“รสนา” ชี้แม้ปลดล็อกให้นำส่วนต่างๆ ของกัญชา (ยกเว้นช่อดอก) ใช้ทำอาหารได้ แต่ประชาชนก็ยังเข้าไม่ถึง เพราะจำกัดการปลูกเฉพาะหน่วยงานที่ได้รับอนุญาต ทำให้ราคาแพงถึงโลละ 1.5 หมื่น แนะรัฐอนุญาตให้ประชาชนปลูกบ้านละ 3 ต้น พอมีช่อดอกค่อยนำให้ รพ.สต.ใช้ทำยาต่อไป
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานคร และกรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “กัญชาในอาหาร”
โดย น.ส.รสนากล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข คลายล็อกให้เส้นใย เปลือก กิ่ง ก้าน ราก และใบ ไม่เป็นยาเสพติด ยกเว้นช่อดอก หลังจากนั้น 22 กุมภาพันธ์ 2564 อย.ก็มีมติให้ใช้ส่วนของกัญชาและกัญชงที่ไม่เป็นยาเสพติดในผลิตภัณฑ์อาหารได้
น.ส.รสนากล่าวอีกว่า ต่อให้ปลดล็อกกัญชาแล้ว แต่ประชาชนก็ยังเข้าถึงไม่ง่าย เพราะการปลูกยังต้องขออนุญาตจาก อย. และต้องมีคุณสมบัติเป็นหน่วยงานรัฐ สถาบันอุดมศึกษา วิสาหกิจชุมชน เป็นต้น นโยบายปลูกบ้านละ 6 ต้นของนายอนุทินยังไปไม่ถึงไหน ราคาตอนนี้ถูกสุดอยู่ที่ 4 พันบาทต่อกิโลกรัม สูงสุด 1.5 หมื่นต่อกิโลกรัม แบบนี้จะมีใครซื้อหาได้ จะเอามาทำอาหาร วันดีคืนดี ป.ป.ส.บุกต้องแสดงหลักฐานให้ได้ว่าซื้อจากแหล่งที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง
น.ส.รสนากล่าวต่อว่า การให้ประชาชนปลูกได้ ไม่รู้ใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ เหมือนทุกอย่างเปิดทางแล้ว แต่พอไปเจอตรงโน้นกลายเป็นคอขวด ที่เราคิดว่าจะทำเป็นพืชเศรษฐกิจก็ไม่ง่าย อาจทำได้เฉพาะคนที่มีอำนาจมีโอกาสมากกว่าคนอื่น รับรองเจ้าสัวรวยก่อนแน่นอน
ถ้าปลดล็อกแบบนี้ ตนเสนอ 6 ต้นของนายอนุทิน ขึ้นกับว่าจะให้ทั้งช่อดอกเลยมั้ย แต่ระหว่างช่อดอกยังไม่เกิดขึ้น เปิดให้ประชาชนปลูกเอาส่วนอื่นๆ อื่นมาปรุงอาหารได้มั้ย จะได้ไม่ต้องไปซื้อ โดยให้ประชาชนสามารถขึ้นทะเบียนขอปลูกกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 3 ต้นก็ได้ ยังไม่ต้อง 6 พอออกดอกก็ตัดช่อดอกไปให้ รพ.สต.เพื่อส่งให้สถาบันกัญชาเอาไปทำยาก็ได้ แบบนี้ก็จะทำให้ประชาชนเข้าถึงได้