คลิปสาว “แพร แพรี่พาย” บิวตี้บล็อกเกอร์ และเมกอัพอาร์ติสชื่อดัง เข้าป่าพกเครื่องสำอางเข้าป่าแต่งหน้าให้ชาวมันนิ จนกลายเป็นประเด็นดรามาในโซเชียลฯ ทำชาวเน็ตเสียงแตกว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นการเปลี่ยนวิถีชีวิตของชนเผ่า อีกด้านชื่นชมที่มอบความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้ชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. บิวตี้บล็อกเกอร์ และเมกอัพอาร์ติสชื่อดัง สำหรับสาวแพร แพรี่พาย หรือ แพร อมตา จิตตะเสนีย์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวกว่า 1 นาที เผยให้เห็นเจ้าตัวกำลังลงมือแต่งหน้าให้กับชาวบ้านมันนิ (คนพื้นที่อื่นชอบเรียกว่าซาไก หรือเงาะป่า) โดยในคลิปวิดีโอจะเห็นสาวแพรทาปากและปัดแก้มให้หญิงชาวบ้านมันนิ ก่อนสุดท้ายจะมีการถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความว่า
“เข้าป่าพัทลุงพร้อมกระเป๋า Makeup ใบเล็กๆ ทันทีที่รู้ว่า มันนิ หรือที่คนไทยเรียกว่าซาไก หรือเงาะป่า ชอบทา lipstick สีแดงมากๆๆๆ เลือดของการเป็น makeup artist ในตัวที่ยังแฝงอยู่ เดือดด้วยความตื่นเต้น อยากที่จะมีโอกาสแบ่งปันความสนุกสนานและความสวยเหล่านี้ให้แก่สาวๆ ที่ใช้ชีวิตในป่าแห่งนี้ ผู้ใหญ่บ้านบอกพวกเราว่า กลุ่มมันนิมีนิสัยรักสวยรักงามเหมือนกันพวกเราทั่วไปนี้แหละ ถึงจะไม่ได้อยู่ในเมืองก็ตาม และสีที่ชอบมากๆ คือสีแดง การแต่งหน้าถือว่าเป็นภาษาที่เราใช้สื่อสารเลยจริงๆ มันเจ๋งๆ มากๆ ต่อให้เหนื่อยจากการเดินป่าที่สุดลำบาก แต่อิ่มความสุขจริงๆ
Mani Ethnic Group in the forest of Phatthalung province, Thailand. As soon as I’ve heard that they love red lipsticks, we couldn’t wait to hike up and find their village. The trail was one of the most difficult walks I’ve ever experienced as they live hidden deep in the forest though we all are in Thailand, our languages are different. Makeup then came to be our ice breaker then used as a tool for communication brought me that feeling of joy, this love and kindness would forever"
อย่างไรก็ตาม หลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกสู่โซเชียลมีเดียแล้วกว่า 800 ครั้ง ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความติดเห็นใต้โพสต์ดังกล่าวเป็น 2 มุมมอง ส่วนหนึ่งชื่นชมที่แพรี่พายมอบความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่ชาวบ้าน และดูสีหน้าแววตาของหญิงชาวมันนิคนนี้เมื่อเห็นตัวเองผ่านกระจกแล้วต้องบอกเลยว่าน่ารักมากๆ อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ไปมาหลายรอบแล้วค่ะ น้องคนนี้ก็เคยถ่ายรูปมาแล้ว ไม่เห็นต้องเดินป่าเลยค่ะ รถจอดหน้าหมู่บ้านได้เลยค่ะ จริงๆ ไม่ควรเอาของพวกนี้ไปสอน หรือทำให้เขานะคะ เพราะมันจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเขา สองสามปีก่อน เงาะที่นี่ตายไปหลายคนเพราะโรคที่คนเมืองนำมาให้เขานี่แหละค่ะ แค่เขาเสื้อผ้าให้เขาใส่ มันก็เปลี่ยนวิถีชีวิตเขามากพอแล้วค่ะ”
ต่อมา สาว “แพรี่พาย” ได้เข้ามาตอบคอมเมนต์ โดยระบุข้อความว่า
“สวัสดีค่ะ แพรค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อความด้านบนค่ะ หมู่บ้านที่ไปอยู่บริเวณเทือกเขาบรรทัด ลึกเข้าไปในป่า ผู้นำชุมชนของจังหวัดพัทลุง และหัวหน้าทัพลงมารับพวกเราให้ขึ้นไปเยี่ยมชมบ้าน มีการแจ้งและขออนุญาตอย่างชัดเจน / เนื่องจากว่า พอเราจะไป ทางผู้นำชุมชมรู้ว่าเป็นช่างแต่งหน้าจะขึ้นไปหา ได้บอกแพรว่า สาวๆ ที่อยู่ที่นั้นชอบแต่งตัว ชอบทาปากสีแดงมากๆ ตอนขึ้นไปถึงผู้หญิงกลุ่มนี้ บางส่วนแต่งหน้าทาคิ้วทาปากแดงรอพร้อมที่จะต้อนรับและพบเจอ กันเองอยู่แล้ว / จริงอยู่ที่เราไม่ควรไปเปลี่ยน วิถีชีวิต เรื่องนี้แพรเข้าใจมากๆ แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าโลกวิวัฒนาการ พวกเค้าแต่งตัวเหมือนเราแล้ว กินเหมือนเราแล้ว มีลิปสติกสีแดงแล้วด้วย เราแค่เติมเต็มในส่วนที่เราคิดว่าดีที่สุดเพียงเท่านั้น / ส่วนรูปที่คุณให้เราดู สวยค่ะ สวยมากๆ เราเป็น กลุ่มคนที่อยากเรียนรู้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน ธรรมดาๆ มีพกแค่มือถือเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพ เมื่อก่อนป่าอาจจะเยอะ อาหารการกินมีเยอะ ปัจจุบันเมื่อเรื่องของการขยายพื้นที่ป่า มีเรื่องสิทธิการครอบครองพื้นที่ป่า แล้วกลุ่มคนเหล่านี้ หากไม่ปรับตัวให้เข้ากับปัจจุบัน พวกเขาจะไปอยู่ไหน”