ทบ.แจงกรณีนักเรียน รด.โพสต์ภาพอาหารกลางวัน เผยเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด

รองโฆษก ทบ.ชี้แจงกรณีนักศึกษาวิชาทหารเผยภาพอาหารกลางวันที่ต้องจ่ายในราคา 1,300 บาท เผยเป็นเรื่องเข้าใจผิด เงิน 1,300 บาท รวมทั้งค่าอาหาร อุปกรณ์การเรียนการสอน วุฒิบัตร เครื่องหมายกระโดดหอ

จากกรณีนักศึกษาวิชาทหารเผยภาพอาหารกลางวันที่มีเพียงข้าวสวย 1 ทัพพี ไก่ทอด 1 ชิ้น ขนมเวเฟอร์ช็อกโกแลต 1 ชิ้น เท่านั้น ซึ่งผู้โพสต์ต้องเหมาจ่ายค่าอาหารทุกมื้อ 1,300 บาท จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์
นักเรียน รด.เผยค่าอาหารในค่าย 1,300 บาท แต่กลับได้เพียงข้าวสวย-ไก่ทอด 1 ชิ้น

ต่อมา เมื่อวันที่ 8 พ.ย. เฟซบุ๊ก “Wassana Nanuam” หรือ วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดังโพสต์ชี้แจงจากรองโฆษก ทบ.ถึงกรณีที่เกิดขึ้นโดยระบุว่า “แมว ยังไม่อิ่ม! ทบ.ชี้ โอละพ่อ! แค่เข้าใจผิด ทบ.แจงโพสต์อาหารนักเรียน ร.ด.ที่สุรินทร์ น้อยมาก เติมไม่ได้ ไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป ชี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด เผยเจ้าตัวขออภัยแล้ว ยืนยันดูแลนักศึกษาวิชาทหารตามมาตรฐาน พร้อมเผยภาพอาหารของจริง ชี้เงิน 1,300 บาท รวมทั้งค่าอาหาร อุปกรณ์การเรียนการสอน วุฒิบัตร เครื่องหมายกระโดดหอ ยันใช้หลักสูตร Active learning”

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ.กล่าวว่า ตามที่มีผู้โพสต์เรื่องอาหารของนักศึกษาวิชาทหาร ระบุจ่าย 1,300 บาท แต่ได้รับประทานอาหารไม่เพียงพอ และเติมไม่ได้นั้น ทบ.ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้โพสต์และสถานที่ฝึกที่อ้างถึง คือ หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหารใน จ.สุรินทร์ เป็นการจัดการเรียนการสอนแบบรวมห้วงเวลา 10 วัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 สำหรับภาพที่นำลงในสื่อออนไลน์นั้นเป็นภาพที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่นักศึกษาวิชาทหารได้รับประทาน ซึ่งหน่วยฝึกยืนยันว่าได้ดำเนินการประกอบเลี้ยงครบถ้วนตามหลักโภชนาการ และมีปริมาณเพียงพอในแต่ละมื้อ คือ กับข้าว 2 อย่าง และของหวาน 1 อย่าง

สำหรับค่าใช้จ่าย 1,300 บาทนั้น มิใช่ค่าอาหารอย่างเดียว แต่รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอน วุฒิบัตรเครื่องหมายกระโดดหอ เป็นต้น การโพสต์ดังกล่าวเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหารได้มีการประสานชี้แจงข้อมูลกับผู้โพสต์จนเป็นที่เข้าใจ ทั้งนี้ ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ขออภัยที่ทำให้สังคมเข้าใจผิดแล้ว เรื่องนี้คงจะยุติลงได้ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏข้างต้น

อย่างไรก็ตาม ขอเรียนยืนยันว่ากองทัพบกให้ความสำคัญต่อกระบวนการเรียนการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ที่ผ่านมามีการปรับปรุงในทุกด้านอย่างต่อเนื่องทั้งหลักสูตร Active learning เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียนเป็นสำคัญ

การแต่งกาย ทรงผม ด้านจิตอาสา ปรับปรุงสถานที่เรียนให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด ยกระดับครูฝึกให้มีมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งการดูแลด้านกายภาพและการประกอบเลี้ยงในช่วงการฝึกที่ถูกหลักโภชนาการ เพราะกองทัพบกตระหนักดีว่านักศึกษาวิชาทหารเป็นกำลังสำรองที่มีคุณภาพและเป็นอนาคตของชาติ การดูแลฝึกฝนเสริมสร้างอุดมการณ์จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตร และสอดคล้องกับภาระหน้าที่พลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป”

คลิก>>>โพสต์ต้นฉบับ