สปสช.ย้ำทุกคนบนผืนแผ่นดินไทย หากเข้าข่ายอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสามารถไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ฟรีที่ รพ.รัฐและเอกชนทุกแห่ง ค่าตรวจโควิด-19 ตามดุลยพินิจของแพทย์เบิกจ่ายกับ สปสช. ส่วนกรมควบคุมโรครับผิดชอบค่าตรวจแรงงานข้ามชาติ แนะหากเคยเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง เคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อและสงสัยว่าจะติดเชื้อ แม้ไม่มีอาการก็อย่านิ่งนอนใจ ให้รีบมาตรวจแต่เนิ่นๆ แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยให้เพื่อป้องกันควบคุมโรค
วันนี้ (8 เม.ย.) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากกรณีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยหลายกรณีเชื่อมโยงกับสถานประกอบการประเภทสถานบันเทิง ผับ บาร์ ทางรัฐบาล และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีความห่วงใยสุขภาพของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนโรค ควบคุม ป้องกันโรค จัดเตรียมมาตรการสนับสนุนต่างๆ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการคัดกรองโรคและการรักษาได้อย่างทันท่วงที นั้น
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช. ในฐานะองค์กรที่มีภารกิจหนึ่งคือส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนคนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งรวมไปถึงบริการตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วย จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบว่า หากท่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเข้ารับการตรวจคัดกรอง เช่น มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาด มีประวัติเคยติดต่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ เคยติดต่อสัมผัสกับผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและมีอาการป่วย สามารถเดินทางไปเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ที่โรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนทุกแห่ง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเนื่องจากรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้ สปสช.ผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสำหรับการตรวจคัดกรองโควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทุกแห่ง ในส่วนของโรงพยาบาลเอกชนนั้น สปสช.ก็ได้รับความร่วมมือด้วยดี โดย นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ระบุว่าโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งยินดีให้บริการตรวจคัดกรองโควิด-19 แก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐบาล
นอกจากนี้ ขอย้ำว่าสิทธิการตรวจคัดกรองโควิด-19 เป็นสิทธิของคนไทยทุกคน ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เท่านั้น แต่รวมถึงผู้ที่ใช้สิทธิประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ ตลอดจนสิทธิสุขภาพอื่นๆ ด้วย ดังนั้นขอเน้นย้ำว่าคนไทยทุกคนสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ฟรี และขอเชิญชวนให้ผู้ที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงรีบไปเข้ารับการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง คนในครอบครัว คนใกล้ชิด และจะเป็นการป้องกันการระบาดในวงกว้างอีกทางหนึ่งด้วย หากตรวจคัดกรองแล้วพบว่าติดเชื้อก็เข้ารับการรักษาตามขั้นตอนมาตรฐานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากผลออกมาเป็นลบไม่ติดเชื้อ ก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการตรวจคัดกรองเช่นเดียวกัน
"ท่านที่เคยเดินทางไปในพื้นที่ที่พบการระบาด มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ หรือเริ่มมีอาการไม่สบาย สงสัย ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ สามารถไปรับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลได้เลย โดยทางแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าท่านมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนและวางแนวทางการปฏิบัติให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของท่าน ดังนั้นอย่านิ่งนอนใจ หรือประมาทว่าตัวเองไม่น่าจะติดเชื้อ หากท่านเคยไปพื้นที่ระบาด กรณีล่าสุดคือสถานบันเทิงที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือคนที่ไม่ได้ไปแต่มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้จะไม่มีอาการอะไรก็ขอให้ไปพบแพทย์ก่อน ถ้าท่านไม่ติดเชื้อ ท่านก็จะได้สบายใจว่าไม่ติด แต่หากตรวจพบเชื้อ ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาแต่เนิ่นๆ โดยกระบวนการทั้งหมดไม่เสียค่าใช้จ่าย ทางโรงพยาบาลจะส่งเบิกกับ สปสช.ตามหลักเกณฑ์ ซึ่ง สปสช.ได้แจ้งให้โรงพยาบาลทุกสังกัดทั้งรัฐและเอกชนทุกแห่งทราบแล้วถึงรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการตรวจคัดกรองโควิด-19 ตามดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งสามารถเบิกจ่ายกับ สปสช.ได้ โดยไม่ต้องเรียกเก็บจากผู้ป่วย" นพ.จเด็จ กล่าว
ทั้งนี้ สปสช.จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการตรวจคัดกรองโควิด-19 แก่คนไทยทุกคน สำหรับกลุ่มแรงงานข้ามชาตินั้น ทางกรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมงบประมาณสำหรับตรวจคัดกรองโควิด-19 ไว้แล้ว และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 หรือ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
สำหรับกลุ่มเสี่ยงตรวจคัดกรองโควิด-19 มีดังนี้
ก.ตามนิยามผู้สงสัยติดเชื้อโควิด-19 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
มีอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการต่อไปนี้ คือ ไข้/อุณหภูมิตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไอ น้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก
ร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยง คือ
1) 14 วันก่อนเริ่มป่วย มีประวัติอย่างน้อยหนึ่งอย่างต่อไปนี้
1.สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโควิด-19
2.ไปในสถานที่ชุมชนหรือสถานที่ที่มีการรวมตัวของกลุ่มคน เช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล สถานบันเทิง หรือขนส่งสาธารณะที่มีรายงานผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
3.เดินทางไปยัง/มาจาก/หรืออยู่อาศัย ในประเทศที่มีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
4.ปฏิบัติงานในสถานกักกันโรค
2) แพทย์ผู้ตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19
ข.กรณีสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 หรือไปในสถานที่มีการระบาดมา ไม่มีอาการป่วย แต่สงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19 สามารถไปรับการตรวจคัดกรองได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดย สปสช.ได้ปรับแก้ประกาศให้ครอบคลุมการตรวจคัดกรองโควิด-19 ตามดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งสามารถเบิกจ่ายกับ สปสช.ได้ โดยไม่ต้องเรียกเก็บจากผู้ป่วย