เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจ ที่ จ.สกลนคร ทรงร่วมฟ้อนรำอย่างเป็นกันเองกับชาวบ้านที่มาส่งเสด็จ

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเรียนรู้การผลิตผ้าย้อมครามบ้านดอนกอย ที่ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ทรงร่วมทอด้าย ปั่นด้าย ย้อมคราม และทอผ้า กับประชาชนอย่างใกล้ชิด ก่อนเสด็จกลับ ทรงทอดพระเนตรการแสดงพื้นบ้านชุด "ลีลาคราม ณ ริมฝั่งน้ำหนองหารสกลนคร" ทรงร่วมฟ้อนรำอย่างเป็นกันเองกับชาวบ้านที่มาส่งเสด็จ

วันนี้ (17 พ.ย.) เพจเฟซบุ๊ก HRH Princess Sirivannavari Nariratana Rajakanya ได้เผยแพร่พระกรณียกิจ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปยังกลุ่มทอผ้าครามบ้านดอนกอย อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ทอดพระเนตรการผลิตผ้าย้อมครามของกลุ่มฯ ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ซึ่งพื้นที่อำเภอพรรณานิคมมีการปลูกต้นครามจำนวนมาก ในอดีตชาวบ้านจึงนิยมย้อมผ้าครามเพื่อส่วมใส่ในครัวเรือน ต่อมาในปี 2546 จึงมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มสมาชิก เพื่อส่งเสริมอาชีพเสริมหลังการทำนา และเป็นอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ในการนี้ ทอดพระเนตรกระบวนการการผลิตผ้าย้อมครามตั้งแต่ การมัดหมี่ โดยใช้เชือกฟางมัดเส้นด้าย เพื่อขึ้นลายก่อนนำไปย้อม ล้าง และตาก จากนั้นเป็นกระบวนการเตรียมเส้นดาย ได้แก่ การกวัก การค้นหูก สืบหูก และการปั่นหลอด รวมถึงการทอผ้า โดยทรงทดลองทอผ้าด้วยกี่ 2 ตะกอ ลายย้อมเปลือกไม้ ผ้าฝ้ายเข็นมือ ซึ่งเป็นการนำเส้นด้ายมาขัดกันให้เป็นลวดลาย โดยขึงเส้นด้ายชุดหนึ่งให้เป็นเส้นหลัก เรียกว่าเส้นยืน แล้วใช้เส้นอีกชุดหนึ่งเรียกว่าเส้นพุ่ง ผ้าย้อมคราม มีคุณสมบัติพิเศษคือ ใช้วัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น ไม่ใช้สารเคมี มีลวดลายสวยงาม สวมใส่เย็นสบาย และสีไม่ตก

ปัจจุบัน มีสมาชิกกลุ่มฯ 53 คน ผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมครามเป็นสินค้าจำหน่าย สร้างรายได้ให้กับสมาชิกเดือนละ 5,000-6,000 บาท โดยกรมส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจ ในปี 2562 ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้าโอทอป ระดับ 5 ดาว ของจังหวัดฯ และยังเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนทอผ้าย้อมคราม สำหรับผู้สนใจด้วย

จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งโปรดให้ไปตรวจรักษาประชาชน และสัตว์เลี้ยงในพื้นที่บ้านดอนกอย และพื้นที่ใกล้เคียง ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ของกลุ่มสมาชิกในพื้นที่อำเภอพรรณานิคม ที่นำสินค้ามาจัดแสดง รวม 12 กลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นสินค้าผ้าย้อมครามที่นำมาแปรรูปเป็นสินค้าต่าง ๆ อาทิ ผ้าพันคอ หมวก และกระเป๋า นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมเปลือกไม้ ที่นำเปลือกไม้มาย้อมผ้าให้สีสันอื่น ๆ ที่สวยงาม อาทิ มะม่วง และประดู่ ก่อนเสด็จกลับทรงเยี่ยมราษฎรที่ไปเฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด

เวลา 13.33 น. เสด็จไปยังวัดสันติสังฆาราม ตำบลสว่าง อำเภอพรรณานิคม ทรงวางพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาพระพุทธชินราชจำลอง พระประธานในอุโบสถ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2518 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงตัดลูกนิมิตรอุโบสถ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2523

จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังพระบรมธาตุเจดีย์ศรีบูรพาจารย์ ทรงวางพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาอัฐิธาตุและรูปหล่อสัมฤทธิ์ พระญาณสิทธาจารย์ สิม พุทฺธาจาโร พระภิกษุฝ่ายวิปัสสนาธุระสายพระป่า ศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ผู้สร้างวัดสันติสังฆารามและเจ้าอาวาสรูปแรก โดยพระบรมธาตุฯ มีลักษณะเป็นทรงแปดเหลี่ยมแบบศิลปะพื้นถิ่นอีสานสร้างขึ้นเมื่อปี 2562 ในองค์ระฆังพระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และโดยรอบประดิษฐานอัฐิธาตุและรูปหล่อพระภิกษุศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต รวม 3 รูป

วัดสันติสังฆาราม สร้างขึ้นเมื่อปี 2480 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาปี 2506 ปัจจุบัน มีพระครูวินัยธรวิชัย ญาตธมฺโม เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์จำพรรษา 10 รูป