“นายก อบต.บ้านใหม่” สอน “ธนาธร-พิธา” โยนภาระให้รัฐบาลซื้อวัคซีนทั้งหมด สะท้อนไม่เข้าใจการกระจายอำนาจก็อย่าลงเลือกตั้งท้องถิ่น แจงเงินสะสมท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องเก็บไว้มากเกิน เพราะเป็นเงินภาษีควรใช้พัฒนาชุมชน ส่วนกลางคอยช่วยเหลือเฉพาะท้องถิ่นที่ยังไม่มีความพร้อม จะทำให้ทุกพื้นที่กลับสู่ภาวะปกติได้รวดเร็วกว่า
วันที่ 15 ม.ค. 2564 นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือ อุ๊ กรุงสยาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์คัดค้านแนวคิดให้ท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 เอง โดยอ้างว่า เป็นภาระของรัฐบาล ทางด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ก็ได้โพสต์สนับสนุนแนวคิดของ นายพิธา ด้วย
โดย นายวัชรพงศ์ ระบุว่า ... ในฐานะ นายก อบต.เล็กๆ ชายขอบบ้านนอก ของพระนครศรีอยุธยา จะขอตอบ คุณพิธา และคุณธนาธร นักการเมืองระดับชาติว่า
คุณค่อยๆ ไปอ่านและศึกษาภารกิจบทบาทหน้าที่ของท้องถิ่นให้ดีก่อน สำหรับผม ทำไมควรเอาเงินสะสมของท้องถิ่นออกมาดำเนินการ
ผมตอบแบบนี้ครับ
1. เงินสะสมท้องถิ่นไม่มีความจำเป็นต้องเก็บไว้มากเกิน เพราะเงินภาษีควรนำมาใช้เพื่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ไม่ได้มาเก็บฝากแบงก์ รัฐกับเอกชนต่างกัน ในขณะที่ประชาชนลำบากแต่ท้องถิ่นมีเงินเหลือใช้ และเป็นเงินภาษีของประชาชน การดูแลประชาชนจึงเป็นเรื่องชอบธรรม จะเงินส่วนกลางหรือเงินท้องถิ่น ก็คือ เงินของประชาชน เช่นเดียวกัน ไม่ใช่เงินส่วนตัวใคร
การมีเงินสะสมเหลือมากมีสามกรณี คือ ท้องถิ่น ไม่ทำอะไรกับงบประมาณเหลือมาก เพราะใช้เงินไม่เป็น หรือมันเจริญจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรแล้ว ในขณะที่ประชาชนยากลำบาก แต่รัฐมีเงินฝากธนาคารมาก มันควรหรือไม่
2. ภารกิจการดูแลประชาชนเป็นหน้าที่ปกติของท้องถิ่นที่มีการกระจายอำนาจสู่ประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการชุมชนตนเอง ลดอำนาจของส่วนกลางลง
3. ท้องถิ่นไหนมีความเข้มแข็งลดการพึ่งพาจากส่วนกลางลงได้ นั่นคือ ความสำเร็จของการกระจายอำนาจเพื่อดูแลประชาชนและการพัฒนาในพื้นที่ ควรสนับสนุนและส่งเสริมให้ท้องถิ่นทุกแห่งทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมายต่อไป
4. เรื่องวัคซีนรัฐบาลทำหน้าที่เรื่องมาตรฐาน อย. และการดูแลในส่วนของกลุ่มที่ขาดแคลนและต้องดูแล กลไกของรัฐบาลผ่านหน่วยงานต่างๆ ท้องถิ่น อบต. เทศบาล อบจ. ก็เป็นกลไกหนึ่งของรัฐบาลตามกฏหมาย ดังนั้น การบูรณาการร่วมกันทั้งงบประมาณและบุคลากร ย่อมก่อให้เกิดผลดีและรวดเร็วที่จะช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ ทุกวันนี้กลไกท้องถิ่น มีความพร้อม มีบุคลากร รู้พื้นที่ละเอียด เข้าถึงได้ดีที่สุดกว่ากลไกหน่วยงานอื่น ในระบบราชการ หากรู้จักใช้ประโยชน์จะมีผลดีต่อทุกภาคส่วน นั่นหมายถึง ประชาชนและประเทศชาติส่วนรวม เท่าเทียม ทั่วถึงและเป็นธรรม
5. ท้องถิ่นไหนพร้อมให้เขาทำเพราะนั่นคือเขาเข้มแข็ง ท้องถิ่นไหนไม่พร้อมส่วนกลางก็ดำเนินการเองหรือช่วยเหลือ ก็แค่นั้นไม่ยากอะไร เป็นเรื่องดี ที่ทุกภาคส่วนจะลุกขึ้นมา ร่วมมือกัน
6. อนาคต วัคซีนจะเป็นเรื่องปกติหาซื้อไม่ได้ยากอะไรแบบวัคซีนทั่วไปในอดีต โรคระบาด ไม่ใช่เพิ่งเคยเกิดครั้งแรก ในประวัติศาสตร์มันเกิดมาแล้วหลายครั้ง
7. ความมั่นใจของประชาชนที่ต้องรอความหวังจากวัคซีน ที่จะทำให้วิถีชีวิตปกติกลับคืนมาเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน พื้นที่ไหนพร้อมทำก่อน นั่นคือ เศรษฐกิจ สังคม การทำมาหากินจะกลับคืนมาสู่ประชาชน
8. ส.ส. นักการเมืองคนไหน ยังมีความคิดว่า ทุกอย่างคือภาระของรัฐบาลกลาง คุณอย่าไปหาเสียงหรือลงเลือกตั้งนายก อบจ. เทศบาล หรือ อบต. นั่นเพราะคุณยังไม่เข้าใจคำว่า การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ลดอำนาจส่วนกลางลง กระจายอำนาจสู่ประชาชน ท้องถิ่นเข้มแข็ง คือ ความสำเร็จของประชาชนที่แท้จริง