พบไทยรัฐกรุ๊ป เจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และไทยรัฐทีวี เตรียมบุกเบิกธุรกิจใหม่ “ไทยรัฐ โลจิสติกส์” บริการขนส่งสินค้า ในยุคที่สื่อสิ่งพิมพ์กำลังอยู่ในช่วงขาลง
วันนี้ (20 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ไทยรัฐกรุ๊ป ได้ประกาศรับสมัครพนักงานในตำแหน่งต่างๆ เพื่อเตรียมจัดตั้งธุรกิจขนส่งสินค้าที่ชื่อว่า “ไทยรัฐ โลจิสติกส์” ซึ่งคาดว่าจะเป็นธุรกิจใหม่ ต่อจากธุรกิจหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี นับเป็นความชัดเจนที่เกิดขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าไทยรัฐกรุ๊ปเตรียมทำธุรกิจโลจิสติกส์ แต่ก็ไม่มีความชัดเจนออกมา
สำหรับคุณสมบัติของพนักงานขับรถ (Driver) วุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายขึ้นไป มีใบอนุญาตขับรถยนต์ รู้จักเส้นทางที่รับผิดชอบเป็นอย่างดี สามารถยืดหยุ่นเวลาในการทำงานได้ และมีใจรักในงานบริการ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-127-1000 ต่อ 1077 และ 1078 หรือเฟซบุ๊ก Thairath Careers
ที่ผ่านมา ไทยรัฐกรุ๊ป มีรถขนส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นรถบรรทุก 6 ล้อ เครื่องยนต์พิเศษ ทำความเร็วเฉลี่ย 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อขนส่งหนังสือพิมพ์จากกรุงเทพฯ ไปยังสายส่งเพื่อกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ แบ่งออกเป็นเส้นทางต่างๆ อาทิ พัทลุง, หลังสวน, อุบลราชธานี, เลย, หนองคาย, นครพนม, ลำปาง, น่าน, ตราด
โดยรถขนส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เกิดขึ้นจากแนวคิดของ นายกำพล วัชรพล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่มองว่า การส่งหนังสือพิมพ์ไปขายต่างจังหวัดนั้นใช้เวลานานถึง 2 วัน เพราะต้องใช้บริการบริษัทรวมห่อรวบรวมหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจนได้ห่อใหญ่แล้วก็ส่งขึ้นรถไฟ ทำให้ผู้อ่านอ่านหนังสือพิมพ์ได้ช้า จึงตัดสินใจซื้อรถขนส่งหนังสือพิมพ์เองมาถึงปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ ไทยรัฐกรุ๊ปเคยร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ขนส่งตู้ความดันลบ ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในช่วงที่ประเทศไทยเกิดสถานการณ์โควิด-19 เมื่อเดือน เม.ย. โดยใช้รถขนส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ขนส่งอุปกรณ์ติดตั้งตู้ความดันลบจำนวน 4 กล่องต่อ 1 ชุด พร้อมคู่มือการติดตั้ง
อนึ่ง ในปี 2562 บริษัท วัชรพล จำกัด เจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มีรายได้รวม 1,706.03 ล้านบาท รายจ่ายรวม 1,722.93 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 36.04 ล้านบาท นับเป็นการขาดทุนเป็นปีแรก ภายหลังจากปี 2560 มีกำไรสุทธิ 603.79 ล้านบาท และปี 2561 มีกำไรสุทธิลดลงมา 313 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างองค์กรโดยลดจำนวนพนักงานลง 30% ไปก่อนหน้านี้