ผู้ป่วยโควิดระลอกใหม่ ร่วมแชร์ประสบการณ์และกระบวนการในเข้ารับการรักษาต้องเจออะไรบ้าง มีการทานยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาต้านโควิด มื้อละ 9 เม็ด การวัดไข้ที่ถี่ การตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด ตั้งแต่ต้นจนหายดี เชื่อสามารถเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เพิ่งทราบผลว่าติดเชื้อโควิด
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. เพจ “ภัทราพร ตั๊นงาม-ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส” ได้ออกมาโพสต์หลังทราบผลว่า ตนเองนั้นติดเชื้อโควิด-19 โดยระบุข้อความว่า “ผมต้องกินยาครั้งละ 9 เม็ด โดยเฉพาะช่วงแรกของการมีไข้สูง
คำบอกเล่าของผู้ป่วยโควิดคนหนึ่ง กับการกินยาต้านโควิด “”ฟาวิพิราเวียร์" ( Favipiravir) หลายคนคงเคยได้ยินคุณหมอบอกเล่ากันบ้างแล้ว ถ้าผู้ป่วยมีอาการหนักหมอจะให้กินยา “ฟาวิพิราเวียร์” โพสต์นี้ชวนผู้ป่วยโควิดที่หายแล้ว บอกเล่าข้อมูลเผื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านบ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะกับชีวิตในโรงพยาบาลได้พูดคุยกับ “ผู้ป่วยโควิด” ชายคนหนึ่งอยู่ในวัยทำงาน เป็นพนักงานออฟฟิศ เขาติดเชื้อโควิดจากการไปสถานที่เสี่ยงที่พบผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้เขาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 10 วัน (ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 64 ในช่วงที่เตียงพอมีว่าง) และ ออกมาอยู่ โรงพยาบาลสนามอีก 6 วัน ตอนนี้ ออกจากโรงพยาบาลสนามแล้ว มาพักที่บ้านต่อตามคำแนะนำของแพทย์ หลังอาการดีตามลำดับเป็นปกติแล้ว แต่ยังต้องกักตัวต่อไปอีก จนครบ 28 วันนี้ เพื่อให้แน่ใจ เขาบอกเล่าถึงอาการโควิดในช่วงที่อยู่ในระบบการรักษา
ก่อนวันจะเข้าโรงพยาบาล ยังไม่มีไข้ยังไม่มีอาการใดๆ ทั้งนั้น แต่วันที่อยู่โรงพยาบาลเข้าวันที่ 2 เป็นต้นไป มีไข้ขึ้นสูงมาก และมีอาการหนาวสั่น อาการโควิดมันก็แปลก อยู่ๆ ไปเข้าช่วงวันที่ 2 และ 3 เป็นต้นไป จะมีไข้ขึ้นสูงช่วงกลางคืน เริ่มตั้งแต่ราวๆ 5-6 โมงเย็น โดยวัดไข้ได้ 38+ หรือ 39+ หนาวสั่น ปวดไข้ปวดตัว กินข้าวไม่ได้ ไม่อยากกินอะไร แต่ยังได้กลิ่นเหมือนเดิม มีไอแห้งร่วมด้วย ครั้งแรกที่ได้กินยา (ฟาวิพิราเวียร์) ผมรู้จักตามที่หมอบอกว่าเป็นยาต้านไวรัส ต้องกินครั้งละ 9 เม็ด มันแน่นมากกินจนจุกไปเลย 9 เม็ดนี่อิ่มแทนข้าวไปเลย พี่คิดดูปกติคนเราเวลาปวดหัวกินพาราก็แค่ครั้งละ 1-2 เม็ด แต่นี่กิน 9 เม็ดต่อมื้อละ 9 เม็ด รวม 2 มื้อ แต่กินแล้วก็ดีขึ้นนะ เหมือนอาการต่างๆ มันค่อยๆ หายไปด้วยแต่พอวันที่ 3 วันที่ 4 อาการไข้ก็กลับมาอีก แต่หมอก็ให้กินลดลงแล้ว เหลือมื้อละ 4 เม็ด กินต่อเนื่องในแต่ละมื้อ เช้ากับเย็น กินจนดีขึ้นเรื่อยๆ กินจนถึงวันที่ต้องออกจากโรงพยาบาล ก็เลิกกิน
อาการป่วยโควิดของชายคนนี้เข้าโรงพยาบาล แต่หมอก็ไม่ได้ให้กินยาอย่างเดียวการใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ยังต้องเฝ้าติดตามอาการใกล้ชิด
เพราะผมมีไข้สูง หมอจึงให้วัดอุณหภูมิไข้ส่งแจ้งข้อมูลผ่านไลน์เจ้าหน้าที่เป็นระยะๆ เลย ตั้งแต่ 6 โมงเช้า / 10 โมง / บ่าย 2 / ช่วง 5 -6 โมงเย็น ส่วนดึกๆ ก็มีโทร.หาขอให้วัดไข้ ตอน 2 ทุ่ม / 4 ทุ่ม หรือ ตี 1 ตี 2 ก็มี แล้วแต่ช่วงที่ไข้มันขึ้นหรือลดลง บอกเลยว่า เจ้าหน้าที่ใส่ใจดูแลดีมากๆ แต่ช่วงไข้ขึ้นสูง 3-4 วัน ผมก็หลับๆ ตื่นๆ สลึมสลือ อาการเหมือนคนเป็นไข้ ทำอะไรไม่ค่อยได้ ไม่เพียงแต่กินยาครั้งละ 9 เม็ด ในช่วงนั้น หมอยังให้ยาฉีดเข้าเส้นเลือดผ่านทางน้ำเกลือด้วย ทำให้อาการดีขึ้นมาด้วย แต่พอวันหลังไข้ขึ้นหนักอีก หมอก็เพิ่มยาเข้าไปอีก
อาการโควิดช่วงนี้ที่เรารับรู้ คือ มีผลต่อปอดมากขึ้น แล้วเคสของผู้ป่วยคนนี้เป็นเคสที่เราสนใจเช่นกันว่า เขามีอาการทางปอดด้วยหรือไม่ มีครับ หมอจับผมตรวจเอ็กซเรย์ปอด ตั้งแต่ช่วงเข้าไปอยู่แรกๆ แล้วบอกว่าเหมือนเริ่มอักเสบแล้ว เขาถึงให้ยาฟาวิฯมากินด้วย เขาบอกว่า ปอดมีความผิดปกติ แต่ไม่ใช่ระดับรุนแรงมากจนวิกฤต รวมถึงเอาปัสสวะผมไปตรวจ มีการเจาะตรวจเลือด เจาะแขนทั้งซ้ายและขวา อย่างละหลอด บอกว่าไปตรวจหาเชื้อ แทบวันเว้นวัน หรือเว้นทุกๆ 2 วันติด เหมือนเจ้าหน้าที่เขาห่วงมากต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อันนี้ผมรับรู้ได้ และเข้าใจว่า เขาทำงานหนักกันแค่ไหน เพราเขาต้องเฝ้าดูแลคนไข้ ต้องคอยมอนิเตอร์ข้อมูลอาการกันตลอด
นอกจากนี้ ยังต้องวัดค่าออกซิเจนที่ปลายนิ้วทุกวัน เขามีเครื่องให้หนีบนิ้ว เกณฑ์มาตรฐาน เท่าที่จำได้ เจ้าหน้าที่บอกไม่ต่ำกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ วัดค่าการเต้นของหัวใจ และระดับของออกซิเจนที่อยู่ในเลือด เพื่อดูว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ขยายความข้อมูลเพิ่มเติมกรมการแพทย์แบ่งเกณฑ์ผู้ป่วยโควิดออกเป็น 3 สี ผู้ป่วยโควิดที่เข้าเกณฑ์กลุ่ม “สีแดง” คือ กลุ่มนี้จะมีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก เอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 96% หรือภาวะออกซิเจนในเลือดลดลงหลังออกแรง (Exercise-induced Hypoxia))
