กระทู้เดือดพันทิป พ่อกลุ้มใจทะเลาะกับลูกชาย อยากได้มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มานานถึง 3 ปี ถึงขนาดยอมโดนเพื่อนหลอกใช้ ให้ยืมเงินคนโน้นคนนี้เพื่อไปเล่นพนันออนไลน์ ด้านชาวเน็ตเห็นใจ แนะหลากหลายวิธี บางคนเป็นห่วงถึงขั้นซื้อโลงมาเผื่อด้วย เพราะวัยรุ่นห้าวๆ มั่นใจว่าตัวเก่ง จบที่สิบล้อเกือบทุกคน
วันนี้ (22 มี.ค.) ในเว็บไซต์พันทิป มีผู้ตั้งกระทู้ในหัวข้อ “ท้อใจเรื่องลูกมากๆ ครับ”ระบุว่า ทะเลาะกับลูกชายเพราะอยากได้มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มานาน 3 ปี ตั้งแต่ ม.4 จนตอนนี้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ก็ยังต้องทะเลาะกันอยู่ ไม่จบสักที เหตุผลที่ไม่ซื้อให้ก็บอกไปหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ ดีใจที่คิดได้ กลับมาตั้งใจเรียนตอน ม.6 จนเรียนจบได้ แต่ก็ต้องมาผิดหวังอีกที่เขากลับมาหมกมุ่นกับเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ แทนที่จะห่วงเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัย และทัศนคติเขาก็ยังเหมือนเดิม อยากได้รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ หรือทรงบิ๊กไบค์ เพียงเพราะอยากเท่ อยากขี่ไปเรียนตอนเข้ามหาวิทยาลัย
เหตุผลที่ตอนนี้ก็ยังไม่ซื้อให้ คือ ใบขับขี่ยังไม่มี ใบขับขี่ 110 ซีซี เขาไม่อยากได้ อยากได้ 150 ซีซี ขึ้นไป เคยให้โอกาสไปอบรมขับขี่ปลอดภัย ก็ไปเรียนไม่จบไปวันเดียวแล้วก็ไม่ไปอีก เค้าบอกง่ายไป เค้าเก่งแล้ว ทั้งที่บอกอยู่เสมอว่าให้ไปเรียนรู้การขับขี่ที่ปลอดภัย ไม่ได้ให้ไปเรียนให้ขับขี่เป็นหรือเก่ง อีกทั้งยังประมาท สอนอะไรก็เถียง เก่งแล้วทุกอย่าง ทัศนคติขับขี่อันตราย ชอบความเร็ว อะไรท้าทาย อารมณ์ร้อน ไม่รู้สึกถึงอันตรายของมอเตอร์ไซค์ คิดแค่ว่าใส่หมวกกันน็อกแพงๆ ก็ช่วยกันได้แล้ว ยังไม่มีความรับผิดชอบ เคยถามเขาถ้าเกิดไปมาทำยังไงรับผิดชอบไหวไหม เขาก็บอกก็ให้พ่อแม่ซัปพอร์ตช่วย
นอกจากนี้ เขาคิดว่าตัวเองถูกเสมอ พอสอนเขาก็มาเถียงว่าเขาไม่ผิด ทีพ่อแม่ยังคิดว่าตัวเองถูกเลย สรุปแล้วพ่อแม่ผิดใช่ไหม เขาชอบดื้อ เชื่อเพื่อน ไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่ ตอน ม.5 ก็มีปัญหาทีนึงแล้ว เจอเพื่อนหลอกให้ไปยืมเงินคนนู้นคนนี้มาลงทุนเพื่อเก็บเงินซื้อรถมอเตอร์ไซค์ โดยเพื่อนเขาจะเป็นคนเอาไปลงทุนเล่นพนันออนไลน์และแบ่งผลตอบแทนให้ ซึ่งตอนนั้นตนก็ไปตามสืบหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้เขาดูว่าเพื่อนเขาหลอก เขาถึงเชื่อ และตนก็ต้องตามเคลียร์เงินคืนให้คนที่เขาไปยืมมาทั้งหมด หมดเงินไปหลายหมื่นบาท และสอนเขาหวังว่าจะเป็นบทเรียนให้เขาคิดได้ แต่ทุกวันนี้เขาก็เหมือนไม่รู้สึกว่าเพราะตัวเองผิด ยังโทษว่าเพราะพ่อแม่อยู่ เขาว่าถ้าพ่อแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้เขาแต่แรก เขาคงไม่โดนเพื่อนหลอก ที่ผลการเรียนช่วง ม.4-ม.5 ตก ก็เหมือนกัน เขาว่าเป็นเพราะพ่อแม่ทำให้เขาต้องประชดไม่สนใจเรียน
“ผมกับแฟนก็อดทนกับเขาจนท้อแล้วครับ เขาชอบเอาเพื่อนมาอ้างอยากมีรถเหมือนคนอื่น เพราะพ่อแม่ของเพื่อนเขาหลายๆคนตามใจซื้อมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ หรือรถยนต์ ให้ลูกขับขี่มาโรงเรียนตั้งแต่ ม.4 แล้ว สำหรับผมเต็มที่อนาคตเมื่อเขาพร้อมมีใบขับขี่ ก็อาจซื้อให้เขา แค่รถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาเท่านั้น เพราะ 2 ปีก่อน มีข้อตกลงกับเขาอยู่ว่า ถ้าเขาสามารถเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่ต้องสอบแข่งขันกันได้ จะให้รางวัลเขา 50,000 บาท แต่พวกบิ๊กไบค์หรือที่ใกล้เคียงกันไม่ซื้อให้แน่นอน เพราะเป็นห่วงเขา ยิ่งเค้ามีทัศนคติแบบนี้ก็ยิ่งห่วง เรื่องเงินรางวัลถ้าเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลไม่ได้ข้อตกลงนี้ก็จบไปผมควรทำอย่างไรดี ถึงจะเปลี่ยนทัศนคติ ตรรกะ แนวคิดของเขาได้ครับ พยายามอดทนมานานแล้ว ทุกวันนี้ได้แต่ทำใจ บอกไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ไม่อยากฟัง ก็ยังพยายามจะมาคุย หาเรื่องชวนทะเลาะอีก ทุกวันนี้เหนื่อยกับงานแล้วก็ต้องมาเหนื่อยกับลูกอีก เครียดมากครับ” เจ้าของกระทู้ ระบุ
ด้านชาวเน็ตเสนอวิธีการปรับตัวแตกต่างกันไป อาทิ “เปลี่ยนทัศนคติเด็กทำไม่ได้ค่ะ เพราะลูกมีอคติกับพ่อแม่ไปแล้ว ตอนนี้พูดอะไรไปก็คงไม่มีทางเชื่อแน่ เค้ามีคนที่ไว้ใจได้ที่พอจะฟังอยู่ไหมคะ อาจจะต้องให้คนนั้นเป็นคนกลางช่วยสอนให้อีกที ไม่งั้นดูแล้วไม่น่าจะกล่อมให้เข้าใจได้เลยค่ะ จริงๆ ถ้าเขาอยากได้ ก็คงต้องให้เงื่อนไขเขาไป เช่น 1. ให้โอกาสเขาเก็บเงินซื้อเอง และเงินต้องหาได้ด้วยวิธีสุจริตเท่านั้น ถ้าพลาดไปเล่นการพนันแบบนั้นอีก พ่ออาจจะช่วยแต่ถือเป็นครั้งสุดท้ายและจะไม่มีวันได้บิ้กไบท์อีก ถือว่าตัดตกเด็ดขาด 2. ยื่นเงื่อนไขสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่คุณยอมรับ และถ้าเด็กสอบได้ ก็ให้เงิน 5 หมื่นเขาไป พูดคำไหนก็ต้องคำนั้น โอนเข้าบัญชีไปเลย
3. ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะมากับบิ๊กไบค์ ให้เค้าคำนวณแล้วดูว่าต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอที่มีแล้วจะดูแลบิ๊กไบค์ได้ ประกันชั้น 1 ประกันเกิดไปชนคนขึ้นมา ประกันเกิดไปสอยกับเสาไฟฟ้า เกิดพิการขึ้นมา ทำไมพ่อต้องมารับค่าใช้จ่ายตรงนี้ ลูกต้องเป็นคนจ่ายเอง คุณแนะนำค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้เขา แล้วให้เขาคำนวนแล้วเก็บเงินเอง แล้วดูว่าเขาทำได้หรือไม่ ถ้าเขามีความตั้งใจที่จะทำได้จริงๆ แล้วเขาทำได้ คุณก็ควรให้โอกาสเขาซื้อบิ๊กไบค์นะ เพราะเขาก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เขาอยากได้มากจริงๆ แต่ถ้าไม่ครบตามเงื่อนไข คุณก็มีข้ออ้างได้ว่า พ่อเปิดโอกาสแล้วแต่ลูกไม่พิสูจน์ตัวเองเอง แล้วลูกจะเรียกร้องอะไร ปากเก่งอย่างเดียวนี่นา จริงๆ คุณพ่อควรจะมาขับบิ๊กไบค์ด้วยจะดีมากเลยค่ะ ในเมื่อเป็นปฏิปักษ์กับลูกไม่ได้ ก็เข้าร่วมกันไปด้วยเสียเลย แล้วคอนโทรลผ่านความมีส่วนร่วมตรงนี้แทน คิดว่าวิธีนี้น่าจะเวิร์กสุดล่ะค่ะ เอาใจช่วยนะคะ”
บางความเห็นระบุว่า “ต้องอดทนครับ ใจเย็นที่สุด ยืนยันว่า ไม่ซื้อให้แน่ๆ อาจจะบอกเหตุผลว่าเป็นห่วง ยกเคสที่เกิดอุบัติเหตุ มีเพื่อนเค้าเกิดอุบัติเหตุไหม น่าจะมี ยกตัวอย่าง บอกพ่อหวังดี และรักลูกมาก เป็นห่วง ถ้าลุกเกิดอุบัติเหตพ่อจะทำอย่างไร แม่จะทำอย่างไร คิดถึงคนข้างหลังบ้าง คนรอบข้างบ้าง เวลาเจ็บป่วยก็ต้องลางานมาดูแล ค่อยๆสอน เถียงก็ต้องใจเย็นไม่ทะเลาะ เป็นไปได้ขอให้คุยกันดีๆ ไม่เสียงดัง คุยด้วยเหตุผล บอกรักบ่อยๆ ลองชวนไปทำกิจกรรมพ่อลูกบ้าง ช่วงนี้วัยเปลี่ยนแปลง พ่อแม่ต้องใกล้ชิด ทำตัวเหมือนเพื่อน ให้เค้าไว้ใจ รถยนต์เท่ๆ ก็มีนะ แต่งให้สวยๆ ได้ ลองเปิดรูปให้ดู ชี้ชวนไปดูรถก็ได้ ไม่ต้องแพง แต่งสติกเกอร์สวยๆเยอะ การใจเย็นและรับฟัง ค่อยๆ ปรับ ต้องใช้เวลาครับ”
อีกความเห็นหนึ่งที่น่าสนใจระบุว่า “เหมือนคุณพ่อเป็นลูกน้องที่ต้องทำตามคำสั่งคุณลูกนะคะ คุณลูกก็ไม่มีอำนาจอะไรหรอก นอกจากถือว่าตัวเป็นที่รัก เอาความรักของพ่อมาเป็นตัวประกัน เป็นวิธีการของเด็กแท้ๆ เลย เลี้ยงลูกไม่ง่ายหรอก ต้องใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง อ่อนไปก็ไม่ดี แข็งไปก็ไม่ดี แต่เราว่าคราวนี้คุณพ่อใช้ไม้อ่อนมากไปนะคะ คนเราพออยู่ในสังคมมันก็จะมีกฎกติกาขึ้นมาเป็นธรรมดา เราเลี้ยงลูกก็ต้องทำให้ลูกเข้าใจกติกาพวกนั้น ทั้งกติกาที่คุณพ่อกำหนดขึ้น ทั้งกฎหมายที่มีผลบังคับใช้จริงๆ ลองใช้เวลากับลูกให้มากขึ้น พาไปทำกิจกรรมแบบแมนๆ ยิงปืน ตกปลา เดินป่า เล่นกีฬาอะไรก็ว่าไป ขอแค่ให้ลูกได้เปิดใจกับเราบ้าง ทีนี้ก็ค่อยๆ สอนลูกนะคะ สอนเด็กมันยากนะ สอนแบบมีอคติเขาไม่ฟังหรอก ต้องเอาความจริงมาพูด สั้นๆ ตรงประเด็นนั่นแหละ ถึงจะฟัง”
บางความเห็นระบุว่า “เอาตรงๆ ถ้าซื้อให้จริงๆ ก็ซื้อโลงมาเผื่อด้วยครับ ในฐานะที่ผมใช้บิ๊กไบค์ขับไปทำงานทุกวันเกือบแสนกิโลเมตรละ ทุกวันนี้ผมยังไม่ประมาทเลย ยิ่งวัยรุ่นห้าวๆ มั่นใจว่าตัวเก่ง จบที่สิบล้อเกือบทุกคนครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยครับ ถ้าตายไปจะเกเร ไม่ฟังพ่อแม่ บลาๆ ก็ไร้ความหมาย”
อีกความเห็นหนึ่งที่น่าสนใจระบุว่า “อย่าซื้อบิ๊กไบค์ให้ลูกนะคะ เห็นมานักต่อนักแล้วกรณีแบบนี้ แค่อ่านพฤติกรรมของเค้าที่ผ่านจากเล่าเรื่องของคุณแล้ว ซื้อรถให้ก็เหมือนซื้อโลงศพให้เค้าค่ะ ใจร้อน คะนองตัวเอง แถมยังประมาท ถ้าขับรถแบบนี้ มีแต่จะตายไว คุณต้องใจแข็ง อย่าให้ท้ายลูก เรารู้สึกได้เลยว่าลูกคุณไม่ได้สำนึกผิดใดๆ กับการกระทำที่คุณทั้งสองคน ตามกวาดตามเช็ดให้เรื่องการพนัน แถมยังพาลมาโทษคุณอีก ตลกเกินไปล่ะ เราคิดว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ก็คงไม่แคล้วว่า คุณจะต้องมาตามกวาดตามเช็ดอีก และก็คงไม่โทษตัวเองอีกแน่ๆ คนเป็นพ่อเป็นแม่จะตามกวาดตามเช็ดปัญหา หรือ ความต้องการทุกอย่างของลูกไม่ได้หรอกค่ะ ไม่งั้นเค้าก็จะไม่รู้จักโต รู้จักรับผิดชอบตัวเองจริงๆ ซักที เค้าจะถือว่า สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเค้าจะทำอะไรผิด จะเกิดปัญหาอะไรขึ้น ยังไงพ่อแม่ก็ต้องจัดการเรื่องให้อยู่ดี แล้วดูท่าว่า คุณทั้งสองก็จะเป็นแบบนั้นจริงๆ บางทีบางเรื่องตัดหางปล่อยวัดบ้างก็ดีค่ะ อย่าไปเครียดมาก ลูกเลี้ยงได้แค่ตัว แต่ใจมันเลี้ยงกันไม่ได้ พูดด้วยเหตุผลแล้วไม่ฟังก็ต้องปล่อย สู้ๆ นะคะ เลี้ยงลูกวัยรุ่นสมัยนี้มันเหนื่อยค่ะ”