อัปเดตอาการ “ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร” ดีขึ้น รอเอกซเรย์ปอดสัปดาห์หน้า ลุ้นเนื้อปอดพอให้หายใจได้เอง

อาการล่าสุดของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร อยู่ในเชิงบวก ไม่บ่งชี้การติดเชื้อ แต่ยังไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจออก ปรับโหมดสนับสนุนการหายใจ รอลุ้นผลเอกซเรย์ปอดสัปดาห์หน้า เนื้อปอดเหลือพอให้หายใจได้เองหรือไม่ แต่ยังพูดไม่ได้เพราะเจาะคอ อีกด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูเข้ามาออกกำลังกล้ามเนื้อแล้ว

วันนี้ (5 ก.พ.) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช จากการติดเชื้อโควิด-19 และโรคปอดอักเสบ กระทั่งออกจากห้องความดันลบไปพักต่อที่หออภิบาลการหายใจ หรือ อาร์ซียู ว่า สภาพของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ทุกอย่างไปในเชิงบวก วันนี้หยุดให้ยาปฏิชีวนะบางตัวแล้ว เนื่องจากการติดเชื้อไม่มีข่อบ่งชี้ว่าการติดเชื้ออะไรขึ้นมา อาหารตอนนี้ก็ให้เต็มรูปแบบพร้อมกับเปลี่ยนยาฉีดเป็นยาเข้าทางสายยาง เข้าระบบทางเดินอาหารแล้ว

เอกซเรย์ปอดล่าสุดดีขึ้น ตอนนี้ก็ปรับโหมดเครื่องช่วยหายใจ ค่อยๆ ให้ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เริ่มฝึกหายใจเอง ออกซิเจนเริ่มให้น้อยลงต่อเนื่อง ทำให้ออกซิเจนในกระแสเลือดดีอยู่ เวชศาสตร์ฟื้นฟูเข้าทำหน้าที่แล้ว เพราะผู้สูงอายุเมื่อไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อ สักพักหนึ่งกล้ามเนื้อจะแฟบ ตอนนี้ทีมที่เข้าไปออกกำลังกล้ามเนื้อก็เข้ามาได้ 2 วันแล้ว ก็จะค่อยๆ ทำให้กล้ามเนื้อกลับคืนสู่สภาพเดิมกลับมา ตอนนี้ก็เหลือรอให้ค่อยๆ ถอยเครื่องช่วยหายใจ ไม่อยากเร็วนักแต่ก็เชื่อว่าไม่ช้า เพราะหลักฐานต่างๆ ก็มีแนวโน้มว่าตอนนี้ค่อยๆ ดีขึ้น ก็คงค่อยๆ ให้หายใจดีขึ้น พร้อมกับถอยยาให้ตื่นมากขึ้น

เมื่อถามว่า ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ได้มีการโต้ตอบกับทางทีมแพทย์หรือไม่ ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ เนื่องจากการเจาะคอทำให้ลมไม่ได้ออกผ่านกล่องเสียง เพราะฉะนั้นตอนนี้ยังพูดไม่ได้ แต่ปฏิกิริยายังสื่อกับทีมแพทย์ได้ในช่วงเวลาที่ไม่ตื่น พอตื่นปัญหาใหญ่คือเวลาใช้เครื่องช่วยหายใจไม่เหมือนปกติ บางทีเครื่องช่วยหายใจถึงเวลายิงเข้าแล้วแต่คนยังไม่พร้อมหายใจ จึงเกิดการต้านเล็กน้อย เมื่อใช้เครื่องช่วยหายใจระยะหนึ่งจึงต้องฝึกให้หายใจเอง ด้วยความเร็วที่เหมาะสม ตอนนี้การสื่อสาร ให้ทำอะไรก็ทำตามที่บอกได้

เมื่อถามถึงการประเมินผลการกลับมาของปอดนั้น ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ จะประเมินจากตรงนั้น ตอนนี้วิธีการประเมินว่าปอดจะเหลือมากน้อยแค่ไหนนั้นทำสองอย่าง อย่างหนึ่งคือภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ อันไหนที่ดีน้อยหน่อยก็เอกซเรย์ปอดธรรมดา แต่ตอนนี้เอกซเรย์ปอดธรรมดาดีขึ้นเยอะ ตอนนี้ปลอดภัยที่จะนำออกไปจากเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แล้ว อย่างที่สองคือระดับแก๊สในกระแสเลือดเป็นตัวบอก ถ้าให้ออกซิเจนเข้าไปเท่านี้ คาดว่าระดับเลือดจะเป็นเท่านี้ แล้วก็ได้ตามนั้นจริง ก็แสดงว่าปอดก็น่าจะทำงานได้ดีพอ

