xs
xsm
sm
md
lg

ส่อคดีพลิก! แม่อุ้มลูก 10 เดือนติดโควิด ไลฟ์สดโวยโรงพยาบาลไม่รับ แฉจัดหาห้องความดันลบแล้วไม่เอา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเผยกรณีแม่อุ้มลูก 10 เดือนติดโควิดไลฟ์สด เห็นใจทุกฝ่าย แนะต่อไป โทร.สายด่วน 1668 หรือ สปสช. 1330 ด้านเพจหมอดังเผยข้อความจากคนในโรงพยาบาลคู่กรณี ระบุ ไม่บอกไทม์ไลน์ชัดๆ แต่พบไปเที่ยวร้านเหล้า-ห้างหัวหิน พอประสานหาเตียงให้บอก “ไม่ไป ผมมีตังค์จะไปเอกชน” พร้อมดูถูกเจ้าหน้าที่ มาอีกทีเที่ยงคืนจะขอแอดมิต ให้ห้องความดันลบก็ไม่เอา ก่อนไลฟ์สดประจาน ผู้บริหารบอกทำเต็มที่ ไม่ขอออกสื่อ พยาบาลร่ำไห้โดนด่า แต่ไม่เห็นมีใครถาม

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. จากกรณีที่เฟซบุ๊ก Siripen Kingkapan ได้โพสต์ข้อความตั้งแต่เวลา 01.10 น.ที่ผ่านมา ระบุว่า “ตอนนี้อุ้มกับลูกติดโควิดอาการน้องแย่มาก ไปมา 3 โรงพยาบาลไม่มีที่ไหนรับเลย อุ้มไม่รู้จะทำยังไงแล้วใครก็ได้ช่วยพวกเราที” ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเฟซบุ๊กไลฟ์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ร้องไห้ในรถ กล่าวว่า ไปมา 3 โรงพยาบาลแล้วไม่มีใครรับเลย น้องไข้ขึ้นสูงมาก ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ไม่รู้จะไปโรงพยาบาลไหนแล้ว ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับเลย” กระทั่งต่อมาเธอได้อุ้มลูกลงจากรถ ถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าทำไมเข้าไม่ได้ เด็กแค่ 10 เดือนเขาแย่แล้ว จริงๆ โรงพยาบาลเขาต้องรับ ครั้งนี้ครั้งที่ 4 แล้วเขาไม่รับ ลูกหนูก็แย่แล้วพี่ แล้วร่ำไห้ออกมา ต่อมาได้เฟซบุ๊กไลฟ์ที่อีกโรงพยาบาลหนึ่งระบุว่าไม่รับอีกแล้ว เดินทางต่อไม่ไหวแล้ว กระทั่งได้รับการประสานให้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ เขตสายไหม กรุงเทพฯ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านประกอบ : สาวร้องไห้ ลูก 10 เดือนติดโควิด โรงพยาบาลเอกชนไม่รับ สุดท้ายโรงพยาบาลภูมิพลช่วยดูแล

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ชี้แจงว่า เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจทุกฝ่าย เพราะขณะนี้ทางโรงพยาบาลเอกชนประสบปัญหาเตียงผู้ป่วยล้น ซึ่งหากเกินศักยภาพ ทางโรงพยาบาลเอกชนจะต้องรับผิดชอบในการส่งต่อผู้ป่วย จัดหาเตียงให้ผู้ป่วยด้วย เรื่องนี้ตนจึงชี้แจงทำความเข้าใจกับทางโรงพยาบาลให้ทราบอีกครั้งแล้ว นอกจากนี้ ยังดำเนินการเร่งจัดหาเตียงไว้รองรับผู้ป่วย แม้จะไม่สามารถประเมินได้แต่ก็พยายามหาเต็มที่ โดยการทำฮอสพิเทล หรือนำโรงแรมมาเป็นคู่สัญญากับโรงพยาบาล หรือหากโรงพยาบาลเอกชนรายใด สามารถขยายเตียงเพิ่มได้ภายในพื้นที่ของโรงพยาบาลก็ให้ดำเนินการขยายเตียงได้เลยโดยไม่ต้องส่งเรื่องเข้าคณะกรรมการพิจารณา

ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวได้ชี้แจงว่ามีศักยภาพอยู่ 120 เตียง เมื่อรับผู้ป่วยเกินศักยภาพแล้วจึงจำเป็นต้องปิดรับผู้ป่วย กรณีแบบนี้ ให้โทร. มาที่สายด่วน 1668 ของกรมการแพทย์ ซึ่งเป็นศูนย์จัดการเตียงของกรุงเทพมหานคร หรือสายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งจะดำเนินการจัดหาเตียงรองรับให้ ตอนนี้ในภาพรวมโรงพยาบาลทุกแห่ง รับคนไข้เต็มจำนวน บางแห่งมีศักยภาพ 120 เตียง แต่รับไปแล้ว 160 เตียง ทั้งที่ตามหลักแล้วถ้ารับไม่ไหวก็จะต้องส่งต่อ จึงเร่งหาทางออกโดยยกระดับสถานกักกันทางเลือก (ASQ) ให้เป็นฮอสพิเทล ให้โรงแรมจับคู่กับโรงพยาบาลเพื่อรับผู้ติดโควิดเข้ามาดูแลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะนี้ได้มา 2,500 เตียง รวมถึงจะมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอีกหลายแห่ง เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาโรงพยาบาลเตียงเต็มนั้นแก้ไปได้กว่า 90%

