 15 วัน​น้ำ​คาวปลา​มีกลิ่นเหม็น​มาก

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 เมษายน​ 2564​ หมอนัดตรวจหลังคลอด​ที่อนามัย​ใกล้บ้าน แต่หมอไม่ได้ตรวจภายใน​ให้หมอถามแค่อาการเบื้องต้น​ ก็ไม่ได้ติดใจอะไร​เพราะหมอบอกไม่มีอาการปวดท้องหรือเป็นไข้ก็ไม่เป็นไร

พอคลอดน้องได้ 2 เดือน​ 8 วันเหมือน​มีอะไรจะหลุดออกจากช่องคลอดแม่ก็เลยดึงออก สรุปเป็นผ้าก๊อซก้อนใหญ่ ไม่เข้าใจชีวิตคนทั้งคนทำไมถึงทำงานสะเพร่าแบบนี้​ ดีที่ยังหลุดออกไม่มีอาการติดเชื้อ ผ้าก๊อซก้อนใหญ่​และเหม็นมากในระยะเวลา 2 เดือน​ ไม่มีอาการปวดท้องและเป็นไข้ แบบนี้ถ้าติดเชื้อ​ตายมาใครจะรับผิดชอบคะ แบบนี้สามารถฟ้องเอาผิดได้ไหมคะ ขออภัยในรูปไม่สุภาพค่ะ"

รายงานข่าวเพิ่มเติมทราบว่า นางทิพยวรรณ ไชยศล หัวหน้ากลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลคูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวภายหลังนำเจ้าหน้าที่มอบกระเช้าให้แก่ น.ส.สิริวิมล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ โดยนางทิพยวรรณกล่าวว่า กรณีมีผ้าก๊อซในช่องคลอดถือว่าเป็นความผิดพลาดในระบบการทำงาน

ด้านสาวผู้เสียหายสามารถได้รับการเยียวยาตามมาตรา 41 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการทางสาธารณสุขได้ แต่จะต้องผ่านกระบวนการคณะกรรมการก่อน ทั้งนี้ต้องขอโทษผู้เสียหายที่ทำให้เดือดร้อนและสร้างความกังวลใจให้แก่ครอบครัว ซึ่งทางโรงพยาบาลจะได้มีการปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้นอีก








กำลังโหลดความคิดเห็น