“เขตหลักสี่” ไม่เอาโรงพยาบาลสนาม เปิดศึก “สิระ-หมอเหรียญทอง”

พบชาวบ้านเขตหลักสี่ ร้องเรียน “สิระ” ส.ส.พลังประชารัฐ ไม่เอาโรงพยาบาลสนาม ซอยแจ้งวัฒนะ 14 เปิดศึก “หมอเหรียญทอง” กันวุ่น ฝ่ายหมอแจงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน หากขออนุญาตจะไม่ทันการณ์ ยืนยันเบิกจ่าย สปสช. โปร่งใส ส่วนเรื่องน้ำเสียมีได้ยังไง โรงพยาบาลยังไม่เปิด แต่มีระบบปั๊มคลอรีนฆ่าเชื้อ ด้าน ส.ส.สิระ โต้ชาวบ้านไม่เอา หัดฟังเสียบ้าง ถ้าช่วยประชาชนจริง ทำไมต้องเบิก สปสช. ตอกกลับเอาโควิดมาบังหน้า

วันนี้ (7 พ.ค.) พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก “เหรียญทอง แน่นหนา” ระบุว่า “ด่วนที่สุด! กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อกรุณาทราบว่า ส.ส.สิระ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ และสำนักงานเขตหลักสี่ ได้ปิดทางเข้าพื้นที่ รพ.สนามพลังแผ่นดิน ด้วยเหตุว่า รพ.สนามพลังแผ่นดิน ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ กำลังดำเนินการอยู่นี้ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้ขออนุญาต ไม่ได้รักษาผู้ป่วยฟรี ทั้งยังรับเงินบริจาค และปล่อยน้ำเสียลงท่อระบายน้ำ ผมขอเรียนให้สาธารณชนทราบทั่วกันว่า

1. ผมไม่ได้ขอนุญาตก่อสร้างโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดินจากเขตหลักสี่อย่างถูกต้องตามกฎหมายจริง เพราะนี่คือสถานการณ์ฉุกเฉินจากการระบาดโรคตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ และเป็นสถานการณ์ที่มีผู้ป่วยอาการหนักต้องใช้ ไอ ซี ยู สนาม จำนวนมากซึ่งขณะนี้ได้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากทุกวี่วัน อีกทั้งหอผู้ป่วยสนามที่ผมกำลังดำเนินการอยู่ก็เพื่อรับการส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 อาการปานกลางค่อนข้างหนัก ซึ่งจะกลายเป็นผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วซึ่งขณะนี้มีอยู่ทุก รพ.เป็นจำนวนมากทั้ง รพ.รัฐ และ รพ.เอกชน ตลอดจน รพ.สนามอีกจำนวนมากที่ต้องการส่งต่อ ...ดังนั้น ผมจะไม่สามารถเสียเวลาดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างให้ถูกต้องตามกฎหมายดังเช่นสถานการณ์ปกติ เพราะไม่ทันการณ์กับชีวิตผู้ป่วยที่ต้องสูญเสียไป และผมขอประกาศตนทำผิดกฎหมายด้วยความจงใจเพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตผู้ป่วยอาการหนักจำนวนมากที่จะส่งต่อมาจาก รพ.ต่างๆ ให้ทราบทั่วกัน ทั้งนี้ ผมขอท้าให้ สส.สิระ เจนจาคะ และสำนักงานเขตหลักสี่ แจ้งความดำเนินคดีผมโดยด่วนที่สุดด้วย

2. การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักของ รพ.สนามพลังแผ่นดิน ที่จะเปิดในสัปดาห์หน้านี้ ผมจะเบิกค่ารักษาพยาบาลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) ตามอัตราที่ สปสช จ่าย ซึ่งเป็นอัตราจ่ายที่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายจริง ทั้งนี้ ผมได้ประกาศเสมอว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็น รพ.เอกชน ไม่มีความพึงประสงค์รับเงินบริจาค แต่ด้วยประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากขอร่วมบริจาคเงินกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ผมจึงตัดสินใจเปิดบัญชีรับเงินบริจาคชื่อบัญชีว่า “โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเพื่อผู้ป่วยโรคร้ายแรง” ธ.ไทยพาณิชย์ 0273 สาขาบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ เลขที่บัญชี 273-241279-5 และบัญชีนี้ไม่ใช่บัญชีส่วนตัวของผม เป็นบัญชีของ รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่มีผู้ตรวจสอบบัญชี ทั้งยังไม่มีการเบิกจ่ายจนกว่าการใช้จ่ายจะชัดเจนและผ่านการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชีเสียก่อนอีกด้วย

3. สำหรับการปล่อยน้ำเสียสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะนั้น รพ.สนามพลังแผ่นดิน ยังไม่เสร็จเรียบร้อยแล้วจะปล่อยน้ำเสียตามข้อกล่าวหาได้อย่างไร อีกทั้งน้ำเสียของ รพ.สนามพลังแผ่นดินที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้านี้ จะมีระบบปั๊มคลอรีนเพื่อการฆ่าเชื้อที่เป็นไปตามข้อกำหนดของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข

4. ถึงแม้ผมจะไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้าง รพ.สนามพลังแผ่นดิน แต่ผมได้ดำเนินการขออนุญาตจัดตั้ง รพ.สนาม (สพอ.) ไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขก่อนหน้านี้แล้ว

5. การที่ ส.ส.สิระ เจนจาคะ ผู้แทนเขตหลักสี่ และสำนักงานเขตหลักสี่ ร่วมกันปิดทางเข้า รพ.สนามพลังแผ่นดิน ผมขอให้ประชาชนรับทราบทั่วกันว่านี่คือ “การปิดกั้นทางรอดของชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักในสถานการณ์ฉุกเฉินจากการระบาดโรค” นี่คือ การทำหน้าที่ของ ส.ส. สิระ เจนจาคะ และสำนักงานเขตหลักสี่ ผมและโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ไม่ได้เสียหายอะไร มีแต่พสกนิกรใต้ร่มพระบารมีที่จะเสียชีวิตจากการกระทำของ ส.ส.สิระ เจนจาคะ และ สำนักงานเขตหลักสี่

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกันว่านักการเมืองและข้าราชการเขตหลักสี่มันเลวระยำอย่างนี้

ผมรอหมายจับอยู่นะครับ ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักจำนวนมากที่จะส่งต่อในสัปดาห์นั้นรอวันตายครับ

หมายเหตุ เชิญทำข่าวเรื่องนี้ให้มากๆ เลยนะครับ ส่วนผมและทีมงานขอพักผ่อนก่อนนะครับ”


ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้านเขตหลักสี่ เพื่อคัดค้านการสร้างโรงพยาบาลสนาม ความปลอดภัยของชาวบ้านในพื้นที่ปลอดภัยหรือไม่ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ กระทรวงสาธารณสุขทราบหรือไม่ หากจะสร้างก็ต้องแจ้งให้ชาวบ้านทราบ จะวางท่อระบายอากาศอย่างไร เพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ชุมชน มีทั้งตลาด ห้างสรรพสินค้า ที่อยู่อาศัย ก่อนที่นายสิระจะลงพื้นที่โรงพยาบาลสนาม ในซอยแจ้งวัฒนะ 14 พล.ต.นพ.เหรียญทอง ได้โทรศัพท์มาทางเจ้าหน้าที่ นายสิระ ถาม พล.ต.นพ.เหรียญทอง ว่า ที่ทำ รพ.สนามได้ขออนุญาตฝ่ายใดหรือไม่ และที่บอกว่ารักษาฟรี ได้มีการไปขอเบิกเงินจาก สปสช.ตรงไหนที่เรียกว่าทำฟรีเพื่อประชาชน ด้าน พล.ต.นพ.เหรียญทอง ต่อว่า นายสิระด้วยถ้อยคำหยาบคาย และระบุว่า ไม่ต้องขออนุญาตใคร จะทำเพื่อประชาชน และท้าทายว่า เอาเลยๆ

ต่อมา นายสิระ ชี้แจงว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ถึงความกังวลในการตั้งโรงพยาบาลสนาม ส่วนการปิดทางเข้านั้น เป็นการรวมตัวกันของชาวบ้านที่ไม่พอใจ พล.ต.นพ.เหรียญทอง ควรจะฟังคำพูดของชาวบ้านบ้าง เพราะเขาอยู่ตรงนั้น มีสิทธิกลัวว่าจะติดเชื้อโควิด ไม่ใช่อยู่ดีๆ มาตั้งโรงพยาบาลสนาม อ้างว่า ช่วยประชาชน แล้วชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบบริเวณรอบๆ ไม่ใช่ประชาชนหรือ การที่ นพ.เหรียญทอง มาต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนไม่ขอลดตัวลงด้วย ถ้าต้องการช่วยเหลือประชาชนจริงๆ ให้ติดตามว่า ได้เบิกเงินจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) วันละ 1,500 บาท ต่อผู้ป่วย 1 คนหรือไม่ ซึ่งการช่วยเหลือประชาชนเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องช่วยด้วยใจที่บริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง และต้องถูกกฎหมาย

ทั้งนี้ พล.ต.นพ.เหรียญทอง ยอมรับเองว่า ไม่ได้ขอนุญาตก่อสร้างโรงพยาบาลสนามจากเขตหลักสี่จริง แถมยังใช้คำพูดดูหมิ่นตนและข้าราชการเขตหลักสี่ ขอย้อนถามกลับว่า มีเหตุผลอะไรที่ไม่ยอมแจ้งสำนักงานเขต ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง ไม่ถึง 5 กิโลเมตร หรือเพราะมีเจตนาปกปิด โดยเอาสถานการณ์โควิดมากล่าวอ้าง ยกประชาชนมาบังหน้า ที่ตนออกมาไม่มีเจตนาขัดขวาง และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่ที่ต้องขึ้นมาพูดเพราะชาวบ้านได้รับผลกระทบ ตนเป็นผู้แทนก็ต้องช่วย อีกทั้งเมื่อไปดูพื้นที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ตนรับไม่ได้ เพราะเป็นพื้นที่แออัด รถติดกันทั้งซอย ประชาชนสัญจรไปมา ร้านค้าขายเต็มไปหมด คิดได้อย่างไรจะนำผู้ติดเชื้อไปตั้งรวมกับชาวบ้าน พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องไปยังกระทรวงสาธารณสุขให้ตรวจสอบโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ที่เรียกเก็บค่าเคลื่อนย้ายศพ ระยะทางไม่ถึง 2 กิโลเมตร สูงถึง 8,600 บาท