สมุทรสาคร - วันแรกเริ่มเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 30 คน เข้าศูนย์ห่วงใยคนสาคร พร้อมยกระดับสถานประกอบการปรับพื้นที่เป็น Local Quarantine
วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณด้านหน้าศูนย์ห่วงใยคนสาคร (วัดโกรกกราก) ต.โกรกกราก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยวันนี้เป็นวันแรกที่ได้เริ่มมีการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ไม่แสดงอาการ หรืออาการไม่รุนแรงมากนักจำนวน 30 คน เข้ามาพักอยู่ภายในศูนย์ห่วงใยคนสาคร (วัดโกรกกราก) จนกว่าจะตรวจไม่พบเชื้อ และมีแอนตี้บอร์ดี้ คือ มีภูมิคุ้มกันในตัวเอง จึงจะได้กลับออกไปใช้ชีวิตตามปกติ
โดยสถานที่แห่งนี้ เบื้องต้นได้จัดเตียงสนามรองรับผู้ติดเชื้อไว้จำนวน 140 คน มีนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ใหญ่ พร้อมกันนี้ก็ได้มี คำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร เรื่อง จัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรคตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ) เพื่อใช้บริเวณสถานที่ปฏิบัติธรรมของวัดโกรกกราก เป็นที่จัดตั้ง “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร (วัดโกรกกราก) ” จึงห้ามบุคคลใดที่ไม่ได้รับอนุญาต เข้าไปหรือออกจากสถานที่ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ด้านนายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เผย ว่า ภาพรวมของโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร ที่ศูนย์วัดโกรกกราก ก็มีความพร้อมและทางเราได้นำคนเข้าแล้ว โดยคนเหล่านี้เป็นผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ และถ้ามีอาการป่วยหนักก็จะส่งโรงพยาบาล มีความพร้อมด้านเตียงนอนจำนวน 140 เตียง
ขณะที่สนามกีฬากลางจังหวัด มีความพร้อม 95 เปอร์เซ็นต์ รอการนำเตียงมาลงให้ครบจำนวน ซึ่งตอนนี้มีอยู่กว่า 300 เตียง และอยู่ระหว่างการจัดหาเพิ่มเพื่อให้ครบ 540 เตียง ส่วนที่ศูนย์ฯ วัฒนาแฟคทอรี่ ในตำบลพันท้ายนรสิงห์ รองรับผู้ติดเชื้อได้ประมาณ 200 กว่าคน มีความพร้อมราวๆ 70 เปอร์เซ็นต์ ยังต้องดำเนินการเรื่องห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ ที่จะต้องเป็นไปตามระบบการควบคุมโรค
สำหรับบรรยากาศของการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ เข้ามาที่ศูนย์ห่วงใยคนสาคร (วัดโกรกกราก) นี้ ก็พบว่า ในวันแรกมีการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ ที่ค้นพบในชุมชนและสถานประกอบการเข้ามาทั้งหมด 30 คน โดยรถกระบะ 3 คัน ซึ่งเมื่อรถมาถึงหน้าประตู 1 ก็จะให้รถถอยหลังเข้าไป
จากนั้นจึงส่งผู้ที่จะเข้ามาพักอาศัยให้ลงจากรถ แล้วทุกคนก็จะต้องผ่านการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อก่อน แล้วก็เข้าไปรับฟังการปฏิบัติตนภายในศูนย์ฯ จากบุคลากรทางการแพทย์และล่าม ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายใน โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปอย่างเด็ดขาด ส่วนภายนอกก็มีทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ คอยตรวจตราความสงบเรียบร้อยตลอด 24ชั่วโมง.