นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ควักเงินส่วนตัวซื้อ “ชิงช้าสวรรค์” ขนาดใหญ่ชมวิว 360 องศา หวังเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.สมุทรปราการ และเพื่อดึงนักท่องเที่ยว สร้างงาน เพิ่มรายได้ให้ประชาชนในจังหวัด
จากกรณีเพจ “ข่าวสารเมืองปราการ v2” โพสต์ภาพพร้อมข้อความประกาศ “ตลาดนัดไมอามี่บางปู” แลนด์มาร์กชื่อดังในจังหวัดสมุทรปราการได้ปิดตัวลงอย่างถาวรแล้ว โดยทางเพจระบุว่า เป็นกำลังใจให้พ่อค้า-แม่ค้า ผู้ประกอบการทุกๆ ท่าน ไม่ได้ไปนานเลย แต่ก่อนที่นี่เฟื่องฟูสุดๆ ของกินเยอะเลย
สำหรับ ไมอามี่ บาซาร์ บางปู (Maimi Bazaar Bangpoo) เป็นการเนรมิตแลนด์มาร์กสุดพิเศษในจังหวัดสมุทรปราการ จุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของการท่องเที่ยวและการพักผ่อนที่ผสมผสานความทันสมัยความสะดวกสบายและการพักผ่อนหย่อนใจเข้าด้วยกันอย่างลงตัว จากการทุ่มงบกว่า 6,500 ล้านบาท ของบริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ เพื่อปลุกกระแสการท่องเที่ยวบางปูมิติใหม่ ตอบรับท่าเรือเฟอร์รีแห่งใหม่บางปู-พัทยา-หัวหิน ชูแนวคิด “The Extraordinary Coastal Lifestyle Destination” ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวและพักผ่อนเหนือระดับที่ดีที่สุดริมฝั่งทะเลบางปูแบบครบวงจร
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 มี.ค. เพจ “หนังสือพิมพ์สมุทรปราการโพสต์ออนไลน์” ได้ออกมาโพสต์ข้อความ เผยว่า นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ เตรียมนำชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่นำมาติดตั้ง ณ พื้นที่หน้าบ้านขาว ริมอ่าวเจ้าพระยา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตลาดเชิงท่องเที่ยวขนาดใหญ่ และคู่กับอุทยานศูนย์การเรียนรู้ หอชมเมืองสมุทรปราการ โดยเผยว่าจะเป็นจุดศูนย์กลางของ 3 แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสมุทรปราการ และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของสมุทรปราการ โดยนายชนม์สวัสดิ์หวังว่า “ชิงช้าสวรรค์” จะเป็นแลนด์มาร์กสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมาใช้บริการ นอกจากนี้ “ชิงช้าสวรรค์” ได้รับอนุญาตและผ่านการตรวจสอบของนายช่าง วิศวกร ตลอดจนควบคุมการติดตั้งให้เกิดความปลอดภัยเป็นอย่างดี และจะเปิดให้ประชาชนชาวสมุทรปราการได้ใช้บริการในราคาถูก และมีความพร้อมที่รองรับนักท่องเที่ยว โดยชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่นี้มีความสูงจากพื้นถึงจุดสูงสุดราว 45 เมตร และ 1 รอบ ใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที ทำให้ผู้ที่ใช้บริการชมทิวทัศน์เมืองปากน้ำโดยรอบได้ 360 องศา และจะได้ตั้งชื่อสถานที่ “ชิงช้าสวรรค์” ขนาดใหญ่และสูงที่สุด หนึ่งเดียวในจังหวัดสมุทรปราการในโอกาสต่อไป