นายสุทัศน์ สุวรรณผ่องใส รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แจงเหตุดรามา หลังพบว่ามีรถของผู้โดยสารจอดในสนามบินนานกว่า 8 เดือน เนื่องจากติดโควิด จึงไม่สามารถกลับประเทศได้ เจอค่าจอดเกือบ 6 หมื่นบาท เผย นำหลักฐานตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ มาเจรจากันได้
จากกรณีในโลกโซเชียลมีการพูดถึงเหตุการณ์ที่พบผู้ใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้จอดรถค้างคืนไว้ที่อาคารจอดรถโซน 2 เป็นเวลานาน 8 เดือน ทำให้ต้องจ่ายเงินค่าที่จอดรถสูงเกือบ 60,000 บาท จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก สำหรับ รถคันดังกล่าวเป็นรถ TOYOTA รุ่น RIVO สีแดง หมายเลขทะเบียน ข 3438 ชลบุรี เจ้าของรถได้นำรถเข้ามาจอดที่อาคารจอดรถโซน 2 ทสภ. ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563 เวลา 06.07 น. ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เวลา 19.24 น. รวมระยะเวลาจอด 239 วัน โดยผู้ที่นำรถออกไปให้นั้น เป็นเพื่อนกับเจ้าของรถ ซึ่งปัจจุบันยังคงอาศัยอยู่ต่างประเทศ เนื่องจากโดนยกเลิกเที่ยวบินจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ จึงได้ติดต่อให้เพื่อนมานำรถออกไป เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 โดยมียอดค่าอัตราค่าบริการจอดรถจำนวน 59,750 บาท ซึ่งคำนวณมาจากอัตราค่าบริการจอดรถของสนามบินสุวรรณภูมิวันละ 250 บาท คูณกับจำนวนวันที่เข้าจอด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้บริการ ว่า หากมีความประสงค์จะขอลดอัตราค่าบริการจอดรถ สามารถทำได้ โดยต้องนำตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ รวมทั้งเอกสารการยกเลิกเที่ยวบินมาเป็นหลักฐาน แต่เพื่อนเจ้าของรถยินดีที่จะจ่ายเงินตามจำนวนจริง โดยให้เหตุผลว่าไม่ประสงค์ที่จะยื่นหลักฐานดังกล่าว เนื่องจากต้องรอเอกสารในการยื่น
นายสุทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทสภ.ยินดีที่จะลดอัตราค่าบริการที่จอดรถให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งต้องยื่นเอกสาร ได้แก่ หลักฐานตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ เอกสารการกักตัวจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เอกสารการยกเลิกเที่ยวบิน เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการติดต่อขอลดอัตราค่าบริการจอดรถไปแล้วจำนวน 6 ราย
ทั้งนี้ หากผู้ใช้บริการมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำในการใช้บริการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการอาคารจอดรถยนต์ โทรศัพท์ 0 2132 9511 หรือติดต่อ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
URL