ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2564 แก่ผู้ที่มาลงนามถวายพระพร เนื่องในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2564 ในวันศุกร์ ที่ 1 มกราคม 2564
ทั้งนี้ ปฏิทินหลวงได้มีการพระราชทานครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2445 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรียกว่า “สมุดปฏิทิน” หรือ “สมุดเล็กสำหรับพก” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 19 จ.ศ. 1264 เรื่องการสโมสรสำราญปีใหม่ คำว่า “ปฏิทินหลวง” เข้าใจว่า เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2459 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังปรากฏคำว่า “ประติทินหลวง” (ปฏิทินหลวง) ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 33 พุทธศักราช 2459 เรื่องการสโมสรสันนิบาตปีใหม่ในพระบรมมหาราชวัง
ความสำคัญของปฏิทินหลวง เป็นการแจ้งพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ข้าราชการ และพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ให้ทราบกำหนดการพระราชพิธี งานพิธีประจำปี วันสาคัญของชาติ กับทั้งเป็นการ พระราชทานของขวัญในวันขึ้นปีใหม่แก่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ข้าราชการ และประชาชนผู้มาลงนามถวายพระพรในวันที่ 1 มกราคม ในพระบรมมหาราชวัง และพระราชฐานต่างจังหวัด 5 แห่ง
โดยปฏิทินหลวงใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการประกอบพิธีทางศาสนา การกำหนดฤกษ์ยามเพื่อ ประกอบพิธีต่างๆ เนื้อหาประกอบด้วย พระปฐมบรมราชโองการ คำประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภก พระราชปณิธาน ปีและศักราชต่างๆ กาลโยค ประกาศสงกรานต์ ตารางปฏิทินย่อ แต่ละเดือน วันกำหนดการ อุปราคา วันหยุดราชการประจาปี การชักและประดับธงชาติในวันสำคัญ วันหยุดตามประเพณีของสถาบันการเงิน วันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมราชินี พระบรมวงศ์ วันประสูติพระบรมวงศ์ และพระอนุวงศ์ วันประสูติสมเด็จพระสังฆราช วันสำคัญของประเทศที่มีสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย วันสำคัญทางศาสนาคริสต์ วันสำคัญทางศาสนาอิสลาม วันสำคัญทางวัฒนธรรมและประเพณีจีน ตารางเทียบปีต่างๆ
จากความหมายและความสำคัญของปฏิทินหลวงที่มีอายุความเป็นมากว่า 1 ศตวรรษ และเป็นปฏิทินหลวงฉบับที่ 2 ในรัชกาล จึงเป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่ที่ล้ำค่าคู่ควรแก่การสะสม และเป็นสิริมงคลยิ่งสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในปีใหม่
การนี้สำนักพระราชวังได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับลงนาม ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม (ด้านทิศเหนือ) ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 07.30-17.00 น.
โปรดแต่งกายสุภาพ และแสดงบัตรประจำตัวประชาชน (สำหรับชาวไทย) สำเนาหนังสือเดินทาง (สำหรับชาวต่างชาติ) ที่จุดคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการการป้องกัการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด