วันนี้วันแรกเปิดระบบใช้สิทธิ “โครงการคนละครึ่ง” รัฐแจกส่วนลด 50% สูงสุดวันละ 150 บาท หรือ 3,000 บาทตลอดโครงการ พบร้านค้าร่วมโครงการ กทม.มากสุด 2.3 หมื่นแห่ง จังหวัดใหญ่ สงขลา-เชียงใหม่-ชลบุรี คึกคัก ส่วนนครนายก-อุทัยธานี-ตราด ร้านค้าเข้าร่วมน้อยสุด
วันนี้ (23 ต.ค.) เป็นวันแรกที่ “โครงการคนละครึ่ง” จะเปิดระบบให้ประชาชนที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วกว่า 6.8 ล้านราย ใช้สิทธิตามร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าโอทอป สินค้าธงฟ้า และสินค้าทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ บรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ารายย่อย
โดยรัฐบาลจะให้ส่วนลด 50% เมื่อใช้จ่ายตามร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าโอทอป สินค้าธงฟ้า และสินค้าทั่วไป โดยใช้สิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สูงสุดไม่เกิน 150 บาทต่อวัน และไม่เกิน 3,000 บาทตลอดโครงการ สามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนและได้รับ SMS เข้าร่วมโครงการแล้ว จะต้องเติมเงินลงใน G-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ผ่านโมบายแบงกิ้งทุกธนาคาร, คิวอาร์โค้ด หรือตู้เอทีเอ็มให้เพียงพอก่อน จากนั้นเมื่อชำระเงินให้เข้าไปที่แบนเนอร์ “สิทธิคนละครึ่ง” เลือก “สแกน QR เพื่อใช้คูปอง” ระบบจะแสดงส่วนลด “สิทธิเงินสนับสนุนคนละครึ่ง” และยอดเงินที่ต้องชำระ
ตัวอย่างเช่น ค่าอาหารทั้งหมด 200 บาท หากชำระผ่านโครงการคนละครึ่ง ระบบจะแสดงส่วนลด “สิทธิเงินสนับสนุนคนละครึ่ง” 100 บาท ยอดเงินที่ต้องชำระ 100 บาท แต่หากใช้จ่ายมากกว่า 300 บาทขึ้นไป สิทธิเงินสนับสนุนคนละครึ่ง จะได้สูงสุดแค่ 150 บาทเท่านั้น เช่น ค่าอาหารทั้งหมด 500 บาท ระบบจะแสดงส่วนลดเพียง 150 บาท ยอดเงินที่ต้องชำระ 350 บาท
ทั้งนี้ กรณีที่ในแต่ละวันใช้สิทธิต่อวันไม่ครบ 150 บาท ระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้เข้ายอดรวมของผู้ได้รับสิทธิ และจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 06.00 น. ของทุกวัน โดย 1 คนสามารถใช้สิทธิได้ไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดโครงการ
สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ ขณะนี้สิทธิคงเหลือ 3,195,765 ราย สามารถลงทะเบียนได้ผ่านทางเว็บไซต์ คนละครึ่ง.com โดยผู้ที่ลงทะเบียน ต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และจำกัดจำนวน 10 ล้านคน หรือจนกว่าสิทธิจะหมด
อย่างไรก็ตาม หากลงทะเบียนแล้วไม่ใช้สิทธิภายใน 14 วัน ระบบจะทำการตัดสิทธิของผู้ได้รับสิทธิตลอดโครงการ และหากได้รับสิทธิและมีการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งไปแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิเข้าร่วมมาตรการช้อปดีมีคืน โดยการขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป เมื่อซื้อสินค้าและบริการ ระหว่างวันที่ 23 ต.ค. ถึง 31 ธ.ค. 2563 เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
ข้อมูลจากเว็บไซต์ คนละครึ่ง.com ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2563 พบว่า 10 จังหวัดแรกที่มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” มากที่สุด ได้แก่
1. กรุงเทพมหานคร 23,599 แห่ง
2. สงขลา 6,236 แห่ง
3. เชียงใหม่ 6,009 แห่ง
4. ชลบุรี 5,678 แห่ง
5. ขอนแก่น 5,037 แห่ง
6. นครศรีธรรมราช 5,003 แห่ง
7. สุราษฎร์ธานี 4,875 แห่ง
8. นนทบุรี 4,458 แห่ง
9. อุบลราชธานี 4,451 แห่ง
10. นครราชสีมา 4,424 แห่ง
ส่วนจังหวัดที่มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” น้อยที่สุด คือ นครนายก 544 แห่ง รองลงมา คือ อุทัยธานี 637 แห่ง และ ตราด 639 แห่ง