วันนี้ (18 พ.ย.) นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยภายหลังจากพิธีรับมอบขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมฯ ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซนทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ว่ากรม ทช.ได้ร่วมกับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ดำเนินโครงการนำขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมมาจัดวางเป็นปะการังเทียมเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2561 เมื่อครั้งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ยังคงดำรงตำแหน่งอธิบดี ทช.
นายโสภณกล่าวว่า การจัดวางขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมได้ผ่านการศึกษาความเป็นไปได้และผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล โดยสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งได้มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่แล้ว ทำให้สามารถมั่นใจได้ในระดับหนึ่งก่อนดำเนินการจัดวาง ทั้งนี้ ทช.ได้เสนอแนวทางการดำเนินงานต่อคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และได้รับความเห็นชอบในหลักการเรียบร้อยแล้ว
นายโสภณกล่าวอีกว่า สำหรับการจัดวางขาแท่นได้เริ่มจัดวางขาแท่นแรกเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 63 และขาแท่นสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 63 โดยหลังจากนี้ ทช.จะได้กำหนดเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเล (Marine protected area) พร้อมแผนและมาตรการการบริหารจัดการพื้นที่จัดวางขาแท่นดังกล่าว รวมทั้งแนวทางการติดตามและศึกษาผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบจากการใช้ขาแท่นปิโตรเลียมในการจัดวางเป็นปะการังเทียม ซึ่งเป็นสิ่งที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.ได้เน้นย้ำเสมอถึงผลกระทบที่อาจจะขึ้นต่อเนื่องจากโครงการฯ ดังนั้น ทช.จะได้กำหนดแนวทางการติดตามผลกระทบในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และระบบนิเวศทางทะเล เพื่อการตัดสินใจในระดับนโยบาย การต่อยอดโครงการในอนาคตและการสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นประโยชน์
“สุดท้ายอยากขอบคุณบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ในฐานะหนึ่งในบริษัทชั้นนำในด้านการผลิตและสำรวจปิโตรเลียมในประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญและความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลที่ดีมาโดยตลอด และเชื่อว่าความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานจะยังเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นในการดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศให้คงความสมบูรณ์ ยั่งยืนเช่นนี้ต่อไป” นายโสภณกล่าว
ด้านนายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เผยว่า เชฟรอนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนโครงการนี้ ด้วยการส่งมอบขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมที่ไม่ใช้งานแล้วให้กับ ทช.ไปจัดวางเป็นปะการังเทียมเพื่อการอนุรักษ์ท้องทะเลไทย พร้อมทั้งให้การสนับสนุนด้านการจัดวางและงบประมาณโครงการฯ ตลอดจนจัดหาผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้สนับสนุนงานศึกษาวิจัยของโครงการฯ เชื่อมั่นว่าโครงการศึกษานำร่องนี้จะสร้างองค์ความรู้ที่มีค่าด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลด้วยปะการังเทียมจากขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียม ซึ่งเป็นแนวทางที่มีการดำเนินงานในหลายพื้นที่ทั่วโลก
นายไพโรจน์เผยอีกว่า ตลอดระยะการดำเนินงาน เชฟรอนได้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนดกฎหมายและเป็นไปตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในระดับสากล โดยการดำเนินโครงการนี้ ได้รับการอนุมัติอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรม ทช. กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า และกรมประมง นอกจากนี้ เชฟรอนยังได้ทำงานร่วมกับบริษัทผู้ร่วมทุน อันได้แก่ บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น จำกัด และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ภายใต้โครงการดังกล่าว ที่เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นเพื่อการเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืน