รมว.สาธารณสุข เผยผลประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ระบุสามารถควบคุมโรคได้ดีในหลายพื้นที่ มีการพูดคุยกันถึงการผ่อนปรนการทำกิจกรรมต่างๆ ในจังหวัด หรือพื้นที่ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อ และพื้นที่ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อมาอย่างน้อย 7-14 วัน กรณีเก็บเงินค่ารักษาผู้ป่วยที่เข้ามาผิดกฎหมายยังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุย ยืนยันไม่ใช่การปฏิเสธการรักษา ผู้ป่วยทุกคนในประเทศไทยต้องได้รับการรักษาตามมาตรฐานสาธารณสุข
วันนี้ (11 ม.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเพจ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หลังจากพ้นกำหนดการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยได้เผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยได้ระบุว่า
“ที่ประชุมได้นำเสนอข้อมูลการควบคุมโรค ที่มีแนวโน้มได้ผลดีในหลายพื้นที่ และเริ่มมีการพูดคุยกันถึงการผ่อนปรนการทำกิจกรรมต่างๆ ในจังหวัด หรือพื้นที่ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อ และพื้นที่ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อมาอย่างน้อย 7-14 วัน ติดต่อกัน น่าจะเป็นกำลังใจ และเป็นความหวังให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ การทำกิจกรรม การประกอบอาชีพ การค้าขาย ก็น่าจะกลับมาได้ อาจจะไม่เหมือนเดิม แต่ก็น่าจะดีกว่าถูกจำกัดหลายๆ เรื่องเช่นในขณะนี้
สำหรับประเด็นภาระค่าใช้จ่ายการรักษาผู้ป่วยที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งกฎหมายโรคติดต่อ มาตรา 41 และ 42 กำหนดไว้ และผมได้นำเสนอให้ช่วยกันคิด ปรากฏว่าได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ วันนี้ ผมได้มอบให้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตั้งคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานพิจารณาแล้ว เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ขอย้ำอีกครั้งว่าประเด็นที่ผมชวนให้คิด ไม่ไช่การปฏิเสธการรักษา
ผู้ป่วยทุกคนในประเทศไทยต้องได้รับการรักษาตามมาตรฐานสาธารณสุข ไม่ใช่การทำงานแบบ “วัวหายแล้วล้อมคอก” หรือแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่เป็นการเสนอให้ภาคประชาชนช่วยกันคิด เพื่อป้องกันการระบาดระลอกสาม โดยมีสาเหตุ “ซ้ำรอยเดิม” เจ็บแล้วไม่รู้จักจำ คือ ปล่อยให้มีการลักลอบนำเชื้อเข้ามาจากต่างประเทศอีก
คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิทางการแพทย์ การสาธารณสุข และผู้แทนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณากัน ผลเป็นอย่างไร รัฐมนตรีมีหน้าที่ประกาศตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันนำเสนอความเห็น ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ทุกความเห็นน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อแแห่งชาติ ต่อไปครับ”