อย่างเวลาเอ็กซเรย์ เขาก็จะใส่ชุด PPE เต็มที่ เข็นเครื่องเอกซเรย์โมบายเคลื่อนที่เข้ามาหาเรา คอยสอบถาม ถามไถ่ตลอด อย่างเวลาเราปรึกษาเรื่องเกี่ยวกับระบบร่างกาย เขาก็ตอบก็ให้คำแนะนำว่า มันเป็นอย่างไร ต้องทำอย่างไร ทุกคนทุ่มเทมากจริงๆ ครับ ดูแลผมจนดีขึ้นและย้ายมาพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลสนาม” หลังอยู่โรงพยาบาล 10 วัน เขาถูกส่งตัวมาอยู่ที่ โรงพยาบาลสนามต่ออีก 6 วัน ในทุกๆ วันของโรงพยาบาลสนามยังต้องวัดค่าออกซิเจน และ เอ็กซเรย์ปอดด้วย รวมถึงวันสุดท้ายก่อนกลับ ผมขอเจ้าหน้าที่เอ็กซเรย์ เขาก็ทำให้พื่อให้เกิดความมั่นใจว่าปอดผมจะยังอยู่ปอดยังไม่หายไปไหน
การใช้ชีวิตในโรงพยาบาลสนามเหมือนที่หลายคนเคยรับรู้เจ้าหน้าที่ก็ดูแลอย่างดีในรูปแบบความเป็นโรงพยาบาลสนาม การกิน การอยู่การใช้ชีวิต ในช่วงนี้อาการดีขึ้นตามลำดับแต่มีอยู่ๆ ช่วงหนึ่งที่ผมแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก รู้สึกแบบหายใจไม่ออกขึ้นมา รีบเรียกเจ้าหน้าที่เขามาช่วยดู แต่ผมก็บอกไปว่า หรือเพราะเป็นกรดไหลย้อน เพราะเคยมีอาการกรดไหลย้อนมาก่อน เขาก็ตรวจอาการ แล้วก็ยืนยันว่า เป็นไปในทิศทางที่เป็นกรดไหลย้อนมากกว่าอาการของโควิด เพราะตอนนั้นอาการโควิดผมดีขึ้นมากแล้วจริงๆ
เขายังบอกว่าเป็นเรื่องที่ตัดสินใจถูกมาก พอรู้ว่าติดโควิดก็ติดต่อโรงพยาบาล เพื่อขอเข้าอยู่ในระบบให้แพทย์ดูแล ดีกว่ากักตัวอยู่ที่บ้าน ในวันที่รู้ว่าติดเชื้อ (6 เม.ย. 64) ผมติดต่อโรงพยาบาลทันที เพื่อขอรับการรักษา เพราะไม่อยากอยู่บ้าน แม้ตอนนั้นติดเชื้อแต่ยังไม่มีอาการใดๆ เลยก็ตาม แต่ก็คิดว่า อยู่โรงพยาบาลน่าจะดีกว่ากักตัวอยู่บ้าน ซึ่งก็ไม่เคยคาดคิดว่า พอเข้า โรงพยาบาลวันเดียว แล้วจะมีไข้หนัก ต้องกินยา ต้องอยู่ในการดูแลของหมอขนาดนี้ กลับออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ผมยืนยันเลยว่า จะดูแลตัวเองให้ดีมากกว่าที่เคยแต่ตอนนี้ที่พี่ถามว่า กลับมาบ้านแล้ว..ร่างกายผมปกติ 100% หรือยัง ผมก็ว่ายังนะ เหมือนมันยังมีอาการเหนื่อยอยู่ เมื่อก่อนไม่เคยเป็นเลยนะ เพราะออกกำลังกายเสมอ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเหนื่อย ยังไม่เต็ม 100 หรือ เพราะผมเพิ่งซักผ้า เพิ่งจัดบ้านเสร็จไปเองในช่วงที่ผมไม่อยู่ก็ไม่รู้..ไม่รู้ว่าเหนื่อยเพราะปอด..หรือเพราะทำงานบ้านเสร็จกันแน่”
คำบอกเล่าของผู้ป่วยชายคนหนึ่งกับชีวิตในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม ไว้มีโอกาสจะไปขอความรู้จากคุณหมอเกี่ยวกับการกินยาต้านไวรัสโควิดจำนวนปริมาณ โดยเฉพาะอย่าลืมใส่หน้ากากกันใส่หน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์
สำหรับ สถานการณ์ยา “ฟาวิพิราเวียร์” ล่าสุด วันนี้ ทาง นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการองค์การอาหารและยา หรือ อย. ระบุว่า ได้เร่งจัดหาจำนวน 2.2 ล้านเม็ด และได้ร่วมกับองค์การเภสัชกรรม ประสานงานจัดหายาร่วมกับประเทศญี่ปุ่น และจะนำเข้ามาถึงประเทศไทยในวันที่ 26 เมษายน 2564 นี้
คลิกโพสต์ต้นฉบับ