แต่ทั้งหมดคำตอบสุดท้าย คือ ปอดต้องดีพอที่จะหายใจด้วยตัวเอง ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ตอนนี้ขั้นตอนคือต้องค่อยๆ ถอยเครื่องช่วยหายใจ ผู้ว่าฯ ก็ยังหายใจของท่านเอง ต้องกลับมาฝึกให้หายใจแรงๆ ด้วยตัวเองไปเรื่อยๆ พอถึงจุดหนึ่งก็จะนำเครื่องช่วยหายใจออก ตอนนี้ปรับโหมดเครื่องช่วยหายใจ สั่งให้หายใจด้วยตัวเองไปเรื่อยๆ เครื่องเป็นตัวกระตุ้นให้น้อยลง และผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นตัวกระตุ้นเครื่องช่วยหายใจมากขึ้น ส่วนจะกี่เปอร์เซ็นต์ ดีกว่าเดิมเยอะ เมื่อก่อนกำหนดจำนวนครั้ง เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพียงแค่ปรับความไว ตอนนี้โหมดควบคุมเริ่มถอยขึ้นมาเรื่อยๆ ก็เป็นโหมดสนับสนุนการหายใจ

เมื่อถามว่า การเอกซเรย์ปอดดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไร ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนที่เข้ามาใหม่ๆ ตอนที่แย่ๆ ออกมาเป็นขาวๆ แสดงว่า มีอะไรอยู่ในปอด ทำให้อากาศเข้าไปไม่ได้ ตอนนี้กลับมาใกล้เคียงปกติ ไม่ถึงกับปกติแต่ดีขึ้น 80-90% เมื่อเทียบกับของเดิม เพราะฉะนั้นรอให้เอ็กซเรย์อย่างชัดเจนสัปดาห์หน้า

เมื่อถามว่า เรื่องการเจาะคอเมื่อหายใจดีขึ้นแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าสามารถหายใจได้เอง และเอาเสมหะออกได้ ท่อที่เจาะคอไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็ปิดลงแล้ว ไม่ต้องไปเย็บอะไร ตอนนี้ท่อเจาะคอทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่เช่นนั้นจะดูดเสมหะยากมาก การแก้ไขการติดเชื้อก็จะยากมาก ตอนนี้ทุกอย่างดีมาก ก็เก็บไว้เป็นอันสุดท้ายเพื่อที่จะได้พูด เรื่องการใช้เสียงและการสื่อสารจะค่อยๆ ทำ ทันทีที่นำท่อออก ลมจะเข้ามาทางรูที่เจาะคอก่อนที่จะปิด ลมที่เข้ากล่องเสียงจะน้อย แต่ต่อไปก็จะปกติ โดยทั่วไปไม่ต้องฝึก คนไข้ก็จะออกเสียงเอง

เมื่อถามว่า คณะแพทย์มีความกังวลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า หลายอย่างเมื่อดูจากตัวเลขก็สบายใจขึ้น เหลือเพียงต้องการให้แน่ใจว่าเนื้อปอดที่เหลืออยู่เพียงพอที่จะหายใจปกติ ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอีก อันนั้นจะเป็นโจทย์สุดท้ายก่อนที่จะนำเครื่องช่วยหายใจออก ตนเชื่อว่า ปัญหาต่างๆ ตอนนี้ไปเกือบหมด เหลือแค่ยาที่ค่อยๆ ถอยลง แต่ต้องคู่ขนานกันไป ถ้าลดยาเร็วเกินไป เกิดกระสับกระส่ายมากขึ้น ต้านเครื่องช่วยหายใจ ทุกอย่างแย่ลงอีก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ตอนนี้ยาหลายตัวเปลี่ยนจากยาฉีดเปลี่ยนเป็นยากินแล้ว ก็ค่อยๆ ลดขนาดลงได้ง่าย

ศ.นพ.ประสิทธิ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู กล้ามเนื้อไม่เร่งจนเกินไป เพราะถ้าเกิดการบาดเจ็บ หรือพลาดแล้วจะยุ่ง แต่ว่าใช้วิธีเครื่องมือสารพัดหลายอย่างทำให้กล้ามเนื้อค่อยๆ แข็งแรงขึ้น ไม่เร่งจนเกินไป เพราะตอนนี้ยังไม่ลงน้ำหนัก แต่ก็ค่อยๆ ทำให้กล้ามเนื้อกลับคืน ข้อดีอย่างหนึ่งคือ อาหารที่ให้ผ่านระบบทางเดินอาหารเกือบเรียกว่าเต็มที่แล้ว