ปลุกกระแส “แบนเอ็มเค” แต่ “สุกี้เรือนเพชร” ซวย เหตุอ้างเป็นเพื่อนทายาท สนับสนุนม็อบราษฎร

กระแสแบนเอ็มเคของ “เจี๊ยบ อมรัตน์” ส.ส.พรรคก้าวไกล บานปลายกว่าที่คิด คนที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนกับทายาทรุ่น 3 ของสุกี้เรือนเพชรการันตีเพื่อนไม่เป็นสลิ่ม ช่วยวอร์ด่าสลิ่มในทวิตเตอร์ ช่วยบริจาคเงินอยู่เลย ทัวร์ลงเฟซบุ๊กร้าน ถาม “ไม่รับสลิ่มจริงเหรอ” ทางร้านยืนยันบริการลูกค้าเท่าเทียม ส่วนใครจะเชียร์ขั้วการเมืองถือเป็นเรื่องส่วนตัว

วันนี้ (28 มี.ค.) สืบเนื่องมาจาก น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า เลิกกินร้านเอ็มเค และยาโยอิ แม้จะเป็นร้านโปรดจนกว่าจะเลิกเป็นสปอนเซอร์ให้ช่องทีวีดาวเทียมช่องหนึ่ง หากเป็นการเข้าใจผิดขอให้ทางเอ็มเคเร่งชี้แจงข้อเท็จจริง ก่อให้เกิดกระแสทั้งบอยคอตไม่เข้าร้านเอ็มเค และมีกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าร้านเอ็มเค ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เฟซบุ๊ก “Sirote Klampaiboon (ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์)” ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ที่สนับสนุนผู้ชุมนุมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎร 2563 โพสต์ข้อความระบุว่า “เพราะสุกี้ในโลกไม่ได้มีแค่ MK ใครมีร้านสุกี้เด็ดๆ อยากแนะนำ ช่วยโพสต์ใต้ภาพนี้ได้เลยนะครับ จะเป็นสุกี้แห้งสุกี้น้ำแบบไหนก็ได้หมดเลย”

ปรากฏว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งคอมเมนต์พร้อมแนบภาพตัวเอง ระบุว่า “สุกี้เรือนเพชรไม่สลิ่มจ้า #หยุดจ้วบจ้าบสุกี้เรือนเพชร สบายใจได้ทุกคน เรารู้จักกับทายาทรุ่นสาม เป็นเพื่อนเราเอง ซึ่งตอนนี้เค้าเป็นคนทำร้านอยู่ เค้ารับรู้เรื่องนี้นะ แต่เค้าออกมาพูดอะไรมากไม่ได้ บางคนที่มีพ่อแม่เป็นสลิ่มน่าจะเข้าใจดี คือเค้าก็ไม่อยากมีปัญหากับคนเถ้า (คนเฒ่า) คนแก่ที่บ้านอะ การรักษาความสัมพันธ์ในบ้านก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

ขอย้ำอีกรอบ ตอนนี้เพื่อนเราเป็นคนทำร้านแล้วเพื่อนเราก็ไม่ใช่สลิ่ม ล้านเปอร์เซ็นต์ มันยังช่วยเราวอร์ด่าสลิ่มในทวิตเตอร์อยู่เลย ช่วยบริจาคเงินอยู่เลย อุดหนุนได้ สบายใจได้ คอนเฟิร์ม มันอุตส่าห์ด่าสลิ่มถวายชีวิตแล้ว จะไม่อุดหนุนมันหน่อยเหรอคะ”

ปรากฏว่าเฟซบุ๊กเพจ “เรือนเพชรสุกี้” มีผู้คนตามไปคอมเมนต์และส่งข้อความสอบถามเจ้าของร้านจำนวนมากถึงจุดยืนทางการเมือง บางคนถึงกับจะไม่อุดหนุนอีกต่อไป ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งถามว่า “มีการประกาศในโซเชียลฯ ว่าร้านนี้ไม่รับสลิ่ม เป็นความจริงมั้ยครับ จะได้บอกเครือญาติให้เข้าใจครับ” ทำให้ทางร้านโพสต์ข้อความตอบกลับว่า “สวัสดีค่ะ เนื่องจากข่าวที่เกิดขึ้นบนสื่อออนไลน์ขณะนี้ ทางร้านขอเรียนชี้แจงให้ทราบดังนี้

1. ทางร้านมีนโยบายให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยความเท่าเทียม โดยไม่แบ่งแยกเพศสภาพ สถานะ หรือแม้แต่อุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด

2. การนิยมสนับสนุนฝ่ายการเมืองใดถือเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล ทางร้านไม่เคยแสดงออกเพื่อสนับสนุนหรือต่อต้านฝ่ายการใดฝ่ายการเมืองหนึ่งในนามของร้าน เนื่องจากพันธกิจของร้านมีเพื่อให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม การตัดสินใจสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนฝ่ายใดถือเป็นดุลยพินิจส่วนบุคคล

3. จากข้อความข้างต้นหรือจากภาพที่มีผู้บันทึกมาจากสื่อออนไลน์ “ไม่มี” เนื้อหาส่วนใดที่จะสื่อให้เห็นว่าทางร้าน “ไม่ยินดี” ให้บริการลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตามที่มีบุคคลบนโลกออนไลน์ได้กล่าวอ้างถึง และทางร้านได้สอบถามกับพนักงานทุกคนแล้วพบว่าไม่เป็นความจริงตามที่มีผู้กล่าวถึง หากท่านพบหลักฐานอื่นๆ ที่มีการระบุว่าทางร้านเลือกปฏิบัติเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกันสามารถแจ้งให้กับทางร้านทราบเพื่อสอบสวนและแก้ไขตามขั้นตอนต่อไป

4. หากลูกค้าท่านใดพบพฤติกรรมว่าพนักงานหรือทางร้านไม่เต็มใจ หรือไม่ยินดีเพียงเพราะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน สามารถส่งหลักฐานและใบเสร็จเพื่อให้ทางร้านตรวจสอบวัน เวลา และพฤติกรรมของพนักงานที่ไม่เหมาะสมเพื่อสอบสอนตามขั้นตอนได้เช่นกัน

5. ในการนี้ทางร้านจึงขอชี้แจงและเชิญชวนให้ทุกๆ ท่านได้อ่านข้อความดังกล่าวอย่างระมัดระวังและถี่ถ้วน และเพื่อการรับสื่อที่อย่างถูกต้อง และมีวิจารณญาณ

6. ทางร้านขอยืนยันว่าทางร้านมีความยินดีและเต็มใจบริการลูกค้าทุกท่าน เช่นเดิมตลอดที่ผ่านมา 53 ปี ขอบคุณค่ะ”