“พสกนิกรชาวอุบลราชธานี” ปลื้มปีติ ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยตลอดระยะเวลาที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ จ.อุบลราชธานี ได้มีพสกนิกรชาวอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จด้วยความปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
โดย นางสุชาดา สีมาบรรณ ชาวบ้านวังคก ต.โคกสว่าง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงความรู้สึกที่มีโอกาสได้เฝ้าฯรับเสด็จว่า ดีใจมาก อายุจะ 50 ปีแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสครั้งแรก เป็นบุญสูงส่งมากที่ได้เข้าเฝ้าฯรับเสด็จ ครั้งแรกในชีวิต ตั้งแต่ทราบข่าวหมายกำหนดการที่ทรงเสด็จมาใกล้บ้านเรา เราต้องมาให้ได้ ภูมิใจมากที่เกิดเป็นคนไทย
ขณะที่ นางรจนา วงศ์ษาสันต์ ชาวบ้านหนองกอก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจ ดีใจ และระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานให้พวกคนพิการอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญ ช่วยเหลือคนยากคนจน ดีที่สุด จึงอยากมาเข้าเฝ้าฯเพื่อจะได้เห็นและชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่านด้วยตัวเอง
เช่นเดียวกับ นางสร้อยทอง ปราบพงศา ชาว ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า มีความดีใจและภูมิใจมากจนอธิบายไม่ถูก ที่ได้มาเข้าเฝ้าฯรับเสด็จ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ทั้งในหลวงรัชกาลที่ ๙ จนมาถึงในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ก็อยู่ในใจเสมอมา.
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยตลอดระยะเวลาที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่ จ.อุบลราชธานี ได้มีพสกนิกรชาวอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จด้วยความปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
โดย นางสุชาดา สีมาบรรณ ชาวบ้านวังคก ต.โคกสว่าง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงความรู้สึกที่มีโอกาสได้เฝ้าฯรับเสด็จว่า ดีใจมาก อายุจะ 50 ปีแล้ว เพิ่งจะมีโอกาสครั้งแรก เป็นบุญสูงส่งมากที่ได้เข้าเฝ้าฯรับเสด็จ ครั้งแรกในชีวิต ตั้งแต่ทราบข่าวหมายกำหนดการที่ทรงเสด็จมาใกล้บ้านเรา เราต้องมาให้ได้ ภูมิใจมากที่เกิดเป็นคนไทย
ขณะที่ นางรจนา วงศ์ษาสันต์ ชาวบ้านหนองกอก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจ ดีใจ และระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานให้พวกคนพิการอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญ ช่วยเหลือคนยากคนจน ดีที่สุด จึงอยากมาเข้าเฝ้าฯเพื่อจะได้เห็นและชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่านด้วยตัวเอง
เช่นเดียวกับ นางสร้อยทอง ปราบพงศา ชาว ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า มีความดีใจและภูมิใจมากจนอธิบายไม่ถูก ที่ได้มาเข้าเฝ้าฯรับเสด็จ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ทั้งในหลวงรัชกาลที่ ๙ จนมาถึงในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ก็อยู่ในใจเสมอมา.