GC ชี้แจงไฟดับพื้นที่นิคมมาบตาพุดเหตุพายุฤดูร้อน ยันหลายหน่วยงานร่วมตรวจสอบคุณภาพอากาศ พบค่า VOC อยู่ในค่าควบคุมตามมาตรฐาน เริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าและไอน้ำให้ลูกค้าได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกมาเปิดเผยถึงโรงงานหลายแห่งในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ปล่อยควันดำออกมาทางปล่องควันพร้อมกันในหลายโรงเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 64 เวลา 12.40 น. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 เวลา 11:16 น. เกิดฝนฟ้าคะนองรุนแรงและมีฟ้าผ่าบนสายส่งแรงดัน 115 กิโลโวลต์ ส่งผลให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าของโรงงาน GC สาขาที่ 2 หยุดเดินเครื่องฉุกเฉินจำนวน 3 ยูนิต จึงมีการรับกระแสไฟฟ้าจากภายนอกเข้ามาเสริมในระบบ
ซึ่งหลังจากนั้นอีก 20 นาที มีสัญญาณจากภายนอกมาสั่งปลดการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าของโรงงาน GC สาขาที่ 2 ส่งผลให้ระบบไฟฟ้าไม่สมดุล และขาดเสถียรภาพ และทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าส่วนใหญ่หยุดเดินเครื่องฉุกเฉินเพิ่มอีก 4 ยูนิต ส่งผลทำให้ปริมาณไฟฟ้า และไอน้ำที่ผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของโรงงานลูกค้า GC สาขาที่ 2 จึงส่งผลให้ลูกค้าเกือบทุกรายต้องหยุดเดินเครื่องโรงงานฉุกเฉิน และเนื่องด้วยปริมาณไอน้ำที่ผลิตได้ไม่เพียงพอจึงก่อให้เกิดควันดำที่หอเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง
ทันทีที่เกิดเหตุ ทีมเจ้าหน้าที่หน้าที่อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ทีมชุมชนสัมพันธ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศตามขั้นตอนของบริษัท พร้อมกันนี้ เทศบาลเมืองมาบตาพุดโดยศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว (EIC) ศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง และศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EMCC) ของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สนพ./กนอ.) ได้ร่วมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศ จากการตรวจค่าสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) พบว่า อยู่ในค่าควบคุมตามมาตรฐาน และในเวลา 16.00 น. สามารถเริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าและไอน้ำให้ลูกค้าได้ จึงสามารถปรับกระบวนการเผาไหม้ให้สมบูรณ์ และไม่มีควันดำ ขออภัยอีกครั้งต่อเหตุสุดวิสัยในครั้งนี้ หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
