สมุทรสาคร - “สาธิต” ลงพื้นที่ติดตาม รพ.สนาม ตรวจดูความพร้อม ทั้งอุปกรณ์สนาม เครื่องมือเพื่อการดูแลรักษา แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อ รวมถึงเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ที่จะต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เผยตั้งเป้าพิชิตโควิด-19 ได้ภายใน 28 วัน
เย็นวันนี้ (4 ม.ค.) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมศูนย์ห่วงใยคนสาคร (โรงพยาบาลสนาม) สนามกีฬากลาง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมีนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
โดยทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามงานเกี่ยวกับรูปแบบของการจัดทำโรงพยาบาลสนาม ความพร้อมของอุปกรณ์สนาม เครื่องมือเพื่อการดูแลรักษา แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อ รวมถึงเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยที่จะต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง
ดร.สาธิต กล่าวว่า การมาในวันนี้เพื่อมาติดตามงานเกี่ยวกับความพร้อมของโรงพยาบาลสนามในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยดูจากตัวเลขที่มีผู้ติดเชื้อมากขึ้น มีความกังวล แต่ก็ต้องสามารถบริหารจัดการในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อทั้งเป็นแรงงานต่างด้าว และทั้งคนไทย ซึ่งคนไทยให้ส่งตัวเข้าไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนแรงงานต่างด้าวก็เอามาไว้ที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งทางจังหวัดสมุทรสาครได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ และเมื่อมาดูตัวเลขผู้ติดเชื้อในแรงงานต่างด้าวสูงขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องสำรองโรงพยาบาลสนามไว้ให้ครบ หรือเพียงพอต่อความต้องการ
เนื่องจากหากมีตัวเลขของคนติดเชื้อสูงขึ้นเพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน ทางผู้ตรวจกับทางจังหวัดจะดำเนินการตรวจเชิงรุกมากขึ้น เพื่อจัดการกับผู้ที่ติดเชื้อให้เข้าระบบเพื่อความปลอดภัยและลดการแพร่กระจายเชื้อ ส่วนการจัดการในภาคเอกชนเองจะต้องมีแนวทางเพิ่มมากขึ้นในการช่วยกันใช้ศักยภาพของตัวเองในการกักและดูแลแรงงานที่อยู่ในโรงงานของเขาได้ ซึ่งจะมีการตรวจที่นั่นด้วย อันนี้ต้องเดินคู่กันไปทั้งหมด เพื่อให้บริหารจัดการตั้งแต่การตรวจเชิงรุก พบผู้ติดเชื้อ เข้าสู่โรงพยาบาล ไปสู่โรงพยาบาลสนาม และใช้เวลาในการปิดกั้นไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย อีกทั้งประชาชนทุกคนที่ยังไม่ติดเชื้อก็จะต้องดูแลและเฝ้าระวังตนเองด้วยการอยู่บ้าน หากออกนอกบ้านต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข หรือจังหวัดกำหนดไว้ ซึ่งถ้าเราทุกคนร่วมมือกันทำให้ได้ เราจะสามารถพิชิตโควิด-19 ได้ภายใน 28 วันตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ดร.สาธิต กล่าวอีกว่า ในส่วนของสมุทรสาคร และภาคตะวันออกที่กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอไปว่าให้ปิดเมือง ปิดกั้นการเดินทางยกเว้นจำเป็น ซึ่งในที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอไปแล้ว เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ปิดกั้นได้มากเท่าไร การจัดการเพื่อสอบสวนหาผู้ติดเชื้อให้ครบเพื่อลดตัวเลขผู้ติดเชื้อให้น้อยจะยิ่งทำได้ง่ายขึ้น จึงเป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขจะต้องร่วมมือกับทางจังหวัดทำงานอย่างเร่งด่วนและพี่น้อง อสม. องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด จะต้องร่วมมือกันทำ เราจะเดินหน้าไปด้วยกันเพื่อต่อสู้กับสถานการณ์นี้ไปให้ได้
ขณะที่ในส่วนของโรงพยาบาลสนาม มีหลายส่วนที่ให้การสนับสนุน เช่น สถานที่กองทัพสนับสนุน เรื่องเตียงและที่นอนจังหวัดสนับสนุน อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องให้เจ้าหน้าที่เรามีพร้อมที่จะสนับสนุน ทั้งหมดนี้เพื่อไม่ให้คนหน้างานมีความกังวลในเรื่องเหล่านี้ และพร้อมรับถ้ามีปัญหาอะไรให้เร่งรีบบอก ทางส่วนกลางจะพยายามสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้มีข้อกังวล เพราะอยู่หน้างานก็เหนื่อยพออยู่แล้ว หากต้องให้มากังวลเรื่องสิ่งของที่ขาดจะทำให้ไม่มีกำลังใจในการทำงาน
ขณะเดียวกัน ทางเราก็ได้มีการนำเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลคนที่ติดเชื้อโควิด-19 จากพื้นที่ที่ยังมีคนติดเชื้อไม่มาก มาศึกษาเรียนรู้วิธีการในการจัดรูปแบบโรงพยาบาลสนาม และการดูแลผู้ป่วยอีกด้วย นอกจากนั้น หากพบว่าพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มียอดผู้ติดเชื้อมากขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเต็มล้นพื้นที่โรงพยาบาลสนามที่จัดเตรียมไว้ทั้งหมดประมาณ 3,000 เตียงนั้น จะมีค่ายทหารภาณุรังษี จังหวัดราชบุรี จะมาช่วยรับตัวผู้ที่ติดเชื้อส่วนหนึ่งไปดูแลรักษาอีกด้วย
ด้านนายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ป่วยแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาครนั้น ยังไม่พบว่า มีอาการรุนแรงแม้แต่คนเดียว แต่มีบางรายที่ส่งเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะแสดงอาการ
ส่วนทางด้านนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ในส่วนของภาพรวมผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อมาโรงพยาบาลสนาม ที่สนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร วันนี้มีเป้าหมายที่จะนำเข้ามาทั้งหมด 200 คน ส่วนที่วัดโกรกกราก เอาเข้าไปแล้วจำนวน 87 คน มีผู้ป่วย 2 คน มีอาการจึงส่งเข้าโรงพยาบาล คงเหลือ 85 คน ตรงนี้ไม่ต้องห่วงถ้ามีอาการหรือมีลักษณะป่วยทางหมอจะดูแล ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดยังขาดพวกที่นอน ผ้าห่ม เนื่องจากเกิดภาวะหนาว หรือสถานที่ถ้าเกิดมีท่านใดต้องการมอบสถานที่ให้เราไปจัดการให้ก็ยินดี แต่ขอให้มีโดมจึงขอความอนุเคราะห์ไปด้วย
หลังจากที่คณะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ห่วงใยคนสาคร สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้เดินทางไปศูนย์ห่วงใยคนสาคร วัดโกรกกราก ต.โกรกกราก อ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดูเรื่องของความพร้อมและการดูแลผู้ติดเชื้อเช่นเดียวกัน โดยข้อมูลที่ได้ทั้งหมดนั้นจะนำไปใช้ในการประชุมพิจารณาหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนในส่วนที่ยังขาด หรือนำข้อดีและรูปแบบการจัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม ไปเป็นแบบอย่างให้แก่จังหวัดอื่นได้ใช้เพื่อการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่อไป