“โรงพยาบาลนครพิงค์” เผยเรื่องราวน่าประทับใจของครอบครัวหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ หลังลูกชายหมดสติล้มลงในห้องน้ำ แพทย์ระบุว่าลูกชายมีภาวะสมองตาย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา สุดท้ายตัดสินใจบริจาค ”กระจกตา” เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นต่อไป
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. เพจ “โรงพยาบาลนครพิงค์” ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวน่าประทับใจของชายหนุ่มวัย 24 ปี ที่หมดสติล้มลงในห้องน้ำ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของชายรายนี้ตัดสินใจบริจาคอวัยวะ “กระจกตา” แก่ ศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยต่อไป ทั้งนี้ “โรงพยาบาลนครพิงค์” ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์น่าชื่นชมในครั้งนี้ว่า
“เช้ามืดของวันที่ 17 พ.ย. 2563 คุณกฤษณ์มงคล เสมอใจ ได้หมดสติล้มลงในห้องน้ำ เพื่อนที่มาพบเห็นจึงได้รีบพาผู้ป่วยส่งไปรักษายัง รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งแพทย์ได้ตรวจพบว่ามีเส้นเลือดในสมองแตก จึงได้ทำการผ่าตัดรักษาอย่างเร่งด่วน ภายหลังการผ่าตัดได้ประสานงานเพื่อส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.นครพิงค์ เมื่อผู้ป่วยมาถึง รพ.นครพิงค์ พบว่าผู้ป่วยมีภาวะช็อก หัวใจเต้นผิดจังหวะ และคะแนนประเมินความรู้สึกตัวทางระบบประสาท (Glasgow Coma score) ต่ำ ได้ทำการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่าเนื้อสมองขาดเลือดและเสียหายเป็นวงกว้าง ศัลยแพทย์ระบบประสาท ได้ตรวจประเมินและพบว่าผู้ป่วยมีภาวะสมองตาย ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว
แม้การเสียชีวิตของชายหนุ่มวัย 24 ปี จะเป็นการสูญเสียที่เกินกว่าความคาดหมาย แต่ คุณศุภกฤษณ์ และ คุณวลี เสมอใจ ผู้เป็นพ่อ แม่ ก็ต้องการให้ลูกชายได้ทำบุญใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายโดยการบริจาคอวัยวะ เพื่อต่อชีวิตผู้อื่น อย่างไรก็ตาม คณะแพทย์ตรวจพบว่าอวัยวะอื่นๆ ไม่สามารถบริจาคได้ เนื่องจากมีสภาพไม่สมบูรณ์ จึงได้ตัดสินใจบริจาคกระจกตาแก่ ศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยต่อไป
“ถึงแม้ชีวิตของลูกจะแสนสั้น ก็ขอให้ลูกได้เป็นแสงสว่างให้ผู้อื่นต่อไป” คือ คำอำลาเป็นครั้งสุดท้ายของผู้เป็นพ่อ แม่ ขอให้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นในครั้งนี้ ส่งผลให้ดวงวิญญาณของคุณกฤษณ์มงคล ไปสู่สุคติและภพภูมิที่ดี
การบริจาคดวงตา คือ การแสดงความจำนงว่า จะบริจาคดวงตา (กระจกตา) ของตนเองเมื่อเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทางศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย จะนำไปใช้ในการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ในปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รอการเปลี่ยนกระจกตามากถึง 11,027 ราย ข้อมูลในปี 2559 มีผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเพียง 763 รายเท่านั้น
การบริจาคอวัยวะ คือ การแสดงความจำนงที่จะบริจาคอวัยวะ ภายหลังการเสียชีวิต (สมองตาย) การบริจาคอวัยวะนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะเป็นการรักษาที่ได้ผลดีในผู้ป่วยที่อวัยวะพิการเป็นการคืนชีวิตให้ผู้ป่วยและเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก
ประเทศไทยยังมีผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะค่อนข้างน้อย ขณะที่มีผู้ป่วยที่รออวัยวะจำนวนมาก (ข้อมูลวันที่ 31 ต.ค. 2563) มีผู้รออวัยวะ 5,575 ราย แต่มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพียง 568 รายเท่านั้น ปัจจุบันมีผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะแล้ว 91,586 ท่าน”