“พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” พระนักเคลื่อนไหว ออกมาโพสต์ภาพความแออัด เผยถูกลดจำนวนรถรับส่งของพระนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ขณะเดินทางเรียนที่อยุธยา พร้อมระบุชัด “ขอรถเมล์คืนให้นิสิตเถอะ”
วันนี้ (10 พ.ย.) เฟซบุ๊ก “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” พระนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและสังคม โพสต์ภาพความลำบากของพระนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต้องโดยสารรถ
ระบุว่า “โถ่! คุณภาพชีวิตของพระนิสิต มจร. (สภานิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย) เข้าใจนะครับว่าทางมหาวิทยาลัยมีนโยบายเรื่องการลดค่าใช้จ่าย แต่การนำนโยบายนี้มาใช้กับการลดจำนวนรถรับส่งนิสิต ซึ่งแต่เดิมก็มีเพียง 6 คันอยู่แล้วให้เหลือแค่ 3 คัน มันเป็นอะไรที่โหดร้ายและไม่มีเมตตาธรรมเลยนะ
นิสิตจำนวนเป็นร้อย กลับต้องให้มายัดเยียดและเบียดเสียดกันอยู่บนรถเมล์คันเดียวแบบนี้ได้ยังไงครับ แถมระยะทางในการเดินทางก็ไม่ใช่ใกล้ๆ จากกรุงเทพมาวังน้อยอยุธยา มันตั้ง 60 กว่ากิโลฯ ต้องทนเบียดเสียด ทนยืนทนโหน ต้องดมกลิ่มควันกลิ่นฝุ่น ไหนจะกลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์อีก กว่าจะไปถึงมหาวิทยาลัย พระนิสิตจะเอาพลังที่ไหนศึกษาเล่าเรียนคนออกนโยบายนั่งรถคันเป็นล้าน แต่พระนิสิตที่ต้องรับชะตากรรมได้นั่งพื้นและโหนรถเมล์ อันนี้เป็นเสียงสะท้อนของพระนิสิตหลายรูป ไหนมหาลัย เคยรับปากอย่างแม่นมั่นว่า จะดูแลคุณภาพชีวิตของนิสิตให้ดี ไหนเคยรับปากว่า จะไม่ให้นิสิตต้องลำบากเรื่องการเดินทาง
ผมถือโอกาสในฐานะที่เป็นพระนิสิตรูปหนึ่งของมหาจุฬา ส่งเสียงสะท้อนนี้ไปถึงผู้บริหารของมหาลัยด้วยความเคารพนะครับ ขอส่งเสียงสะท้อนแทนน้องๆ พระนิสิตทุกรูปที่กำลังรู้สึกอึดอัดและขัดข้องใจ ผมอยากให้มหาลัยพิจารณาใหม่ใด้ดีดี ผมคิดว่ามีหลายเรื่องที่ควรแก่การลดค่าใช้จ่ายได้ มีหลายอย่างที่ลดแล้ว ไม่กระทบและสร้างความเดือดร้อนให้กับมหาลัยหรือคุณภาพชีวิตของนิสิต รบกวนทบทวนด้วย รถเมล์ที่มีเครื่องปรับอากาศเป็นฝุ่นควันเพียงแค่ 6 คัน ซึ่งใช้สำหรับรับส่งนิสิตหลายร้อยรูป สร้างภาระให้กับมหาลัยขนาดนั้นเลยหรอครับ อย่าให้ถึงกับว่า นิสิตต้องนั่งเบียดกันที่บันใดทางเดินในรถเมล์ เพื่อให้ได้มาเรียนเลยครับ อย่าให้ถึงกับที่คนขับรถเมล์ต้องไล่ให้นิสิตนั่งแท็กซี่ไปเรียนเองเลยครับ
อย่าให้นิสิตต้องมีสภาพเหมือนหมูที่กำลังจะถูกส่งไปโรงเชือดในทุกๆเช้าและทุกๆ เย็นเลยครับ (หรือผู้บริหารของมหาลัยพอใจที่เห็นเช่นนั้น) คุณภาพของนิสิตสะท้อนถึงคุณภาพของมหาวิทยาลัย ผมอยากจะฝากไว้ด้วยความเคารพ ขอรถเมล์คืนให้นิสิตเถอะ”
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยสงฆ์ หรือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ได้สถาปนาขึ้นเพื่อถวายแด่คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายโดยเริ่มจัดการเรียนการสอนด้านพุทธศาสตร์ เป็นสาขาแรกแล้วต่อมาได้ขยายการเรียนการสอนไปยังสาขาวิชาอื่นๆ มีบทบาทโดดเด่นในการส่งเสริมการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก และเป็นมหาวิทยาลัยศูนย์กลางการศึกษาด้านพุทธศาสตร์ที่สำคัญของคณะสงฆ์ไทย มีการจัดตั้งวิทยาเขต,วิทยาลัยสงฆ์,ศูนย์วิทยบริการและห้องเรียนกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนใน 4 คณะ ครอบคลุมทั้งระดับปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต จนถึงปริญญาพุทธศาสตรดุษฎี บัณฑิตหลักสูตรนานาชาติ และภาษาอังกฤษรวมทั้งสิ้น 33 สาขาวิชา
นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งสถาบันวิจัยขึ้นภายในมหาวิทยาลัยเพื่อดำเนินการวิจัยในด้านพุทธศาสตร์ประยุกต์ด้วย
คลิกโพสต์ต้นฉบับ