อีกด้านหนึ่ง เฟซบุ๊กเพจ “หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor” โพสต์ข้อความโดยอ้างถึงบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่แม่ของลูกวัย 10 เดือนไลฟ์สด ระบุว่า “อาจารย์คะ พ่อแม่ลูก 10 เดือนนี้ มาที่ (โรงพยาบาล) หนูค่ะ รอบแรกเป็น ผอ. (ผู้อำนวยการ) เข้ากับพี่ตรวจการ (ผู้ตรวจการพยาบาล) พยาบาลและน้อง NA (Nursing Assistant หรือพนักงานช่วยการพยาบาล) ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้บอกไทม์ไลน์แน่ชัด ซักประวัติไปมา ไปเที่ยวร้านเหล้าที่หัวหิน ไปห้างที่หัวหิน เสียดายเค้าลบโพสต์นั้นไปไม่ได้แคปไว้ หลังจากผลบวก ประสานหาเตียงให้ได้ ... (ชื่อโรงพยาบาลที่ไลฟ์สด) เวลาในช่วงทำการ บอกไม่ไป ผมมีเงิน ผมมีตังค์จะไปเอกชน ไม่เอารัฐบาลด้วย มีเงินมีปัญญาจ่าย และน้ำเสียงถ้อยคำที่ดูถูกเจ้าหน้าที่ ไม่ให้พ่อออกจากห้อง Negative (ห้องความดันลบ) เพราะจะแพร่เชื้อก็ไม่ฟัง เดินเข้าเดินออก ต้องห้ามกันหลายๆ ครั้ง และยังขอสูบบุหรี่ในห้องด้วย เราต้องห้ามถึงสงบลง

แม่ก็ไม่จับ ไม่เช็ดตัว ไม่ป้อนยาเลย พยาบาลกับน้องผู้ช่วยเราทำตามจรรยาบรรณทุกอย่าง ทำทุกอย่างที่ควรทำ เช็ดตัวให้ก็บอกว่าพอแล้วลูกร้อง ต้องบอกว่าถ้าไม่เช็ดน้องจะไข้ขึ้นสูงชักได้ ถึงยอมให้เช็ด เช็ดเสร็จก็ปล่อยลูกไว้เอาผ้าห่มมาล้อมน้องไว้ เราบอกระวังน้องตกนะคะ ก็มองหน้าเราอีก มีตวาดเสียงใส่ด้วยว่าทำไมไม่ไม่ได้ ผมจะนอนที่นี่ ผมมีตังค์ เราแจ้งว่าประสานให้โรงพยาบาลที่รับโดยตรงก็ไม่เอา จะไปเอกชนที่ดารานอน แนะนำให้กลับบ้านก่อนห้ามออกไปไหน เราจะหาเตียงให้ แต่พ่อแม่ไม่ยอม ไม่พอใจห้องที่เราแนะนำและสอนวิธีเช็ดตัวลดไข้ แนะนำการทานยาลดไข้ก็ไม่สนใจฟัง จนมาอีกทีเที่ยงคืน จะขอแอดมิต (ขอรับเข้าเป็นผู้ป่วยใน) เราเตรียมห้อง Negative ให้ ไม่พอใจ อยากได้ห้องที่เป็นสัดส่วน ถ้าจะนอนตอนนี้ที่จัดเตรียมคือห้องนี้ เพราะด้านบนเรายังมีผู้ป่วยปกติอื่นๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมทั้งผู้ป่วย Burn (แผลไฟไหม้) จากแก๊สระเบิด ไม่สามารถย้ายขึ้นด้านบนได้ ขอให้อยู่รักษาในห้องนี้ไม่พอใจ จึงให้เซ็นเอกสารปฏิเสธที่เรา

แต่เราก็ไม่ได้ทิ้ง เราพยายามช่วยหา ติดต่อ 1668 (กรมการแพทย์) เวลานั้น 01.15 น. ไม่มีใครรับเพราะนอกเวลาทำการ ติดต่อ 1422 (กรมควบคุมโรค) แม่เป็นคนโทร. พอทาง 1422 ตามที่อยู่จะส่งรถมารับ พ่อปฏิเสธ ถ้าจะมีรถพยาบาลมารับคนอื่นจะรู้ไม่เอา ให้แม่รีบวางสาย เราแจ้งให้นอนพักก่อน แล้วเวลา 08.00 น. เวลาทำการจะประสานให้อีกครั้ง ไม่พอใจบอกจะพาลูกไปหาโรงพยาบาลที่อยู่ด้วยกันได้ แล้วพาลูกออกไป แล้วมารู้อีกทีคือไปไลฟ์สดแล้วค่ะ ลูกมีไข้ป้อนยาแล้วอ้วกก็ไม่ป้อนซ้ำ ทางเรายินดีทำให้ทักอย่างด้วยความเต็มใจเพราะสงสารเด็ก ขออนุญาตเล่าให้ฟังนะคะ แต่ไม่ขอออกสื่อนะคะ ผู้บริหารบอกว่าเราทำเต็มที่แล้ว ดูแลเต็มที่ นั้นคือความจริง ในสื่อจะเป็นอย่างไรไม่เป็นไร แต่คนเข้าค่ะ เครียดมาก เมื่อคืนพากันนั่งร้องไห้กับน้องๆ น้อยใจ เสียใจ พากันด่า พากันว่าเรา แต่ไม่เห็นถามเรื่องราวทั้งหมด”

ต่อมาเพจดังกล่าวได้โพสต์ข้อความระบุว่า "สมมติคดีพลิก ถ้าพ่อแม่เที่ยวไปทั่วจนลูกติด โรงพยาบาลจัดห้องให้แล้วไม่พอใจนี่ เกมพลิกนะ โรงพยาบาลฟ้องคืนได้เลย" และโพสต์อีกว่า "เพจไหน สำนักข่าวไหน ด่าโรงพยาบาลไว้ก็ขอให้โชคดีครับ"
















กำลังโหลดความคิดเห็น