พระมหาไพรวัลย์ เดินทางมาถามข้อเท็จจริงเงินค่าวิทยากร 4 หมื่น กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ ผอ.ขอโทษ โร่แจงยืนยันโครงการเก่ายกเลิกไปแล้ว ยุบรวมเป็นโครงการใหม่ ปรับลดค่าวิทยากรหมื่นสอง พระแจงกลับได้ไม่ถึง ผอ.ขอเวลาตรวจสอบย้อนหลัง 5 ปี อีกด้านแจ้งจับสหกรณ์ฯ เผยแพร่ข้อมูลเท็จ และเกรียนคีย์บอร์ดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากกรณีที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระประจำวัดสร้อยทอง กรุงเทพมหานคร และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า มีเฟซบุ๊กเพจที่ชื่อว่า “เดอะ พิซซ่า เมตตาดี” ลงข้อมูลเกี่ยวกับค่าวิทยากรว่าเคยได้รับเงินจากการบรรยายธรรมในโครงการแห่งหนึ่ง จำนวน 40,000 บาท ยืนยันว่า ตั้งแต่รับนิมนต์บรรยายธรรมมาไม่เคยได้ปัจจัยถึงจำนวนดังกล่าว และไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่ระบุจำนวน หรือเรียกค่าวิทยากร ต่อมาพบว่าเป็นเอกสารโครงการอบรมสัมมนาสำหรับสมาชิกใหม่ ประจำปี 2562 “เพื่อพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างเหมาะสม” สหกรณ์ออมทรัทย์ครูสมุทรปราการ จำกัด เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2562 ที่ถูกอัปโหลดลงในเว็บไซต์ spktcoop.com ทำให้พระมหาไพรวัลย์เตรียมที่จะเดินทางเพื่อฟังคำชี้แจงด้วยตัวเอง
อ่านประกอบ : “พระมหาไพรวัลย์” เคืองสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ถวายค่าวิทยากรไม่กี่พัน เขียนโครงการไป 4 หมื่น
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พร้อมด้วย นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือฉายา หมอปลา มือปราบสัมภเวสี เดินทางมายังสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ จำกัด ถนนสุขุมวิท (สถานีรถไฟฟ้าช้างเอราวัณ) ต.ปากน้ำ อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ เพื่อสอบถามข้อเท็จริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมี นายอิทธิพัทธ์ ธีระวรรณสาร ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ ให้การต้อนรับ ก่อนที่จะร่วมกันแถลงข่าว
พระมหาไพรวัลย์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กแห่งหนึ่งแชร์ข้อความว่า เรียกรับเงินบรรยายธรรมเป็นจำนวน 40,000 บาท รู้สึกตกใจมาก เพราะตั้งแต่บวชมาจนถึงวันนี้ รับบรรยายหลากหลายองค์กรทั้งราชการและเอกชน ไม่เคยมีครั้งไหนที่เรียกรับปัจจัยเงินทองแม้แต่บาทเดียว แล้วแต่สถานที่รับนิมนต์จะถวายให้ตามเห็นสมควร แต่พอเห็นเอกสารชิ้นนี้ก็รู้สึกตกใจมาก ตอนแรกที่ปรากฏตามโลกออนไลน์ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเคยไปรับบรรยายธรรมที่ไหน เมื่อเปิดดูเอกสารก็ทำให้ทราบว่า เมื่อปี 2562 สหกรณ์ฯ แห่งนี้เคยรับนิมนต์มาบรรยายธรรมที่นี่จริง แต่ไม่เคยได้รับปัจจัยจำนวนเยอะขนาดนี้ เมื่อมีการแชร์และมีคนไปคอมเมนต์ให้ได้รับความเสียหาย ก็เลยจำเป็นต้องติดต่อ ผอ.สหกรณ์ เพื่อสอบถามและช่วยชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด
นายอิทธิพัทธ์ กล่าวว่า กราบขออภัยพระมหาไพรวัลย์ที่มีสื่อต่างๆ นำข้อมูลไปลง ก่อให้เกิดความเสียหาย เบื้องต้นชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2562 ในกรรมการชุดเดิมก่อนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเปิดอบรมให้กับสมาชิกใหม่ และได้เผยแพร่บนเว็บไซต์สหกรณ์ฯ แต่สมาชิกที่เข้ารับการอบรมมีจำนวนไม่เพียงพอ ก็เลยมีมติให้รวมโครงการต่างๆ ส่วนที่ระบุว่าค่าวิทยากร 40,000 บาท เมื่อปรับชื่อเป็นโครงการอบรมพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ร่วมแบ่งปันส่งเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดี และสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนการสอน ได้ปรับค่าวิทยากรลงเป็น 12,000 บาท
แต่เมื่อสอบถามทางเจ้าหน้าที่ซึ่งประสานงานพระมหาไพรวัลย์ ได้ว่า พระมหาไพรวัลย์ ยินดีที่จะมาบรรยายให้ แต่ไม่มีการเรียกร้องค่าปัจจัยกับทางสหกรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่คณะกรรการมีเจตนาที่ดี ถวายปัจจัยเป็นค่าบำรุงพระพุทธศาสนาให้ ยืนยันว่าพระมหาไพรวัลย์ไม่เคยเรียกร้องกับทางสหกรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อมูลโครงการเดิม คณะกรรมการตั้งเบิกจ่าย 40,000 บาท แต่โครงการใหม่ยอมรับว่าเป็นความบกพร่องของสหกรณ์ฯ ที่ไม่นำข้อมูลใหม่เผยแพร่ทางเว็บไซต์อีกครั้งหนึ่ง ทำให้คนที่มาดูข้อมูลเข้าใจคลาดเคลื่อน จึงกราบขออภัยมา ณ ที่นี้
อย่างไรก็ตาม พระมหาไพรวัลย์ กล่าวยืนยันว่า แม้จะมีการระบุปัจจัย 12,000 บาท แต่วันนั้นไม่ได้รับปัจจัยถึงหลักหมื่น และไม่ถึง 12,000 บาท และนึกว่าเซ็นเอกสารใดๆ ไปด้วย แต่ไม่มีรายชื่อที่เซ็นและรับรองว่าได้รับเงินปัจจัย 12,000 บาท ทำให้นายอิทธิพัทธ์ กล่าวว่า ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง จากเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้อง ยังไม่กล้ายืนยันว่าถวายปัจจัยไปเท่าไหร่ ขอเวลาในการหาข้อมูลตรงนี้ โดยจะตรวจสอบย้อนหลังไป 5 ปี
ต่อมา พระมหาไพรวัลย์ ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ ที่นำเอกสารฉบับดังกล่าวมาเผยแพร่ รวมทั้งเพจเฟซบุ๊ก ที่นำเอกสารดังกล่าวมาเผยแพร่ และคนที่คอมเมนต์ข้อความให้ตนได้รับความเสียหาย ในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยมี พ.ต.ท.ไวกูล กิจเพชร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรปราการ เป็นผู้รับแจ้งความ