xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เถื่อนนะจ๊ะสิระ! โรงพยาบาลสนามหมอเหรียญทอง ได้รับอนุญาตจาก สบส.แล้วจ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เผย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ อนุมัติจัดตั้งโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดินแล้ว ไม่ใช่โรงพยาบาลเถื่อนอย่างที่ “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.พลังประชารัฐ กล่าวหา

วันนี้ (18 พ.ค.) เฟซบุ๊ก “เหรียญทอง แน่นหนา” ของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมขออนุมัติจัดตั้งโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน โดยยื่นเรื่องตามแบบฟอร์มขออนุมัติ (สพอ.8) ถึงกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 5 พ.ค. 64 ก่อนที่ไอ้กุ๊ยหลักสี่จะยกพวกพานักข่าวมาบุกโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดินในวันที่ 7 พ.ค. 64 เสียด้วยซ้ำ

ไอ้กุ๊ยหลักสี่มันตั้งใจจะหาเรื่องดิสเครดิตให้ร้ายว่าผมตั้งโรงพยาบาลเถื่อน มันไม่รู้อะไรเลย ที่สำคัญ ผมไม่ใช่คนที่ไอ้กุ๊ยอย่างมันจะมาซ่าส์ เกเรกับผมได้ ผมจีงผรุสวาทด่าทอไอ้กุ๊ยอย่างหยาบคายว่า “กูตั้งโรงพยาบาลสนามตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ต้องขออนุญาต มึงอยากมีเรื่องกับกูหรือไง... ไอ้เ...ย! ... มีงนี่ไม่รู้เ...ยอะไรเลย ... กูไม่คุยกับมีง ... มีงไปแจ้งความเดี๋ยวนี้แล้วอย่าถอนฟ้อง ... กูรอ”

แล้วมันก็บ้าอำนาจด้วยความโง่อย่างไม่สิ้นสุดด้วยคิดว่าโรงพยาบาลสนามต้องขออนุญาต ซึ่งต่อมาสังคมก็ช่วยกันเผยแพร่ราชกิจจานุเบกษา เกี่ยวกับประกาศการตั้งโรงพยาบาลสนามว่าไม่ต้องขออนุญาต ซึ่งราชกิจจานุเบกษานี้มีผลตั้งแต่ มี.ค. 63 หรือประกาศมานานกว่า 1 ปีแล้ว ... มันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่มันเป็นถึงประธานกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร

การยื่นแบบขออนุมัติ (สพอ.8) ต่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 5 พ.ค. 64 นั้น สบส. จะเห็นชอบได้ต่อเมื่อโรงพยาบาลสนามเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ไอ้กุ๊ยหลักสี่มันมาบุกนั้นมันยังไม่เสร็จแล้ว สบส. จะมาตรวจเห็นชอบได้อย่างไร..."ไอ้เ...ย! ... มีงนี่ไม่รู้เ...ยอะไรเลย”

เมื่อบ่ายวันที่ 17 พ.ค. 64 หลังจากที่ สบส. มาตรวจความเรียบร้อยของโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดินแล้ว กระทรวงสาธารณสุขก็ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการ และมอบหนังสืออนุมัติโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน ณ ไอ ซี ยู สนาม นี่ไงครับ...รพ.สนามเถื่อนของไอ้กุ๊ยหลักสี่ “ไอ้เ...ย! ... มีงนี่ไม่รู้เ...ยอะไรเลย” ... กูถึงไม่คุยกับมีงไง ... ไอ้สัส (น้าค่อมฝากด่านะครับ)

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
18 พ.ค.64 เวลา 7.50 น.

ขอประทานในความหยาบคายของผมที่ปรากฏต่อสาธารณะครับ ... ธาตุแท้ของผมมันเติบโตมาจากดงนักเลง 2499 ย่านหัวลำโพง มันจึงเป็นคนประเภท “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ... ไอ้กุ๊ยหลักสี่หัดดูตาม้าตาเรือเสียบ้าง”

อีกข้อความหนึ่งโพสต์ว่า “ผมและทีมงานใช้เวลาเพียงแค่ 12 วัน จากพื้นที่สนามซึ่งเต็มไปด้วยวัชพืช กลายเป็นโรงพยาบาลสนาม ระดับ 3 ขนาด 3,000 ตารางเมตร ที่มีขีดความสามารถสำหรับผู้ป่วยวิกฤต 48 เตียง และผู้ป่วยอาการปานกลางค่อนข้างหนักอีก 167 เตียง รวมจำนวนทั้งสิ้น 215 เตียง ด้วยเงินลงุทุนทั้งสิ้นแค่ 75 ล้านบาท หรือใช้เงินลงทุนเฉลี่ยต่อเตียง โรงพยาบาลสนาม ระดับ 3 ประมาณ 350,000 บาทต่อเตียง และใช้เวลาดำเนินการเฉลี่ยต่อเตียง โรงพยาบาลสนาม ระดับ 3 ประมาณ 1.3 ชั่วโมงต่อเตียง ผมขอเน้นย้ำว่านี่คือโรงพยาบาลสนาม ระดับ 3 นะครับ ไม่ใช่ระดับ 1 แตกต่างกันอย่างมากนะครับ

ผมขอเรียนว่า การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ระดับ 3 ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่หลักการและทฤษฎีเท่านั้น แต่ต้องสามารถประยุกต์ดัดแปลงที่ศัพท์ทางหทารเรียกว่า “การแสวงเครื่อง” คือ การใช้สิ่งที่หาได้มาดัดแปลงให้ใช้งานได้จริง เช่น ระบบจ่ายก๊าซออกซิเจนและอากาศทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน ที่ใช้ท่อลมทางการแพทย์ [Medical Hose] ซึ่งเป็นท่อของเครื่องช่วยหายใจมาใช้แทนท่อทองแดงที่ต้องเชื่อมด้วยเงินและต้องใช้เวลาดำเนินการ 215 เตียงนานนับเดือน ทั้งยังต้องใช้เงินลงทุนอีกหลายล้านบาท เป็นต้น

ดังนั้น “หลักการแสวงเครื่อง” จึงเป็นหลักนิยมของทหารหมอเถื่อนๆ อย่างผมในสงครามโควิด-19 ครับ

โม้ชิบ! อีกแล้ว ... นี่แหละทหารหมอแห่งจอมทัพไทย ผู้ประกาศตนไม่ทอดทิ้งพสกนิกรของพระเจ้าแผ่นดินไงล่ะครับ

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
18 พ.ค.64 เวลา 9.55 น."

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ นำชาวบ้าน (ซึ่งภายหลังพบว่าเป็นผู้ค้าแผงลอยบนทางเท้า) ในซอยแจ้งวัฒนะ 14 ร้องเรียนต่อสำนักงานเขตหลักสี่ คัดค้านการก่อสร้างโรงพยาบาลสนามของ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กลายเป็นศึกวิวาทะระหว่างนายสิระกับ นพ.เหรียญทองในช่วงเวลาหนึ่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น