“กรมป่าไม้” แจ้งความตำรวจ ปทส.เอาผิดท่าเทียบเรือบ้าน “
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. รายงานข่าวแจ้งว่า ที่สำนักงานตำรวจป่าไม้ นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เดินทางเข้าแจ้งความกล่าวโทษการก่อสร้างท่าเทียบเรือริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ติดต่อโฉนดที่ดินเลขที่ 4295 ต.บางกระบือ อ.บางซื่อ กรุงเทพมหานคร ที่กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ฐาน “ก่อสร้าง หรือยึดถือ หรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต่อ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส.
ทั้งนี้ นายอดิศรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส.ได้ตรวจสอบกรณีการก่อสร้างท่าเทียบเรือริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ตามที่ได้รับการประสานจาก สน.บางโพ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ใน 2 ประเด็น คือ 1. การปลูกสร้างท่าเทียบเรือดังกล่าวต้องขออนุญาตอธิบดีกรมป่าไม้หรือไม่ หากต้องขออนุญาตแล้ว ได้มีการขออนุญาตต่ออธิบดีกรมป่าไม้หรือไม่ และอยู่ภายใต้บังคับตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 หรือไม่ อย่างไร และ 2. การปลูกสร้างท่าเทียบเรือล่วงล้ำแม่น้ำที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นการปลูกสร้างเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนหรือผู้อื่นในที่สาธารณประโยชน์ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 หรือไม่อย่างไร
โดยอธิบดีกรมป่าไม้กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากเอกสารหลักฐาน พบว่าท่าเทียบเรือดังกล่าวมีใบอนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ใบอนุญาตเลขที่ 18/2544 ลงวันที่ 5 มี.ค. 2544 ออกตามความในมาตรา 117 แห่ง พ.ร.บ.การเดินเรือ พ.ศ. 2456 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การเดินเรือฯ (ฉบับ 14) พ.ศ. 2535 มีขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส และมีขอบเขตขนาดความกว้าง 10.35 เมตร ความยาว 21.35 เมตร คิดเป็นเนื้อที่ 0-0-55.24 ไร่ และจากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีท่าเทียบเรือดังกล่าวข้างต้นอยู่จริง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้จอดเรือลอยลำบริเวณข้างเคียงท่าเทียบเรือดังกล่าวเพื่อตรวจสอบค่าพิกัด พบเป็นตำแหน่งเดียวตรงกับแบบเอกสารคำขออนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ที่ยื่นต่อกรมเจ้าท่า ตามใบอนุญาต เลขที่ 18/2544 ลงวันที่ 5 มี.ค. 2544 ในปี 2544 อีกทั้งเมื่อตรวจสอบพบชื่อผู้ขออนุญาตระบุเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในขณะนั้น
จากการแปลภาพถ่ายทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียมพบว่า ในปี 2544 ยังไม่ปรากฏการก่อสร้างท่าเทียบเรือแต่อย่างใด และต่อมาปี 2545-2546 พบการก่อสร้างท่าเทียบเรือแล้ว และภาพถ่ายปี 2563 ยังปรากฏท่าเทียบเรือดังกล่าว จึงเป็นการยึดถือหรือครอบครองมาอย่างต่อเนื่อง ตามข้อกฎหมายถือว่ามีความผิดเนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ฐาน “ก่อสร้าง หรือยึดถือ หรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษตามมาตรา 72 ตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นายอดิศรได้มอบหมายให้นายธีรวัฒน์ แย้มสะอาด เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน นำบันทึกแจ้งความกล่าวโทษพร้อมเอกสารหลักฐาน เป็นผู้แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปทส. และมอบหมายให้นายคม ศรีสวัสดิ์ ผอ.ป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง เป็นพยาน