“สยามพารากอน” ออกประกาศชี้แจงกรณีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองนำป้ายมาแขวนในพื้นที่ของศูนย์การค้า ยัน ไม่ได้รู้เห็นยินยอมกับการแสดงออกทางการเมืองภายในพื้นที่ของศูนย์การค้า ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม วอนปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของศูนย์การค้า งดเว้นการจัดกิจกรรม หรือการเรียกร้อง หรือการแสดงออกทางการเมืองทุกรูปแบบ รวมถึงการกระทำที่ไม่เคารพสิทธิ์ของผู้อื่น
จากกรณีกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คณะประชาธิปไตยเพื่อความหวัง หรือ DemHope นำป้ายผ้าแขวนกลางห้างสยามพารากอน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ (17 ธ.ค. 63 ) เพื่อเป็นการประกาศจุดยืน ทั้งนี้ ป้ายผ้าดังกล่าวที่นำมาแขวนมีทั้งหมด 3 ป้าย ซึ่งมีข้อความ “ยกเลิกมาตรา 112”, “ห้างสินค้าราคาแพง แรงงานราคาถูก” และ “แก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน” อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าป้ายผ้าทั้งหมดถูกเก็บทั้งหมดในเวลาต่อมา
ก่อนหน้านี้ คณะประชาธิปไตยเพื่อความหวังเคยใช้ชื่อกลุ่มว่าองค์กรปลดเผด็จการเพื่อเสรีภาพ โดยมี นายปิยมิตร กล้าณรงค์ หรือ หลิน นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในแกนนำ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมักทำกิจกรรมทางการเมืองในย่านบางนาและสมุทรปราการ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (25 ธ.ค.) เพจ “Siam Paragon” ได้ออกประกาศชี้แจงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยได้ระบุข้อความว่า
“สยามพารากอน ขอเรียนชี้แจงว่า สยามพารากอนไม่ได้รู้เห็นยินยอมกับการแสดงออกทางการเมืองภายในพื้นที่ของศูนย์การค้าสยามพารากอน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม สยามพารากอนมีความตั้งใจที่จะให้บริการแก่ลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอยทุกท่านอย่างเต็มที่ในฐานะที่เป็นสถานที่ ที่มอบความสุขให้แก่ผู้คนตลอดมา เรามุ่งให้บริการโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและความพึงพอใจของลูกค้าทุกท่านเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
พื้นที่ของศูนย์การค้าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล จัดเตรียมไว้เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่มาเลือกซื้อสินค้าและใช้บริการจากร้านค้าผู้เช่าพื้นที่ ไม่ได้มีไว้ใช้เป็นพื้นที่ในการเรียกร้อง หรือแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือทำกิจกรรมอื่นใดที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่สะดวกหรือความไม่สบายใจของลูกค้าผู้ที่มาใช้บริการ กระทบต่อการประกอบธุรกิจอย่างปกติสุขของบรรดาร้านค้า และเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานของร้านค้าและของศูนย์การค้า
ตลอดปีนี้ สยามพารากอนก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าศูนย์การค้าอื่นๆ ร้านค้าต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งสยามพารากอนก็ได้พยายามให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการอย่างดีที่สุดเท่าที่จะกระทำได้จนถึงวันนี้ อีกทั้งได้ลงทุนใช้งบประมาณจำนวนมากจัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดและเต็มที่เพื่อดูแลสวัสดิภาพของลูกค้าทุกท่านที่มาใช้บริการรวมถึงพนักงานของร้านค้าทั้งหมด ฉะนั้น หากมีเหตุการณ์ใดที่จะทำให้สถานการณ์ต้องสาหัสไปมากกว่านี้ ย่อมจะมีผลกระทบโดยตรงต่อบรรดากิจการที่เปิดให้บริการในสยามพารากอนที่ได้ว่าจ้างพนักงานรวมกันเป็นจำนวนมากกว่า 15,000 คน
ดังนั้น สยามพารากอน จึงขอความร่วมมือทุกท่านโปรดปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของศูนย์การค้าตลอดเวลาที่เข้ามาใช้บริการในพื้นที่ของศูนย์การค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งดเว้นการจัดกิจกรรมหรือการเรียกร้องหรือการแสดงออกทางการเมืองทุกรูปแบบรวมถึงการกระทำที่ไม่เคารพสิทธิ์ของผู้อื่น ภายในอาคารและทั่วพื้นที่ทั้งหมดของศูนย์การค้า สยามพารากอนขอสงวนสิทธิ์ในการระงับหรือห้ามทำกิจกรรมหรือการแสดงออกใดๆ ที่เห็นว่าไม่เหมาะสมในพื้นที่ของศูนย์การค้า รวมถึงการดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะพึงมีโดยชอบธรรม”