โรงพยาบาลนครพิงค์ เผยภาพเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่เบื้องหลังการดูแลผู้ป่วยโควิด โดยทำงานซักผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งภายในโรงพยาบาลเองและของโรงพยาบาลสนาม ซึ่งมีความเสี่ยงไม่ต่างบุคลากรทางการแพทย์ โดยย้ำทุกฝ่ายล้วนเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับภารกิจในครั้งนี้
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. เพจ “โรงพยาบาลนครพิงค์” ได้โพสต์ชื่นชมเจ้าหน้าโรงพยาบาลที่ต้องทำงานซักผ้าผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ในช่วงวิกฤตสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยระบุข้อความว่า “งานซักฟอก อีกหนึ่งทีมที่อยู่เบื้องหลังการดูแลผู้ป่วยโควิด การให้การดูแลผู้ป่วยโควิดในแต่ละวัน มีผ้าที่ปนเปื้อนเชื้อ หรือผ้าที่สัมผัสกับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชุดของผู้ป่วย ชุดของบุคลากรทางการแพทย์ ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว หน่วยซักฟอก โรงพยาบาลนครพิงค์ รับหน้าที่ในการดูแลผ้าปนเปื้อนเชื้อของทั้งภายในโรงพยาบาลนครพิงค์เอง และผ้าบางส่วนจากโรงพยาบาลสนาม ร่วมกับหน่วยซักฟอกของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยแต่ละวันมีและผ้าบางส่วนจากโรงพยาบาลสนามร่วมกับหน่วยซักฟอกของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
โดยแต่ละวันมีผ้าจากโรงพยาบาลสนาม ที่มาทำความสะอาดที่โรงพยาบาลนครพิงค์ประมาณ 250-350 กิโลกรัม กระบวนการขั้นตอนต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งการนำผ้าติดเชื้อเหล่านี้มาทำความสะอาดต้องมีขั้นตอนที่จำเพาะเจาะจงและระมัดระวังเป็นพิเศษ ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บผ้า ที่ผู้จัดเก็บต้องใส่ชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จัดเก็บลงในถุงใส่ผ้าที่ละลายน้ำได้ 3 ชั้น เป็นถุงที่ออกแบบมาให้ละลายน้ำได้ ใช้ในกรณีการซักล้างผ้าที่ปนเปื้อนเชื้อหรือสารเคมี เพื่อให้ปลอดภัยแก่ผู้ทำงานโดยไม่มีผลกระทบต่อผ้าและสิ่งแวดล้อม พ่นแอลกอฮอล์ ในทุกขั้นตอน ใส่ลงในถุงขยะสีแดง แล้วใส่ลงในถัง ปิดฝาถังด้วยตัวล็อก หรือซีล ด้วยเทปกาว แล้วจึงนำส่งหน่วยซักฟอก
หน่วยซักฟอกจะนำผ้าในถุงละลายน้ำออกจากถุงขยะแดง แล้วนำลงเครื่องซักทั้งถุงโดยไม่เปิดถุง ซักด้วยน้ำร้อน 60-90 องศา ถุงจะละลายในน้ำร้อน แล้วจึงนำมาตากแดด และพับให้เรียบร้อยก่อนส่งผ้ากลับมาใช้ใหม่ การดูแลผู้ป่วยโควิดนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือของทีมงานต่างๆ ทั้งนักรบแนวหน้าและทีมสนับสนุนแนวหลัง ที่ทุกฝ่ายล้วนเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับภารกิจในครั้งนี้ทั้งสิ้น”