คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยอาการผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พบออกจากห้องความดันลบเมื่อวานนี้ ส่วนวันนี้ให้ภรรยาเข้าเยี่ยม ดูการทำงานของสมองพบปกติ เจ้าตัวยิ้ม แต่พูดเองไม่ได้ ตอนนี้เหลือแต่ปรับยาและให้เวลาปอดปรับตัว จนหายใจได้เองแบบไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
วันนี้ (1 ก.พ.) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงถึงอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่เข้ารับการรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 และโรคปอดอักเสบ ระบุว่า ได้นำตัวนายวีระศักดิ์ออกจากห้องความดันลบแล้ว มาอยู่ห้องผู้วิกฤตบำบัดทางด้านระบบทางเดินหายใจ หรือ RCU เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ไม่มีไข้ การติดเชื้อต่างๆ ควบคุมได้ดีมาก การทำงานของปอดกลับมาดีขึ้นมาก
โดยอาศัยตัวชี้วัด คือ การทำเอกซเรย์ปอด เป็นไปในทางที่ดีขึ้นมาก และผลการตรวจระดับก๊าซต่างๆ ในกระแสเลือด ทั้งออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในระดับที่ถือว่าดีกว่าเดิม และสามารถปรับปริมาณออกซิเจนที่จะให้ผ่านเครื่องช่วยหายใจเมื่อปอดทำงานได้ดีขึ้น ส่วนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ตอนนี้ระบบทางเดินอาหาร สามารถให้อาหารได้เต็มที่ โดยให้สารอาหารเข้าไปเพื่อกระตุ้นลำไส้ แม้จะให้บางส่วนทางเส้นเลือดก็ตาม ผลการตรวจเลือดใกล้เคียงปกติ
ทั้งนี้ โดยทั่วไปยังไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยม แต่ในวันนี้ได้พานางชุติพร วิจิตร์แสงศรี ภรรยาผู้ว่าฯ และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เข้าเยี่ยม ปรากฏว่าวันนี้เห็นรอยยิ้มนายวีระศักดิ์เป็นครั้งแรก พอเห็นภรรยาก็ยิ้ม ก็ให้ได้คุยกัน แต่นายวีระศักดิ์ยังพูดเองไม่ได้ แต่ว่าได้ถอยยาบางส่วนก่อนหน้านี้ที่ทำให้หลับ ซึ่งก็ตื่นขึ้นบ้าง ถือว่าดีที่พอตื่นมาก็เห็นภรรยา ซึ่งตอนแรกหายใจเร็วขึ้น คงดีใจหรือกังวล แต่พอภรรยาบอกให้หายใจช้าลงก็ทำตาม แสดงว่าสื่อสารกันได้ดี หวังว่าจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้กำลังปรับการทำงานเครื่องช่วยหายใจให้นายวีระศักดิ์ค่อยๆ พัฒนาการหายใจด้วยตัวเองมากขึ้น
โดยสรุปก็คือ ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมามีความก้าวหน้าของอาการไปในทางที่ดีขึ้น การทำงานของปอดยังต้องถอยเครื่องช่วยหายใจ ให้นายวีระศักดิ์หายใจด้วยตัวเอง จนสามารถหยุดเครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจใดๆ เป็นความตั้งใจที่ปรารถนาอยากให้เกิด เวลานี้กำลังไปในเส้นทางที่ค่อนข้างดีทีเดียว
ศ.นพ.ประสิทธิ์อธิบายเพิ่มเติมว่า การทำงานของปอดที่ดีขึ้นไม่ใช่เป็นผลมาจากการให้ยาลดการสร้างพังผืด ซึ่งกว่าที่ยาจะทำงานต้องใช้เวลามากถึง 1 เดือน เพราะฉะนั้น ยาตัวแรกที่ให้ไปเป็นยาที่ลดการอักเสบในปอดซึ่งลดการสร้างพังผืดด้วยตัวของมันเอง แต่ระยะยาวยาแบบนี้จะให้นานไม่ได้ ต้องทดแทนด้วยยาอีกตัวหนึ่ง โดยการให้ยาในขณะนี้ได้ปรับอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ตัวยาคล้ายเดิมอยู่ ยังไม่ถอยออกทันที ซึ่งมีการปรับยาจนสุดท้ายยาที่ให้ระยะยาวต้องปรับไปเป็นยาที่กำหนด
“สิ่งที่คาดการณ์แต่เดิมว่าโควิด-19 จะทำลายเนื้อปอดของท่านมากจนอยู่เองไม่ไหว ตอนนี้ผ่อนลงไปเยอะมาก เหลือจุดที่ถอนเครื่องช่วยหายใจ ตอนนี้จะค่อยๆ ถอย ให้เวลาปอดของท่านค่อยๆ ปรับตัว ข้อดีตอนนี้คือจากเอ็กซเรย์ปอดภาพที่ออกมาดีขึ้นมาก แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปอดเป็นส่วนที่ฟื้นกลับตัวไม่ได้” ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าว
ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า การให้นางชุติพร ภรรยาผู้ว่าฯ เข้าเยี่ยมมีวัตถุประสงค์สองอย่าง คือ ประเมินการทำงานของสมอง เพราะนายวีระศักดิ์อยู่ภายใต้ยาที่ลดความรู้ตัว ตรงนี้แสดงว่าชัดเจนที่การทำงานของสมองยังไปได้ดี อย่างที่สองเป็นการให้กำลังใจกัน ให้นายวีระศักดิ์ได้เห็นคนที่ท่านอยากเห็น หากได้การสื่อสารก็น่าจะเป็นกำลังใจให้กัน โดยนางชุติพรถูกกักตัวมาแล้ว 28 วัน และมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว แต่ยังไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยม เพราะเกรงว่าจะเกิดการติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นมาอีก