ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยความคืบหน้าอาการป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หลังจากไม่ได้มีการแถลงอาการมา 2 วัน ว่า เมื่อวันเสารที่ผ่านมา ตอนบ่ายโมง ได้นำผู้ว่าฯ ไปเจาะคอเพื่อดูดเสมหะให้ได้มากขึ้น ลดการอักเสบ เนื่องจากคนที่ใส่ท่อนานๆ มีแนวโน้มเจาะคอ ขณะที่ผู้ว่าฯ เมื่อมีอะไรไปกระตุ้นนิดหนึ่ง เกิดการระคาย ก็จะขยับตัว การเจาะคอจะช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัด เมื่อดูดเสมหะได้มากขึ้น ซึ่งทุกอย่างดำเนินการเรียบร้อยดี ได้มีการแจ้งภรรยาและลูกสาวของผู้ว่าฯ ให้รับทราบและอนุญาตเรียบร้อยแล้ว จากการเจาะคอทำให้การรับออกซิเจนดีขึ้น ลมผ่านเข้าปอดได้ดี การควบคุมการหายใจดีขึ้น การติดเชื้อ ไข้ลดลง ให้ยาปฏิชีวนะตอบสนองได้ดี
ส่วนวันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. ได้มีการประชุมคณะแพทย์ที่ให้การรักษา ส่วนเวลา 20.00 น. ได้มีการนำตัวไปเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ ตรวจดูการทำงานของปอด ว่าโควิดได้เข้าไปทำลายเนื้อปอดมากน้อยแค่ไหน และเหลือเนื้อปอดอยู่เท่าไหร่ เพราะเป้าหมายเมื่อผู้ว่าฯ กลับบ้านต้องไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงดูการทำงานของสมองด้วย จากการตรวจหาเชื้อโควิดในผู้ว่าฯ ไม่พบโควิด 2 รอบ ผลการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ปอดมีการอักเสบและเนื้อปอดบางส่วนมีพังผืดเกิดขึ้น แสดงว่าโควิดเข้าไปทำลายเนื้อปอดและทิ้งรอยไว้
ส่วนหลอดเลือดในปอดเรียบร้อยดี ดูสมองก็เรียบร้อยดี ทำให้สบายใจมากขึ้น โดยวันนี้มีการดูดน้ำออกจากหลอดลมเพื่อนำตรวจโควิดอีกครั้ง และดูการอักเสบ รวมทั้งดูถึงระดับเซลล์ในหลอดลม เพื่อเตรียมให้ยาบางอย่าง ลดการอักเสบและยาลดการสร้างพังผืดในปอด ซึ่งต้องรอดูผลการให้ยาใน 72 ชั่วโมง ว่าระบบทุกอย่างดีขึ้นหรือไม่ ทั้งลดการอักเสบ และการติดเชื้อ
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเจาะคอของผู้ว่าฯ ผ่านมา 48 ชั่วโมง คนส่วนใหญ่มักตกใจ ถ้าเห็นคนไข้หนักเจาะคอ และกล่าวว่าขณะนี้พยายามซื้อเวลาควบคุมการติดเชื้อในปอดและจำเป็นต้องทำ ส่วนการปลูกถ่ายปอดยังไม่ถึงเวลา คนทั่วโลกมีการพูดถึงกันเรื่องที่มีการรายงานในวารสารการแพทย์ว่า โควิดเข้าทำลายเนื้อปอดจนไม่เหลือและไม่สามารถหายใจได้ตัวเอง ออกซิเจนในเลือดไม่พอ บางประเทศมีการเปลี่ยนปอด เอาปอดของคนอื่นมาใส่ แต่ไม่ใช่ทุกรายที่จะทำแบบนี้ การรักษาอยากให้อยู่ด้วยอวัยวะของตัวเองมากกว่า วิธีนี้จึงเป็นวิธีสุดท้าย
พร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านเคยมีคนไข้โควิดอาการหนักเจาะคอ บางคนก็ใช้ปอดเทียม บางคนรอดชีวิต และบางคนก็เสียชีวิต ฉะนั้นอย่าคิดว่าโควิดรอบนี้ไม่หนัก เพราะคนที่มีอาการหนักก็รุนแรงมาก