สมุทรสาครส่งตัว 292 แรงงานเมียนมาที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ออกจากศูนย์กักตัวที่สนามกีฬากลาง กลับไปใช้ชีวิตในตลาดกลางกุ้งแล้ว หลังจากครบระยะเวลาและผลตรวจไม่พบเชื้อ เตรียมส่งกลับอีก 300 คน วันพรุ่งนี้ รองผู้ว่าฯ คาดกลับมาเปิดได้ปลายเดือนนี้ วันนี้ (10 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ และ นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครทั้งสองคน พร้อมด้วย นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันส่งตัวแรงงานต่างด้าวที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และได้รับการกักตัวภายในศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 1 สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร ตามระยะเวลาจนครบกำหนด ซึ่งปลอดเชื้อและปลอดภัยดีแล้วจำนวน 292 คน ให้ออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติที่ตลาดกลางกุ้ง อ.เมืองสมุทรสาคร โดยสำนักงานสาธารณสุขจะออกหนังสือรับรองผู้ที่ผ่านการกักตัวว่าปลอดจากเชื้อโควิด-19
นายธีรพัฒน์ กล่าวว่า ได้ทำการชี้แจงให้ผู้ที่จะออกจากศูนย์ฯว่าจะกลับเข้าพักที่ตลาดกลางกุ้งที่เดิม หรือจะออกไปอยู่พื้นที่อื่น เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวยังคงล็อกดาวน์ ไม่สามารถเข้า-ออกใช้ชีวิตได้ตามปกติ จนกว่าผู้ติดเชื้อรายสุดท้ายที่ได้รับการกักตัวจะหายเป็นปกติ ซึ่งทั้งหมดยืนยันว่าจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่เดิมที่ตลาดกลางกุ้ง และคาดว่า สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติไม่เกินปลายเดือนนี้
นายธีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์โดยรวมของจังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้การพบผู้ติดเชื้ออยู่ในอัตราที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็ต้องถือว่าดีขึ้น ส่วนโรงพยาบาลสนาม หรือที่เรียกว่า ศูนย์ห่วงใยคนสาคร ตามที่จังหวัดได้ประกาศอย่างเป็นทางการ 7 แห่งนั้น ณ สถานการณ์ปัจจุบันน่าจะเพียงต่อการรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่เพื่อความไม่ประมาททางจังหวัดยังคงหาพื้นที่เพิ่มเพื่อจัดทำศูนย์ห่วงใยคนสาครต่อไปเผื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงในอนาคต
สำหรับศูนย์ห่วงใยคนสาครที่ประกาศไปแล้วทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ แห่งที่ 1 สนามกีฬากลางจังหวัด แห่งที่ 2 วัดโกรกกราก แห่งที่ 3 วัฒนาแฟคตอรี่ แห่งที่ 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติเทศบาลตำบลนาดี แห่งที่ 5 ศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดช่องลม แห่งที่ 6 อาคารศูนย์เรียนรู้แรงงานข้ามชาติ วัดเทพนรรัตน์ และแห่งที่ 7 อาคารอเนกประสงค์ อบต.ท่าทราย
บรรยากาศที่ตลาดกลางกุ้ง อ.เมืองสมุทรสาคร ผู้ใช้แรงงานชาวเมียนมาจำนวนมากต่างมารอต้อนรับเพื่อนๆ ที่กลับมาจากศูนย์ห่วงใยคนสาคร และโห่ร้องแสดงความยินดีที่ครอบครัว หรือเพื่อนแรงงานด้วยกันกลับมา โดยทุกคนที่กลับสู่ตลาดกลางกุ้งต่างได้รับถุงยังชีพจากสภากาชาดไทยเป็นขวัญและกำลังใจคนละ 1 ถุงอีกด้วย ทั้งนี้ ทุกคนที่ออกจากศูนย์ฯ จะต้องนำหนังสือรับรองว่าผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร มายื่นแสดงตัวต่อ ตม.ด้วย โดยต้องเข้าแถวเพื่อทำทะเบียนประวัติบุคคลก่อนเข้าพื้นที่ควบคุมพิเศษและแสดงพาสปอร์ตจากนั้นก็กลับเข้าไปหาครอบครัว หรือเพื่อนๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในตลาดกลางกุ้งได้ตามเดิม
ด้าน นพ.นเรศฤทธิ์ กล่าวว่า ผู้ที่ออกจากศูนย์ห่วงใยคนสาครจะมีภูมิต้านทานโรค โอกาสติดเชื้อโควิด-19 อีกครั้งเป็นไปได้น้อยมาก และในวันพรุ่งนี้ (11 ม.ค.) จะมีการส่งแรงงานข้ามชาติที่ปลอดเชื้อโควิด-19 จำนวน 300 คน กลับเข้าไปใช้ชีวิตตามปกติที่ตลาดกลางกุ้งอีกครั้ง